จิงโจ้น้ำ แมลงสุดแปลกที่สามารถเดินบนน้ำได้

น้ำเป็นธาตุที่ไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่เราจะสามารถยืนอยู่ได้เหมือนกับพื้นดิน มนุษย์เราเวลาลงไปในน้ำก็จะจมหรือไม่ก็ลอยแล้วแต่ว่าเราว่ายน้ำเป็นหรือไม่ แต่มีแมลงอยู่สายพันธุ์หนึ่ง นั่นก็คือ จิงโจ้น้ำ ที่สามารถยืนหรือแม้แต่เดินบนผิวน้ำได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นแมลงที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะโดยปกติแล้วอะไรก็ตามที่มีน้ำหนักก็มักจะจมลงไปในน้ำอยู่เสมอ แต่พวกเขากลับสามารถยืนบนน้ำได้ราวกับเป็นปาฏิหาริย์เสียอย่างนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าเพราะเหตุใดจิงโจ้น้ำจึงยืนบนน้ำได้และพวกเขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่

 ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับจิงโจ้น้ำ แมลงที่มาพร้อมกับความสามารถพิเศษ 

จิงโจ้น้ำ เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทแมลงที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของมวน บางพื้นที่เรียกพวกเขาว่า แมงกระพุ้งน้ำ เราสามารถพบเห็นพวกเขาได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำจืดที่ผิวน้ำค่อนข้างนิ่ง เนื่องจากการจะสร้างปาฏิหาริย์ยืนหรือเดินบนน้ำของพวกเขานั้นน้ำจะต้องอยู่ในสภาพที่นิ่ง ไม่มีคลื่นหรือลมแต่อย่างใด อย่างเช่นทะเลสาบ แอ่งน้ำ กว๊าน หรือบางครั้งเราก็อาจจะสามารถพบพวกเขาได้ตามลำธาร ห้วย หนอง คลอง และบึง ที่กระแสน้ำไม่แรงจนเกินไปก็ได้เช่นเดียวกัน พวกเขาชื่นชอบสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยแพลงก์ตอนและแมลง 

ด้วยเหตุนี้จิงโจ้น้ำจึงกลายมาเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์และความสะอาดในน้ำบริเวณนั้น ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังสามารถควบคุมประชากรแมลงน้ำและแพลงก์ตอนบางสายพันธุ์ได้อีกด้วย ซึ่งหากแมลงน้ำหรือแพลงก์ตอนเหล่านี้มีจำนวนมากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาน้ำเสียตามมา 

ด้วยเหตุนี้จิงโจ้น้ำจึงเป็นแมลงที่มีประโยชน์และมีความสำคัญกับระบบนิเวศเป็นอย่างมาก เวลาที่เราเจอพวกเขาก็แค่มองดูอยู่ห่าง ๆ ไม่ต้องไปพิสูจน์ความสามารถของพวกเขา ด้วยการพยายามแตะเนื้อต้องตัวพวกเขาหรือโยนหินไปทำร้ายแต่อย่างใด เพราะการมีพวกเขาเอาไว้ก็จะช่วยให้แหล่งน้ำบริเวณนั้นมีความสะอาดและอุดมสมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น 

ลักษณะภายนอก 

จิงโจ้น้ำเป็นแมลง ดังนั้นร่างกายของพวกเขาจึงมีทั้งหมด 3 ส่วน ประกอบไปด้วย หัว หน้าอก และท้อง พวกเขามีขาทั้งหมด 6 ขา ขาแต่ละข้างจะมีลักษณะเป็นปล้อง มีหนวด 1 คู่ ยื่นยาวออกมาด้านหน้า ลักษณะจะเหมือนกับขนแปรง 

โดยเราสามารถบอกความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ได้ผ่านทางหนวดของพวกเขา ลำตัวค่อนข้างแบนและมีเปลือกแข็งหุ้มส่วนบนของลำตัวเอาไว้ ลักษณะจะคล้ายกับแมลงสาบ แต่มีลำตัวที่ยาวมากกว่าและผอมมากกว่า มีสีตั้งแต่น้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำ 

มีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งแบบที่มีปีกสามารถบินได้ และสายพันธุ์ที่ไม่มีปีก หน้าอกของจิงโจ้น้ำจะมีขนาดเล็กและมีความแคบ ความยาวอยู่ที่ประมาณ 1.6 มิลลิเมตรไปจนถึง 36 มิลลิเมตร ทั่วทั้งหน้าอกจะมีขนขนาดเล็กที่ปกคลุมอยู่ มีความมันวาว ดังนั้นมันจึงสามารถช่วยป้องกันไม่ให้พวกเขาจมน้ำได้เป็นอย่างดี 

ขาของพวกเขาจะมีทั้งหมด 6 ข้าง 3 คู่ ขาคู่แรกลักษณะจะสั้นเป็นพิเศษ เนื่องจากใช้ในการหาอาหารหรือจับตัวเหยื่อ คู่ที่ 2 จะมีความเรียวและยาวเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการผลักดันลำตัวให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า และคู่สุดท้ายทำหน้าที่ในการเป็นหางเสือคอยปรับทิศทางในการเคลื่อนที่ 

ส่วนสายพันธุ์ที่มีปีก ปีกของพวกเขาจะอยู่กลางหลังบริเวณอก ความยาวของปีกจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละสายพันธุ์ หากอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำนิ่งก็จะมีปีกยาว หากอยู่ในแหล่งน้ำไหลก็จะมีปีกที่สั้น 

วงจรชีวิตและพฤติกรรม 

จิงโจ้น้ำ มีวัฏจักรชีวิตที่ใกล้เคียงกับแมลงทั่วไป เริ่มต้นจากตัวโตเต็มวัยจะหาคู่เพื่อผสมพันธุ์ จากนั้นตัวเมียก็จะวางไข่อยู่ด้านบนของผิวน้ำ หลังจากนั้นไข่ของพวกเขาก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น 5 ระยะ ในแต่ละระยะจะใช้เวลาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ไปจนถึง 10 วัน จากนั้นก็จะลอกคราบกลายเป็นตัวอ่อน 

พฤติกรรมของจิงโจ้น้ำขณะที่กำลังเป็นตัวอ่อนอยู่นั้น จะมีการกินอาหารหรือพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกับตัวโตเต็มวัย เพียงแต่จะมีขนาดตัวที่เล็กกว่า โดยจะมีความยาวลำตัวเพียงแค่ 1 มิลลิเมตรเท่านั้น มีสีที่ซีดกว่า และยังไม่สามารถสืบพันธุ์ได้แต่อย่างใด ใช้เวลายาวนานถึง 60 วัน กว่าพวกเขาจะกลายเป็นตัวโตเต็มวัยและพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์ 

อาหารของพวกเขาจะเป็นสัตว์ขนาดเล็กโดยเฉพาะแมลง ส่วนใหญ่จะเป็นแมลงที่อยู่ในแหล่งน้ำหรืออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถกินแมลงที่ตกลงมาบนน้ำได้อีกด้วย พวกเขาจะใช้ขาหน้าจับเหยื่อแล้วใช้ปากเจาะเข้าไปในร่างกายของเหยื่อเพื่อดูดของเหลวเป็นอาหาร

เปิดสาเหตุที่ทำให้จิงโจ้น้ำสามารถเดินบนน้ำได้ 

จิงโจ้น้ำเป็นสัตว์ที่มีความมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาสามารถยืนหรือเคลื่อนที่บนน้ำได้ สาเหตุที่ทำให้พวกขาวสามารถสร้างปาฏิหาริย์ดังกล่าวได้เกิดมาจากสิ่งที่เรียกว่า แรงตึงผิว นั่นเอง 

มันเป็นแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลที่จะทำให้โมเลกุลที่อยู่ภายในโดนโมเลกุลรอบ ๆ ดึงดูดจากทุกทิศ ไม่มีการกระจายแรงดึงไปทางใดทางหนึ่งเป็นพิเศษ โมเลกุลที่อยู่บนผิวน้ำหรือของเหลวจะถูกดึงดูดโดยโมเลกุลที่อยู่ด้านล่างและด้านข้างเท่านั้น ไม่มีแรงดูดจากด้านบนแต่อย่างใด 

แรงดึงดังกล่าวจึงพยายามที่จะดึงผิวหน้าของเหลวให้ได้มากที่สุด ผิวหน้าของเหลวจึงมีการหดตัวเพื่อให้พื้นผิวเหลือน้อยที่สุด ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดอย่างเช่น การเทน้ำจนปริ่มแก้ว หากมองจากด้านข้างจะเห็นว่าน้ำพ้นขอบแก้วออกมาแล้วแต่ยังไม่ล้นออกมา ซึ่งก็เกิดมาจากแรงดังกล่าวนั่นเอง 

ประกอบกับการที่ขาของจิงโจ้น้ำที่มีความยาวเป็นพิเศษ ทำให้สามารถกระจายน้ำหนักได้ดี ปลายขามีต่อมน้ำมันและขนขนาดเล็กจำนวนมาก ที่สามารถช่วยให้พวกเขาพยุงตัวบนผิวน้ำได้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถยืนหรือเคลื่อนไหวร่างกายบนผิวน้ำได้แบบสบาย ๆ นั่นเอง 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me