หมูป่ามีลักษณะคล้ายกับหมูบ้าน ซึ่งสัตว์ป่าชนิดนี้ก็นิยมนำมาเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งอีกด้วย เป็นการเลี้ยงเพื่อนำมาประกอบอาหารหรือการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน ในประเทศไทยของเรานั้นสามารถพบฝูงของหมูป่ากลางเมืองได้เพียงแค่ 2 แห่งเท่านั้น คือ กรุงเทพมหานคร ในเขตสะพานสูง โดยมีจำนวนประชากรของสัตว์ป่าชนิดนี้อยู่ราว 50 ตัว และในจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ มีจำนวนประชากรหมูอยู่ที่ประมาณ 200 ตัว วันนี้ Animal kingdom จะพาไปรู้จักกับสัตว์ป่าชนิดนี้กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย

ข้อมูลทั่วไปของหมูป่า
พวกมันจัดอยู่ในวงศ์ Suidae ซึ่งอยู่ในชั้น Mammalia โดยจะอยู่ในอันดับ Artiodactyla และอยู่ในไฟลัมสัตว์ที่มีแกนสันหลัง ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

ลักษณะรูปร่าง
หมูป่ามีลักษณะคล้ายกับหมูบ้าน แต่สัตว์ป่าชนิดนี้จะมีขนที่ยาว ส่วนสีของลำตัวเป็นสีเทาหรือบางตัวอาจเป็นสีน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณส่วนหัวจะชี้ตรงไปทางด้านหลัง สัตว์ป่าพวกนี้มีขนาดความยาวตั้งแต่หัวไปถึงลำตัวประมาณ 140-150 เซนติเมตร ส่วนความยาวของหางประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีน้ำหนักตัวประมาณ 80-200 กิโลกรัม ตัวผู้จะมีน้ำหนักเยอะกว่าตัวเมียเสมอ โดยตัวเมียมีเต้านม 5 เต้า ลูกของสัตว์ป่าชนิดนี้เกิดมาจะเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะมีแถบเส้นสีดำครอบผ่านลำตัว ดูมีความคล้ายกับแตงไทยบ้านเรา

ลักษณะพฤติกรรม
หมูป่าเป็นสัตว์ป่าที่มีประสาทรับกลิ่นที่ไวมาก แต่ประสาทการได้ยินกับการมองเห็นจะไม่ค่อยดีนัก ยกเว้นช่วงที่มันสงสัยในกลิ่นประสาทหูและตาจะไวกว่าปกติ นั้นจึงทำให้จมูกของสัตว์ป่าชนิดนี้เป็นเสมือนเครื่องรับประกันความปลอดภัยของมัน พวกมันมีพฤติกรรมที่ชอบอยู่กันเป็นฝูง ขนาดฝูงจะมีประมาณ 6-5 ตัว จนไปถึงฝูงใหญ่ที่มีจำนวนหมูในฝูงที่ 50 ตัว โดยปกติแล้วตัวผู้ที่มีขนาดตัวใหญ่จะรวมฝูงเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ แต่ช่วงที่ไม่ผสมพันธุ์ก็จะแยกออกจากฝูงไปอยู่เพียงลำพัง ทำเรียกกันว่า “หมูโทน” พวกมันจะชอบหากินตอนเช้าหรือตอนเย็น และช่วงกลางวันจะมักหลบซ่อน
สถานภาพปัจจุบัน
หมูป่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์

ถิ่นกำเนิดหรือที่อยู่อาศัย
สัตว์ป่าอย่างหมูป่าสามารถพบเห็นได้ในทวีปเอเชีย, ทวีปยุโรป, ทวีปอเมริกาใต้, ทวีปแอฟริกาเหนือและในไทยสามารถพบได้ทุกภาคในประเทศของเรา ซึ่งพวกมันจะอาศัยอยู่ตามป่าเต็งรัง, หนองน้ำและป่าดิบแล้ง