สัตว์หลายชนิดที่มีชื่อเรียกขัดแย้งกับสายพันธุ์ อย่างหมาไม้ สัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่มีความคล้ายคลึงกับพญากระรอกดำ แต่จริง ๆ แล้วพวกมันเป็นสัตว์ที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับเพียงพอน ถึงแม้ว่ารูปร่างภายนอกจะไม่ค่อยคุ้นชินนักไปจนถึงชื่อที่อาจจะไม่เคยได้ยินกัน จนทำให้เข้าใจว่าเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งค้นพบ แต่จริง ๆ แล้ว พวกมันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้มาอย่างยาวนาน จนในตอนนี้สถานการณ์ด้านประชากรของพวกมันก็น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก พวกมันจะมีลักษณะเป็นอย่างไรและจะน่าสนใจขนาดไหน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกมันกัน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
หมาไม้ พังพอนที่มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุดในโลกยุคเก่า
หมาไม้ หรือ มาร์เทิน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในตระกูลเพียงพอนที่มีขนาดตัวใหญ่โตมากที่สุดในโลกยุคเก่า ร่างกายมีความแข็งแรงกำยำ เมื่อโตเต็มวัยตัวผู้จะมีความยาวลำตัวได้ถึง 72 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 5.7 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ตัวเมียจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าเล็กน้อย โดยมีความยาวประมาณ 62 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 3.8 กิโลกรัมโดยประมาณ ขนของพวกมันจะสั้นจนเรียบเนียนติดไปตามผิวหนัง แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวขนก็จะยาวมากขึ้นซึ่งก็ถือว่ายาวกว่าในช่วงฤดูร้อน
สีขนจะเป็นสีไล่ระดับจากบริเวณลำคอไปจนถึงหาง เริ่มต้นจากสีครีมสว่างไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ ส่วนบริเวณใบหน้าของหมาไม้จะมีสีที่เข้มพอ ๆ กับบริเวณกลางลำตัว แก้มจะมีสีอมน้ำตาลแดง ส่วนริมฝีปากล่างและคางจะมีขนเป็นสีครีมจนเกือบขาว
สัตว์เลือดอุ่นอย่างหมาไม้มีลักษณะภายนอกที่ดูคล้ายลิงผสมกับตัวพังพอน มีหางยาวเป็นพวงเหมือนกับกระรอก เวลาเดินจะเดินสี่ขา แต่ก็สามารถยืนด้วย 2 ขาหลังและใช้ 2 ขาหน้าแทนมือได้เช่นกัน กะโหลกเป็นทรงสามเหลี่ยมที่มีจมูกและปากยื่นยาวออกมา
ดวงตากลมโตสีดำสนิทดูไร้เดียงสา มีหูขนาดเล็ก 2 ข้างที่ด้านบนของขมับคล้ายกับหมี เห็นน่ารักน่าชังแบบนี้แต่เล็บของพวกมันมีความแหลมคมเป็นอย่างมาก มากเพียงพอที่จะช่วยให้สามารถเอาชีวิตรอด ท่ามกลางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและออกล่าเหยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เขตพื้นที่การกระจายพันธุ์ของหมาไม้จะค่อนข้างกว้างขวาง ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่กึ่งโซนร้อนมาจนถึงพื้นที่เขตร้อน ไล่ตั้งแต่ทางตะวันออกของรัสเซียมาจนถึงเทือกเขาหิมาลัย รวมประเทศเกาหลี ไต้หวัน ลงใต้มาจนถึงคาบสมุทรมลายู ทั้งเกาะบอร์เนียว ชวา และสุมาตรา
สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่แบบใดก็ได้ ทั้งป่าบึง ป่าเมล็ดเปลือย ป่าสปรูซ ป่าชั้น 2 หรือบนภูเขาที่ไม่มีแม้แต่ไม้ยืนต้น พบได้ตั้งแต่ระดับเดียวกับน้ำทะเลไปจนถึง 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
พฤติกรรมและการอยู่อาศัยของหมาไม้
หมาไม้เป็นสัตว์กินเนื้อที่อาณาเขตการหากินกว้างขวางเกินขนาดลำตัวไปมาก เพราะกินพื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 1.7 ตารางกิโลเมตร ไปจนถึง 11.8 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็จะมีอาณาเขตของแต่ละตัวที่ซ้อนทับกันประมาณ 34% โดยประมาณ
หากอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตหนาวพวกมันจะออกเดินทางตั้งแต่ 10 กิโลเมตร จนถึง 20 กิโลเมตร แต่สำหรับในประเทศไทยนั้นพวกเขาจะเดินทางเพียงแค่วันละ 1 กิโลเมตรเท่านั้น ส่วนอาณาเขตในการหากินจะอยู่ที่ประมาณ 7.2 ตารางกิโลเมตร
สัตว์นักล่าอย่างหมาไม้จะออกหากินเฉพาะในช่วงกลางวัน ออกหาอาหารด้วยกันเป็นคู่ หรือบางทีก็รวมฝูงกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ล่าสัตว์ที่มีขนาดตัวเล็กกว่าอย่างไก่ หนู กิ้งก่า กระต่าย หรือไข่ของสัตว์ปีก บางครั้งที่หากินไม่ได้ก็สามารถกินซากศพได้เช่นกัน
เคยมีรายงานว่า พวกมันกินแม้กระทั่งศพของมนุษย์ด้วยซ้ำไป และถึงแม้ว่าจะดูตัวเล็กน่ารัก แต่หากรวมฝูงกันก็สามารถล่าลูกสัตว์ใหญ่อย่างลูกเก้งหรือกวาง ที่มีน้ำหนักตัวกว่า 12 กิโลกรัมได้เลยทีเดียว
กลุ่มที่อยู่ในประพม่าและเทือกเขาหิมาลัย จะมีความสามารถในการล่าสัตว์ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวเองได้อย่างเก่งกาจเลยทีเดียว หรือพื้นที่บริเวณไหนที่มีเสือโคร่ง หมาไม้ก็จะไม่ล่าสัตว์เอง แต่จะตามรอยเสือโคร่งไปแอบกินซากที่เหลือไว้แทน
นอกจากกินสัตว์แล้ว พวกมันก็สามารถกินน้ำหวานและผลไม้ได้ด้วย และดูเหมือนว่าจะชื่นชอบการกินผลไม้มากกว่าการกินเนื้อเสียอีก พวกมันจึงมีความสำคัญกับระบบนิเวศในฐานะของสัตว์ที่กระจายเมล็ดพืชพันธุ์ไปทั่วทั้งป่านั่นเอง
นอกจากนี้ เมื่อพบเห็นพวกมันตามธรรมชาติ ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะวิ่งเข้าไปเล่นด้วย เพราะพวกมันมีความดุร้ายและยังไม่เกรงกลัวมนุษย์อีกด้วย แต่หากเป็นตัวที่อยู่กับมนุษย์ตั้งแต่เด็ก พวกมันก็จะมีนิสัยที่เชื่องและเลี้ยงง่าย มีความสามารถในการปีนและกระโดดระหว่างกิ่งไม้ได้ไกลกว่า 9 เมตรเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว พวกมันมักจะหากินบนพื้นดินมากกว่าก็ตาม
ประเทศไทยขึ้นบัญชีหมาไม้ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่ออนุรักษ์เรียบร้อยแล้ว
หมาไม้อาจดุร้ายและเป็นนักล่าที่มาพร้อมกับความสามารถมากมาย แต่ในปัจจุบันก็ถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีศัตรูหรือภัยคุกคามตามธรรมชาติมากนัก แต่ในประเทศไทย หมาไม้เป็นสัตว์ที่หาได้ยากและมีความน่ากังวลเกี่ยวกับจำนวนประชากรไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการขึ้นบัญชีให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เราจึงไม่สามารถครอบครองทั้งตัวสัตว์ ชิ้นส่วน หรือซากได้ ไม่สามารถฆ่า ล่า หรือทำร้ายพวกเขาได้เช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว หากใครอยากจะให้พวกเขาอยู่เป็นความน่ารักของโลกใบนี้ต่อไป ก็ต้องช่วยกันดูแลธรรมชาติและอนุรักษ์พวกเขาต่อไปอย่างยั่งยืน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me
