สัตว์ที่อยู่ในบ้านและทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัวได้มากที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็น “ตุ๊กแก” พวกเขามีรูปร่างภายนอกที่ค่อนข้างน่าหวาดกลัว มีฟันที่แหลมคมและขึ้นชื่อว่ากัดเจ็บที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่ง หากเลือกได้เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะเผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างแน่นอนไม่ว่าที่ไหนก็ตามบนโลกใบนี้ แต่ความจริงแล้วตุ๊กแกก็ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และยังมีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน พวกเขาจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับตุ๊กแก สัตว์ที่มีความน่าสนใจมากกว่าความน่ากลัว
ตุ๊กแก จัดเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีกระจายอยู่ทั่วไปในประเทศไทย ลักษณะของพวกเขาจะคล้ายกับกิ้งก่าแต่มีขนาดหัวที่ใหญ่โตกว่าขนาดตัวเป็นอย่างมาก ศีรษะเป็นทรงสามเหลี่ยมที่มีปากยื่นยาวออกมา มีดวงตากลมโตที่ปูดโปนออกมาเหมือนจะหลุดออกจากเบ้า
ตาดำของพวกเขาจะเป็นขีดตั้งตรงเหมือนแมวเวลาหรี่ตา ที่สำคัญคือพวกเขาไม่มีเปลือกตา ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ในลักษณะที่ตาลุกโพลงอยู่ตลอดเวลา จนทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัว มีหลากหลายสีสันไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าอ่อน สีเทา สีน้ำตาล สีดำ สีเขียว
ทั่วทั้งลำตัวของพวกเขาจะมีลายจุดที่มีสีแตกต่างกันออกไป บางตัวอาจมีแต้มจุดหลากหลายสีสันในตัวเดียวก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถปรับสีผิวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย เมื่อโตเต็มวัยอาจมีความยาวได้ถึง 30 เซนติเมตรหรือมากกว่านั้น
โดยเฉลี่ยน้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 10 กรัม มักออกหากินในช่วงเวลากลางคืนโดยมีแมลงเป็นอาหารจานโปรด ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็สามารถกินสัตว์ขนาดเล็กได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นลูกนก นกสายพันธุ์เล็ก สัตว์ฟันแทะ หรือไข่
พวกเขามีเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์เพราะต้องมีอินโทรก่อน หลังจากนั้นก็จะร้องเสียงดัง “ตุ๊กแก” ตามชื่อของพวกเขาติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่าบ้านเรากำลังมีพวกเขามาหลบซ่อนอาศัยอยู่อย่างแน่นอน
พวกเขาสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในป่าตามธรรมชาติและในบ้านเรือนของมนุษย์ ตุ๊กแกจะออกลูกเป็นไข่และทิ้งไป ไม่ได้เลี้ยงดูแต่อย่างใด ชอบหลบอยู่บริเวณมุมมืดมุมอับของบ้านเพื่อไม่ให้โดนรบกวน เท้าของพวกเขามีเส้นขนพิเศษจำนวนมากกว่า 1,000 เส้นบนฝ่าเท้า
แต่ละเส้นยังสามารถแตกกิ่งก้านออกมาได้ถึง 1,000 แฉก ขนแต่ละเส้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงแค่ 200 นาโนเมตร ทำให้เท้าของพวกเขามีความสามารถในการยึดเกาะจนปีนป่ายกำแพงได้อย่างสบาย ๆ ความจริงแล้วพวกเขาจัดว่าเป็นสัตว์อันตรายถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวที่ไม่ได้ใหญ่โตมากมายก็ตาม
พวกเขาเป็นสัตว์ที่ถือว่ามีความดุร้ายเป็นอย่างมาก ชอบกัดกันเอง สามารถกินพวกเดียวกันได้ หากเด็กโดนกัดที่อวัยวะเพศ ก็อาจจะถึงขั้นขาดออกมาได้เลยทีเดียวเพราะฟันที่แหลมคมของพวกเขานั้นเอง
แต่บางสายพันธุ์ก็ได้รับความนิยมในการเลี้ยงด้วยเช่นเดียวกัน พวกนี้ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา ให้มีความเชื่องและมีสีสันที่น่ารักสดใส ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถจับพวกเขาเล่นได้แบบไม่ต้องกังวลนั่นเอง
บทบาทของตุ๊กแกกับสิ่งที่ผู้คนเชื่อ
ตุ๊กแกมีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อ ว่ากันว่าหากพวกเขาส่งเสียงร้องออกมา อาจเป็นการทำนายโชคลางของเราในอนาคตได้ สามารถคำนวณได้จากเวลาและจำนวนครั้งที่ส่งเสียงร้องอย่างเช่น
หากพวกเขาร้องเพียงแค่ครั้งเดียวหมายความว่า คนที่ได้ยินจะต้องเสียเงินแบบไม่ได้เต็มใจ หากได้ยินพวกเขาร้อง 3 ครั้งหมายความว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านจะประสบความสำเร็จและอยู่เย็นเป็นสุข หากร้องตอน 6 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยงหมายความว่าจะมีข่าวดี
นอกจากนี้ยังเชื่ออีกด้วยว่า หากตุ๊กแกถูกงูเขียวเลื้อยเข้าปาก เป็นการเลื้อยเข้าไปกินตับ แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันเกิดจากการที่งูเขียวไม่สามารถหาอาหารได้ จึงบังคับให้พวกเขาอ้าปาก จะได้เข้าไปกินเศษอาหารที่ติดอยู่ในซอกปากก็เท่านั้น
รู้หรือไม่ ตุ๊กแกเคยนำเอามาใช้ทำเป็นยาด้วย
แม้ว่าตุ๊กแกจะเป็นสัตว์ที่ลักษณะภายนอกดูน่าหวาดกลัวและไม่น่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่ แต่ในอดีตก็มีคนนิยมนำเอาพวกเขามาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อรักษาโรคหรือบำรุงร่างกายเช่นเดียวกัน ตามความเชื่อของแพทย์แผนจีน ตุ๊กแกสามารถใช้ในการบำรุงร่างกาย ทั้งปอด ไต และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้
ช่วยแก้โรคหอบได้เป็นอย่างดี วิธีการคือ การจับพวกเขามาถลกหนัง ควักเครื่องใน นำเอาเนื้อมาผสมเข้ากับเกลือ พริกไทย และกระเทียมตำให้ละเอียด จากนั้นเราเอาไปปิ้งแล้วให้เด็กกินเพื่อเป็นยาบำรุงแก้โรคซางตานขโมย เอาหางมาบดแล้วใช้กวาดคอเพื่อบรรเทาอาการแก้เจ็บคอ
นอกจากนี้ในยุคหนึ่งเคยมีข่าวลือว่า พ่อค้าในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย พยายามกว้านซื้อพวกเขาในประเทศไทย เพื่อนำเอาไปใช้ทำยารักษาโรคมะเร็งและเอดส์ ทำให้พวกเขามีราคาสูงเป็นอย่างมาก เคยมีบันทึกเอาไว้ว่า ครั้งหนึ่งตุ๊กแกที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 5 ขีด แต่มีราคาสูงถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียว
ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นการแพทย์ทางเลือกที่ยังไม่ได้รับข้อพิสูจน์ หรือการรับรองจากองค์กรด้านสุขภาพที่สามารถเชื่อถือได้แต่อย่างใด
เปิดวิธีการกำจัดตุ๊กแกอย่างไรแบบปลอดภัยทั้งคนและสัตว์
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ถูกโฉลกกับตุ๊กแกสักเท่าไหร่ แต่คุณไม่ได้อยากทำร้ายพวกเขา แค่อยากไล่ให้พวกเขาไป เราก็มีวิธีการไล่พวกเขาแบบออแกนิก ปลอดภัยทั้งคนและสัตว์ เหมาะสำหรับคนที่มีลูกเล็กเด็กแดงและสัตว์เลี้ยง จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
- ใช้ใบไม้กลิ่นฉุนเป็นวิธีการที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน ให้เรานำเอาใบไม่ที่มีกลิ่นฉุนอย่างใบน้อยหน่า กิ่งยี่โถ หรือใบสาบเสือ มาตำจนแตกแล้ววางไว้ตามมุมอับของบ้าน ใบไม้เหล่านี้จะส่งกลิ่นฉุนและทำให้พวกเขาไม่อยากเข้ามาใกล้บ้าน
- ใช้ยาเส้น เป็นสิ่งที่ตุ๊กแกเกลียดเป็นอย่างมากเนื่องจากมีกลิ่นฉุนจนเตะจมูก วิธีการคือให้นำเอายาเส้นมามัดรวมกันเป็นก้อนหรือจะนำเอาไปผสมน้ำก็ได้เช่นเดียวกัน หากใช้วิธีการมัดรวมกันก็ให้นำเอาไปวางไว้ในบริเวณที่พวกเขาชอบไปซุกซ่อนตัวอยู่ หากใช้วิธีการผสมน้ำก็ให้ฉีดพ่นตามมุมบ้านทั้งด้านบนและด้านล่าง กลิ่นเหล่านี้จะรบกวนพวกเขาและทำให้พวกเขาไม่อยากมารบกวนในบ้านคุณอีกต่อไป
- หัวหอม เป็นวิธีการสำหรับใครที่ทำอาหารและมีหัวหอมอยู่ในตู้เย็นอยู่แล้ว วิธีการคือให้นำเอาหัวหอมมาปอกเปลือก จากนั้นหันให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นำเอาไปวางไว้ตามมุมอับของบ้านที่พวกเขาชอบซุกซ่อนตัวอยู่ เพราะหัวหอมดิบนอกจากจะมีกลิ่นฉุนเตะจมูกแล้ว ยังมีรสชาติที่เผ็ดร้อนอีกด้วย แม้แต่มนุษย์อย่างเราหั่นมันยังน้ำตาไหล ลองจินตนาการดูว่าสัตว์ตัวเล็ก ๆ เหล่านี้จะเป็นอย่างไรหากเจอฤทธิ์ของหัวหอมเข้าไป
- ทำความสะอาดบ้าน ตุ๊กแกจะไม่เข้ามาในบ้านของคุณหากในบ้านของคุณไม่มีสิ่งที่เย้ายวนใจมากพอที่จะทำให้พวกเขาเสี่ยงตายเข้ามา เพราะหากพูดในความเป็นจริงแล้วเราเป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวใหญ่มากกว่าเขา พวกเขาคนเป็นฝ่ายกลัวเรามากกว่า ดังนั้นเราจึงควรทำความสะอาดบ้านให้ปราศจากอาหารของพวกเขาอย่างเช่น แมลงและหนู ปิดประตูหน้าต่างให้ดี คอยตรวจสอบรอยรั่วภายในบ้านและแก้ไขเมื่อพบเห็น ไม่ทิ้งเศษอาหารไว้ในบ้านข้ามคืน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้พวกเขามีจำนวนลดน้อยถอยลงแล้ว
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me