วันนี้ Animal kingdom จะมาแนะนำสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักตัวเล็กที่เป็นที่นิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงมามากกว่า 10 ปี และสัตว์ที่เราจะแนะนำก็คือ “เต่าญี่ปุ่น” สัตว์ชนิดนี้เป็นที่นิยมในการนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากเพราะมีขนาดตัวที่เล็กน่ารักประกอบด้วยราคาที่ถูก แต่ทราบหรือไม่ว่าเต่าชนิดนี้ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นเหมือนชื่อของมัน ซึ่งที่มาของชื่อมาจากที่พ่อค้าชาวญี่ปุ่นได้นำเต่าชนิดนี้มาขายในไทยเป็นเจ้าแรกจึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง และตอนนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสัตว์เลี้ยงชนิดนี้ว่ามาจากที่ไหนแล้วเลี้ยงอย่างไร ถ้าหากพร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ

ข้อมูลทั่วไปของเต่าญี่ปุ่น
เต่าญี่ปุ่น หรือ เต่าแก้มแดง เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง เป็นเต่าน้ำจืด โดยจัดอยู่ในวงศ์ Emydidae และอยู่ในสกุล Trachemys ซึ่งเป็นเต่าที่นิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากว่า 30 ปีแล้ว

ถิ่นกำเนิด
เต่าญี่ปุ่นมีถิ่นกำเนิดที่ทวีปอเมริกาเหนือ แถบแม่น้ำมิสซิสซิปปี จากรัฐอิลลินอยไปถึงอ่าวเม็กซิโก โดยอาศัยอยู่ในเขตน้ำชุ่ม
ลักษณะรูปร่างของเต่าญี่ปุ่น
เต่าญี่ปุ่นแรกเกิดจะมีกระดองจะเป็นสีเขียว เมื่อโตขึ้นจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีออกเขียวคล้ำๆ ส่วนขาทั้ง 4 ขา จะมีผังผืดสำหรับว่ายน้ำ โดยสัตว์ลี้ยงชนิดนี้จะมีจุดเด่นคือมีสีแดงรอบ ๆ ดวงตา จึงได้ชื่อว่า เต่าแก้มแดง เมื่อตัวโตเต็มวัยขนาดตัวจะอยู่ที่ 1 ฟุต ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย
การผสมพันธุ์
ช่วงผสมพันธุ์จะอยู่ในช่วงเดือน มีนาคม-มิถุนายน ซึ่งพวกมันจะผสมพันธุ์กันในน้ำ แล้วช่วงเดือนสิงหาคมตัวเมียจะขึ้นไปวางไข่บนบก ซึ่งใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 60-75 วัน โดยจะพร้อมผสมพันธุ์เมื่ออายุได้ 2 ปี มีอายุเฉลี่ยประมาณ 30 ปี แต่เคยมีบันทึกว่าสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้เคยมีอายุถึง 40 ปี

วิธีการเลี้ยง
เต่าญี่ปุ่นนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่เลือกกินไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือพืช โดยวิธีการเลี้ยงมีดังนี้
สถานที่ในการเลี้ยง สถานที่เลี้ยงจะต้องเป็นสถานที่ที่มีแอ่งน้ำและพื้นที่แห้งไว้สำหรับให้พวกมันขึ้นมาผึ่งแดดบนบก แต่จะต้องมีร่มเงาไว้หลบแดดด้วย เนื่องจากเป็นสัตว์เลือดเย็นจะต้องนำออกมาตากแดดอ่อน ๆ เพื่อกระตุ้นระบบทำงานและรับวิตามิน โดยห้ามนำไปตากแดดร้อนจัดหรือเลี้ยงไว้ในมราที่ไม่มีร่มให้หลบ และต้องเปลี่ยนน้ำทุกอาทิตย์เหมือนสัตว์เลี้ยงอย่างพวกปลา เพราะมันขับของเสียลงในน้ำ ยิ่งโตยิ่งต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย ถ้าหากไม่เปลี่ยนน้ำ มันจะมีอาการไม่อยากอาหารและมีอาการป่วยตามมา
การให้อาหาร สัตว์เลี้ยงทุกชนิดเมื่อยังเล็กอยู่ จะต้องการอาหารที่เคี้ยวได้ง่าย ซึ่งสัตว์เลี้ยงชนิดนี้ก็เช่นกัน จะต้องพึ่งอาหารเสริมตามท้องตลาด ซึ่งราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อโตขึ้นก็จะประหยัดค่าอาหารได้มาก โดยการให้ผักบุ้งเป็นอาหารหลักและให้อาหารเม็ดเป็นอาหารเสริม

ปัญหาที่พบเยอะที่สุดในการเลี้ยง
เมื่อสัตว์เลี้ยงพวกนี้โตขึ้นจำเป็นต้องหาบ้านใหม่ให้มัน บางคนมีบ่อสำหรับเลี้ยงก็ถือเป็นเรื่องดี แต่บางคนตัดปัญหาโดยการนำไปปล่อยทิ้งตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพราะไม่อยากรับผิดชอบอะไรต่อ จึงเป็นปัญหาเต่าพันธุ์ต่างถิ่นเข้ามารุกรานเต่าพันธุ์ไทย เนื่องจากเต่าญี่ปุ่นมีความแข็งแรงและดุร้ายจึงสามารถแย่งอาหารและที่อยู่ของเจ้าถิ่นเดิมได้สบาย ๆ ทำให้เกิดปัญหาทางระบบนิเวศของเต่าไทย ซึ่งคนที่จะเลี้ยงควรตระหนักถึงช่วงที่มันโตว่ามีกำลังรับผิดชอบไหวหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาของระบบนิเวศต่อไป