หากพูดถึงสุนัขสายพันธุ์คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล หลายคนคงจะนึกถึงหมาพันธุ์เล็กที่มีความน่ารักราวกับตุ๊กตา มีขนปุกปุยและดวงตากลมโต ด้วยนิสัยที่ขี้เล่น ร่าเริง เข้ากับเด็กได้เป็นอย่างดี ทำให้พวกเขาเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ใครที่กำลังสนใจสุนัขพันธุ์นี้อยู่ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จัก คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล สุนัขพันธุ์เล็ก ขนยาว น่ารัก น่าเอ็นดู
ในอดีต คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล มีชื่อว่า Comfortorter Spaniel ซึ่งถือว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ของสหรัฐอเมริกา อยู่ในกลุ่มของหมาพันธุ์เล็กกะทัดรัดที่สามารถพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 พวกเขาได้ไปปรากฏตัวอยู่บนพระฉายาลักษณ์ของกษัตริย์คิงส์ ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร คาดการณ์กันว่าพระองค์ชื่นชอบสุนัขพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก จึงมีการมอบพระนามชื่อสายพันธุ์สุนัขให้เป็นชื่อของตนเอง และอนุญาตให้สามารถพาพวกเขาเดินไปไหนมาไหนภายในราชวังและรัฐสภาได้ตามสะดวก
หลังจากนั้น คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นสุนัขของราชวงศ์ มีเพียงคนชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะสามารถเลี้ยงได้ และหลังจากนั้นไม่นานนัก พวกมันก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอังกฤษ โดยเฉพาะในกลุ่มราชวงศ์ที่เรียกได้ว่า มีติดตัวกันคนละตัวสองตัวเลยทีเดียว
เมื่อเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 19 ขุนนางผู้มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเชื้อพระวงศ์อังกฤษก็มีการนำเอา คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ไปพัฒนาจนมีสีสันที่หลากหลายและยังได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในกลุ่มราชวงศ์
จากนั้นพวกมันก็ถูกนำเอาไปผสมข้ามสายพันธุ์ จนกลายเป็นสายพันธุ์มาตรฐานในยุคปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 1996 ในฐานะสายพันธุ์สุนัขอย่างเป็นทางการ
เปิดลักษณะของ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล แบบไหนถึงจะเรียกว่าพันธุ์แท้
เพียงแค่ได้เห็น คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล หลายคนคงเดาได้แล้วว่าพวกมันต้องมีวิธีการเลี้ยงที่ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับมือใหม่อย่างแน่นอน จากขนที่ทั้งยาวและนุ่มไปตลอดทั้งลำตัว การหวีขนเป็นประจำจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของต้องใส่ใจ
ความโดดเด่นของ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล คือ มีดวงตาที่กลมโตดูอ้อนวอนอยู่ตลอดเวลา และใบหูขนาดใหญ่ที่ตกลงมาแนบ 2 ข้างแก้ม เหมือนกับคนผูกผมทวินเทล จมูกและปากเป็นสีดำ หางมีลักษณะเป็นพวงคล้ายกระรอก หน้าอกลึก และลำตัวเล็ก
พวกเขาจัดอยู่ในกลุ่มของหมาพันธุ์เล็กที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และน้ำหนักเริ่มต้นตั้งแต่ 6 กิโลกรัม ไปจนถึง 8 กิโลกรัม ปัจจุบันมีสีขนที่หลากหลาย และใน 1 ตัวอาจมีได้มากกว่า 1 สี อายุขัยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 9 ปีไปจนถึง 14 ปี แล้วแต่สุขภาพและการดูแล
คู่มือเลี้ยง คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ตั้งแต่เป็นลูกสุนัขจนโตเต็มวัย
เราต้องขอบอกเลยว่า ก่อนรับ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล มาเลี้ยง จะต้องเรียนรู้วิธีดูแลอย่างถูกต้องเสียก่อน เพราะถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสุนัขที่สุขุม อ่อนโยน รักสงบ รักเจ้าของ แถมยังเข้ากับคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี
แต่หากพวกมันเจอกับสุนัขที่ตัวใหญ่กว่า พวกเขาก็จะกลายเป็นสุนัขที่ขี้กลัว การเลี้ยงกับเด็กอาจต้องระมัดระวัง เพราะขนาดตัวค่อนข้างเล็ก หากเด็กเล่นแรงก็อาจเกิดอันตรายได้ และหากเด็กแสดงพฤติกรรมไม่ดี ก็อาจเป็นการฝึกให้พวกเขานิสัยไม่ดีตามไปด้วยได้เช่นกัน
การดูแลอาหารและการออกกำลังกายของสุนัข
อาหารของ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล จำเป็นจะต้องมีคุณค่าทางอาหารที่สูง เน้นโปรตีนเป็นหลัก เพิ่มวิตามินจากผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไขมันและคาร์โบไฮเดรตควรมีในปริมาณที่ต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารที่ประกอบไปด้วยข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่ว เพราะอาจทำให้พวกเขาท้องอืดหรือเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้
การให้อาหารจะอยู่ที่ประมาณวันละ 2-3 ครั้ง วันละ 2 ถ้วย เน้นให้อาหารอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยและเวลาชีวิต หากท้องหรืออยู่ในวัยเด็กก็ต้องเน้นโปรตีนให้มากหน่อย หากเริ่มอายุเยอะแล้วก็ต้องเลือกอาหารที่ปริมาณพลังงานต่ำเพื่อป้องกันโรคอ้วน ส่วนการออกกำลังกายเราสามารถพาพวกเขาไปเดินเล่นประมาณ 30 นาทีต่อวันก็เพียงพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องพาวิ่งไประยะไกลนาน ๆ เหมือนกับหมาตัวใหญ่แต่อย่างใด
สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษเวลาพาออกไปเดินเล่นคือ พวกเขาอาจวิ่งเตลิดตามสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่พบเจอตามพื้นได้ ถ้าเราไม่ได้ใส่สายจูงให้พวกเขา ก็มีโอกาสสูงที่จะวิ่งหายไปต่อหน้าต่อตา พวกเขาค่อนข้างเฉลียวฉลาด หากเราไม่มีเวลาพาพวกเขาเดินเล่น จะใช้วิธีการฝึกฝนเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับพวกเขาก็ได้เช่นกัน เพราะถึงแม้จะตัวเล็ก แต่การออกกำลังกายก็มีความสำคัญกับสุนัขสายพันธุ์นี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
โรคที่ต้องระมัดระวังของ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล จะประกอบไปด้วย โรคภูมิแพ้ผิวหนัง สังเกตได้จากการที่พวกเขามักจะเกาตัวจนขนเปลี่ยนเป็นสีแดง โรคเกี่ยวกับระบบประสาทอย่างโรคลมชัก ภาวะไขสันหลังเป็นโพรง หรือขาทำงานผิดปกติ
ส่วนระบบหมุนเวียนโลหิตและหัวใจจะมีความเสี่ยงเรื่องโรคลิ้นหัวใจรั่ว ลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม โรคระบบทางเดินหายใจจะมีทั้งหลอดลมอักเสบและหลอดลมโป่งพอง กระดูก ข้อต่อ และโครงสร้างต้องระวังปัญหาข้อต่อสะโพกเจริญเติบโตผิดปกติและกระดูกสะบ้าเคลื่อน
หากคุณอยากให้สุนัขสุดที่รักมีร่างกายที่แข็งแรงและปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งสำคัญหลังจากที่รับพวกเขามาเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันดับแรกต้องพาไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีนให้ครบทุกเข็ม เพื่อตรวจดูว่าลูกสุนัขของเรามีปัญหาสุขภาพอะไรหรือเปล่า จะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที
ดูแลสถานที่อยู่อาศัยให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ มีอากาศถ่ายเทและปลอดโปร่ง มีน้ำสะอาดติดถ้วยอยู่เป็นประจำ เพียงเท่านี้พวกเขาก็จะมีสุขภาพดีและอยู่กับเราไปอีกนานแล้ว
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me