ไก่ไข่ สัตว์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงไว้เพื่อขายผลผลิต 

บนโลกใบนี้มีสัตว์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ไก่ไข่ สัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ผู้คนไม่ได้เลี้ยงพวกเขาเอาไว้เพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงาเหมือนกับสุนัขหรือแมว พวกเขาเป็นสัตว์ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงไว้สำหรับขายผลผลิตที่จะได้รับนั่นก็คือไข่ไก่นั่นเอง หรือบางคนก็นิยมเลี้ยงเอาไว้เพื่อที่จะได้ไข่ไก่มาบริโภคเองด้วยก็มีเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับไก่ไข่เหล่านี้กันว่า มีสายพันธุ์ใดบ้างที่ได้รับความนิยมและหากอยากเลี้ยงจะต้องรู้อะไรบ้าง 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับไก่ไข่แต่ละสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงในกลุ่มเกษตรกร 

ไก่ไข่ เป็นสัตว์ปีกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาสามารถให้ผลผลิตเป็นไข่เอาไว้ขายหรือรับประทานเอง ในกลุ่มเกษตรกรจึงเลี้ยงพวกเขาเอาไว้เพื่อเป็นหนึ่งในหนทางการสร้างรายได้ หากคุณอยากจะลองเลี้ยงไก่ไข่เหล่านี้ ก็มีให้เลือกอยู่หลากหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว โดยในประเทศไทยของเราจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ประเภท ประกอบไปด้วย ไก่พันธุ์แท้ ไก่ไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์มาเป็นอย่างดี โดยนักผสมพันธุ์ที่มีความรู้ความสามารถ ทำให้พวกเขาให้ไข่ในปริมาณที่มาก แต่ถึงอย่างนั้นปัจจุบันพวกเขาไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ในการทำปศุสัตว์ โดยจะสามารถแบ่งแยกย่อยได้อีก 3 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วย 

พันธุ์โรดไอแลนด์เรด

ไก่ไข่สายพันธุ์นี้มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก โดยเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่อยู่มานานนับร้อยปีแล้ว ถิ่นกำเนิดของพวกเขาอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็จริง แต่ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์และผสมข้ามสายพันธุ์มาค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว โดยจะมีอยู่ 2 ชนิด ประกอบไปด้วย แบบหงอนกุหลาบและหงอนจักร ซึ่งแบบหงอนจักรจะเป็นแบบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะค่อนข้างให้ไข่ดีและเคยคว้าชัยชนะการแข่งขันไข่ดกในประเทศไทยมาก่อน มีความแข็งแรงทนทาน เลี้ยงง่าย แถมยังโตเร็ว ในปัจจุบันผู้คนนิยมเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ตั้งต้น มากกว่าที่จะเลี้ยงเพื่อเอาไข่เหมือนกับในอดีต ในแต่ละปีสามารถให้ไข่ได้มากกว่า 300 ฟองเลยทีเดียว

พันธุ์บาร์พลีมัทร็อก

หรือที่หลายคนเรียกด้วยชื่อเล่นว่าไก่บาร์ พวกเขาจะมีขนเป็นสีดำสลับขาวตามแนวขวาง มีหงอนทรงเหมือนกับจักร ปากสีเหลือง ตุ้มหูและหงอนเหนียงมีสีแดง พวกเขาจะสามารถให้ไข่ได้ตั้งแต่อายุประมาณ 5 เดือนขึ้นไป มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อมไม่น้อยเลยทีเดียว ถิ่นกำเนิดของพวกเขานั้นอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจัดว่าเป็นประเภทกึ่งเนื้อกึ่งไข่ ปัจจุบันได้รับความนิยมในฐานะของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เช่นเดียวกัน 

พันธุ์เล็กฮอร์นขาวหงอนจักร

ไก่ไข่สายพันธุ์นี้แตกต่างจากเพื่อนนิดหน่อย ตรงที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอิตาลี แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกัน แรกเริ่มเดิมทีที่มีการเลี้ยงไก่เอาไว้ให้ไข่ในเชิงอุตสาหกรรม พวกเขานั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะมีขนาดตัวเล็ก สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ขนจะเป็นสีขาวตลอดทั้งลำตัวและมีหงอนสีแดง ให้ไข่ได้อย่างรวดเร็วแถมยังดกอีกด้วย ไข่ที่ได้มานั้นจะมีเปลือกสีขาว สามารถทนต่ออากาศร้อนได้เป็นอย่างดี ในแต่ละปีจะให้ไข่อยู่ที่ประมาณ 300 ฟอง

แบบที่ 2 จะเป็นสายพันธุ์ลูกผสมที่เกิดมาจากการนำเอาไก่ 2 สายพันธุ์มาผสมกันขึ้นไป ในปัจจุบันมีความนิยมในการเลี้ยงเพื่อการค้าเป็นสัตว์เศรษฐกิจมากที่สุด เนื่องจากพวกเขามีประสิทธิภาพในการให้ผลผลิตค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่ไข่ที่ออกมาจะมีเปลือกสีน้ำตาลและฟองโต มีความแข็งแรงทนทานเหมาะสำหรับการขนส่งไม่น้อยเลยทีเดียว ไก่ไข่สายพันธุ์ลูกผสมนี้ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์มาเป็นอย่างดี โดยเป็นการนำเอาลักษณะเด่นในแต่ละสายพันธุ์มารวมกันไว้ในตัวเดียว ทั้งความรวดเร็วในการเจริญเติบโต ความสำเร็จในการเลี้ยง การกินอาหาร การออกไข่ ระยะเวลาการออกไข่ รวมไปถึงสีของเปลือกไข่ แต่อย่างไรก็ตามไก่ไข่สายพันธุ์ลูกผสมนั้น จะต้องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการกิน ควบคุมน้ำหนัก ควบคุมแสงสว่าง ทั้งยังต้องดูแลเรื่องความสะอาดและสุขาภิบาลให้ดีอีกด้วย

เปิดวิธีการเลี้ยงไก่ไข่สำหรับมือใหม่ให้ได้ไข่เอาไว้รับประทานในบ้าน 

ก่อนจะเลี้ยงไก่ไข่นั้นอันดับแรกเราก็ต้องเลือกก่อนว่าเราจะเลี้ยงพันธุ์ไก่ไหน เพราะไก่ที่สามารถออกไข่ได้ก็มีให้เลือกหลายแบบหลายสายพันธุ์ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับวิธีการเลือกนั้นจะต้องพิจารณาจากสายพันธุ์ โดยควรเป็นสายพันธุ์ที่ดีและถูกเลือกให้เป็นไก่สำหรับออกไข่โดยเฉพาะ มีลักษณะของตัวและไข่ที่ดีตรงตามสายพันธุ์ ได้มาจากฟาร์มที่มีมาตรฐานสามารถเชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพในการออกไข่และไข่ที่ออกมาก็ต้องมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงทนทานและขนาด 

ต่อมาก็คือการพิจารณารูปแบบการเลี้ยง ซึ่งจะมีอยู่ 2 รูปแบบ ประกอบไปด้วยการเลี้ยงอิสระซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องจากจะทำให้ไก่สุขภาพดีทั้งกายและใจ ส่งผลให้ไข่ที่ได้มานั้นมีคุณภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริเวณที่เลี้ยงนั้นจะต้องไม่มีการใช้สารเคมีอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป และแบบที่ 2 การเลี้ยงในโรงเรือน ซึ่งโรงเรือนนั้นก็จะต้องมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการกันแดดกันฝนก็ตาม ต้องตั้งอยู่ห่างจากชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้เสียงและกลิ่นไปรบกวนผู้อื่น ส่วนใหญ่แล้วพื้นจะเป็นคอนกรีตและรองด้วยแกลบสูงขึ้นมาประมาณ 3 นิ้ว รัง 1 ช่องสามารถให้แม่ไก่อาศัยอยู่ได้ทั้งหมด 4 ตัว ที่สำคัญคือต้องมีประตูเข้าออก เพื่อให้พวกเขาได้เดินเล่นในบางเวลาด้วยเช่นเดียวกัน 

ในส่วนของน้ำและอาหารนั้น หากไก่ไข่มีอายุตั้งแต่ 5 เดือนขึ้นไป จะต้องกินน้ำประมาณ 0.5 ลิตรต่อวันเลยทีเดียว การเลี้ยงพวกเขาจึงต้องให้ความสำคัญกับน้ำเป็นอย่างมาก เพราะหากพวกเขาขาดน้ำก่อนวางไข่ จะทำให้ไข่ที่ได้มานั้นมีขนาดฟองที่เล็ก ส่วนอาหารก็ต้องมีโปรตีนอย่างน้อยประมาณ 13% ขึ้นไป จะใช้เป็นอาหารเม็ด อาหารสำเร็จรูป อาหารผสมก็ได้เช่นเดียวกัน และยังมีทั้งอาหารเสริมหรือหัวอาหาร ที่เราสามารถเสริมให้พวกเขาได้อีกด้วย สิ่งที่ต้องระมัดระวังต่อมาก็คืออุณหภูมิ เนื่องจากพวกเขาไม่มีต่อมเหงื่อจึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ การควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนหรือบริเวณที่เลี้ยงไม่ให้ร้อนเกินไป จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน