ในปัจจุบันผู้คนนิยมหันมาเลี้ยงสัตว์ที่มีความแปลกประหลาดมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ปูเสฉวนจึงกลายมาเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกมนุษย์คุกคามหนักที่สุด พวกเขามักถูกจับนำเอามาเลี้ยงซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่ความจริงแล้วมันส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและความเป็นอยู่ของพวกเขาแบบลูกโซ่กันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับปูเสฉวนกันว่าพวกเขาเป็นใคร มีความสำคัญมากแค่ไหน และเพราะเหตุใดเราจึงไม่ควรเลี้ยงพวกเขา
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับปูเสฉวน สัตว์ผู้น่าสงสารที่ยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร
ปูเสฉวนเป็นสัตว์ที่มีลักษณะก้ำกึ่งจะเป็นปูก็ไม่ใช่จะเป็นกุ้งก็ไม่เชิง ที่น่าสนใจก็คือ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้กับชายทะเล แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถอยู่ในน้ำทะเลได้เป็นเวลานาน เนื่องจากระบบร่างกายของพวกเขาได้รับการออกแบบมา ให้หายใจด้วยการสูดอากาศบนบกเหมือนกับมนุษย์
ดังนั้นหากพวกเขาลงไปในท้องทะเลก็อาจจะจมน้ำตายได้เช่นเดียวกัน ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงต้องลงน้ำบ้างเพื่อไปกินน้ำทะเล เพื่อรับเกลือแร่และแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันนั้นพวกเขาก็ต้องการน้ำจืดสำหรับการดำรงชีวิตด้วยเช่นเดียวกัน
พวกเขาเป็นสัตว์กินซากที่สามารถกินได้ทั้งซากพืชและซากสัตว์ ส่วนใหญ่มักจะหากินในช่วงกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน โดยในตอนกลางวันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการหลบอยู่ใต้กองใบไม้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย
ลักษณะทั่วไป
เมื่อโตเต็มที่ปูเสฉวนจะมีขนาดตัวประมาณ 5 นิ้ว มีขา 10 ข้าง คล้ายกับปูทะเล บริเวณท้ายลำตัวของพวกเขาจะมีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมักจะต้องหาเปลือกหอยมาใช้กำบังหลังของพวกเขาเอาไว้ และยังเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกายอีกด้วย
บริเวณส่วนหน้าลำตัวของพวกเขามีเปลือกเป็นไคตินปกคลุมผิวหนัง ทำให้มีลักษณะคล้ายกับเปลือกกุ้ง ส่วนบริเวณท้องของจะมีความอ่อนนุ่มมากกว่า พวกเขาจะใช้ขาคู่ที่ 4 และคู่ที่ 5 ในการยึดกับเปลือกหอยเอาไว้ จากนั้นก็เอนกล้ามเนื้อไปตามลักษณะของหอยที่อยู่อาศัย
ปูเสฉวนมีก้ามซ้ายขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับการป้องกันตัว การทรงตัว หรือการปีนต้นไม้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการปิดฝาหอยได้อีกด้วย ส่วนอีกข้างที่มีขนาดเล็กกว่าจะใช้งานในการหยิบอาหารหรือน้ำเข้าปาก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องหายใจด้วยการใช้อากาศ แต่อวัยวะที่ใช้หายใจไม่ใช่จมูกแต่เป็นเหงือกคล้ายกับสัตว์ทะเล
เนื่องจากมันมีหลอดเลือดที่สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซกับอากาศได้โดยตรง โดยจะต้องมีความชื้นตั้งแต่ 70% ขึ้นไป ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในเปลือกหอยเพื่อเก็บความชื้นไว้กับตัว เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาอยู่นอกเปลือกหอยเกิน 24 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะทำให้พวกเขาเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
พฤติกรรมและการเจริญพันธุ์
ปูเสฉวน เมื่อเติบโตขึ้นก็จะใช้วิธีการลอกคราบ เพื่อให้โครงสร้างร่างกายใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิม มีการสร้างแรงดันน้ำขึ้นมาภายในร่างกาย ช่วยให้พวกเขาสามารถแยกตัวออกจากคราบเก่าได้ พฤติกรรมการลอกคราบแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไป
บางตัวจะเก็บน้ำเอาไว้ในเปลือกและลอกคราบขณะที่ยังอยู่ในเปลือกหอย บางตัวก็ทิ้งเปลือกไปเลยและฝังตัวเองลงไปในทรายแทน ซึ่งการลอกคราบบางครั้งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 45 วันขึ้นไปจนถึง 120 วันเลยทีเดียว
หลังจากลอกคราบเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วพวกเขาก็จะกินคราบของตนเองเข้าไปเพื่อเสริมวิตามิน แร่ธาตุ และแคลเซียมให้กับร่างกาย
เมื่อปูเสฉวนโตเต็มวัยพร้อมสำหรับการผสมพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวผู้ก็จะจับตัวเมียออกมาจากเปลือกหอย จากนั้นตัวผู้ก็จะวางท้องแนบกับตัวเมียเพื่อปล่อยอสุจิลงไปในอวัยวะเพศของตัวเมีย หลังจากนั้นตัวเมียก็จะตั้งท้องและไข่ลงในน้ำทะเล
เมื่อไข่ฟักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวอ่อนที่หน้าตาไม่เหมือนพ่อแม่ของมัน ก็จะล่องลอยมีลักษณะคล้ายกับแพลงก์ตอน พวกมันต้องอยู่ในสภาพนั้นอยู่นานและลอกคราบอยู่หลายครั้ง กว่าจะสามารถพัฒนาร่างกายจนขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
จากนั้นพวกเขาก็จะหาเปลือกหอยที่มีขนาดกำลังพอดีและใช้ชีวิตบนบกต่อไปเรื่อย ๆ โดยอายุเฉลี่ยของพวกเขานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 60 ปี
รู้หรือไม่ ปูเสฉวนสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่เราคิด
ปูเสฉวน เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญกับระบบนิเวศเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีปัจจัยมากมายที่ทำให้พวกเขากลายเป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ โดยที่ไม่มีกฎหมายคอยคุ้มครองหรือดูแลพวกเขาแต่อย่างใด
เนื่องจากอาหารของพวกเขาคือซากพืชซากสัตว์ พวกเขาจึงเป็นหน่วยกำจัดขยะของชายหาด ช่วยให้พื้นที่นั้นมีปุ๋ย ช่วยแพร่กระจายสายพันธุ์พืชได้เป็นอย่างดี หากไม่มีพวกเขาชายหาดก็ไม่มีหน่วยทำความสะอาดอีกต่อไป
นอกจากสายพันธุ์ที่อยู่บนบก ยังมีสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง ที่ทำหน้าที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย และพวกเขายังเป็นอาหารของสัตว์บางชนิด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเขามีความสำคัญเป็นอย่างมาก และหากทะเลขาดพวกเขาไป ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน
เปิดสาเหตุที่ทำให้ปูเสฉวนกำลังถูกคุกคามและประเด็นทางกฎหมาย
สาเหตุที่ทำให้ปูเสฉวนจัดว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ไม่ได้มีเพียงแค่การที่พวกเขาไม่ได้รับการอนุรักษ์เพียงอย่างเดียวแต่อย่างใด แต่ยังมีภัยคุกคามอย่างอื่นนั่นก็คือ มนุษย์เรานั่นเอง หากคุณเคยไปเดินตลาดนัดจตุจักรมาก่อน หรือเคยเห็นร้านขายสัตว์เลี้ยงนำเอาพวกเขามาขาย
พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติมาก่อนทั้งสิ้น เนื่องจากในประเทศไทยของเรายังไม่มีใครที่สามารถเพาะเลี้ยงพวกเขาในเชิงพาณิชย์ได้ การจับพวกเขามาจึงเป็นการตัดวงจรการขยายเผ่าพันธุ์ของพวกเขาไปอย่างน่าเสียดาย
นอกจากเรื่องนี้ยังมีประเด็นการเก็บเปลือกหอยมาจากชายหาดเพื่อนำเอาไปทำสิ่งต่าง ๆ ทำให้พวกเขาไม่สามารถหาเปลือกหอยมาปกคลุมร่างกายและต้องตายลงไปในที่สุด บางตัวพยายามปรับตัวกับโลกสมัยใหม่ด้วยการยัดตัวเองเข้าไปอยู่ในขยะหรือพลาสติก
แต่มันกลับทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหามลพิษพลาสติกหนักกว่าเดิมไปอีก หลังจากที่เหยื่อผู้โชคร้ายตายก็จะส่งกลิ่นเป็นสารเคมีที่ดึงดูดตัวอื่นให้เข้ามาติดอยู่ในพลาสติก ก่อให้เกิดเป็นปัญหาลูกโซ่ตามมาไม่มีวันจบสิ้น
และที่น่าเจ็บใจมากที่สุดก็คือ ในปัจจุบันการเลี้ยงปูเสฉวนไม่ได้ผิดกฎหมายแต่อย่างใด เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่มีการคุ้มครองตามกฎหมาย แต่หากมีการจับพวกเขาในบริเวณอุทยาน ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me