แมลงสาบ สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่มีการวิวัฒนาการมายาวนานกว่า 300 ล้านปี เป็นสัตว์ที่หลายคนขยะแขยงและเกลียดชัง แต่ในความจริงแล้ว พวกมันมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศและเป็นพาหะนำโรคที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ การทำความเข้าใจลักษณะและพฤติกรรมของแมลงสาบจะช่วยให้เราสามารถกำจัดพวกมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจประวัติศาสตร์และความสำคัญของแมลงสาบ รวมถึงวิธีการกำจัดที่ปลอดภัยและได้ผล
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับแมลงสาบในมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ
แมลงสาบ เป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่อยู่บนโลกนี้มาอย่างยาวนานกว่า 250 ล้านปี มีการค้นพบฟอสซิลพวกมันไม่ต่างอะไรจากสัตว์ในยุคโบราณสายพันธุ์อื่น ๆ ปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 วงศ์ แต่มีการค้นพบร่วม 4,000 ชนิดเลยทีเดียว
สาเหตุที่ทำให้พวกมันยังคงอยู่ในทุกวันนี้นั่นก็เป็นเพราะว่า แมลงสาบมีความสามารถในการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก พวกมันถือกำเนิดในเขตอบอุ่น สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทุกที่บนโลกใบนี้ ยกเว้นเฉพาะบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นอย่างขั้วโลกเท่านั้น
พวกมันสามารถกินอาหารได้ทุกชนิด มีความสำคัญต่อระบบนิเวศในฐานะสัตว์ย่อยซาก เพราะกินได้ตั้งแต่เศษอาหาร ซากพืชซากสัตว์ เสมหะ อุจจาระ น้ำลาย หรือแม้กระทั่งเศษผ้า เมื่อกินจนอิ่มแล้วก็จะถ่ายอุจจาระไปด้วยระหว่างเดินไปมา กลิ่นตัวสาบฉุนของพวกมันก็ไม่ได้เกิดจากความสกปรก แต่มันเป็นสารที่ตัวเมียหลั่งออกมาเพื่อสื่อสารกับตัวผู้เมื่อต้องการผสมพันธุ์ นั่นเอง
รู้จักนิสัยแมลงสาบและวิธีการกำจัดอย่างอยู่หมัด
นอกจากรูปลักษณ์ที่ไม่น่าจับต้องแล้ว แมลงสาบยังเป็นพาหะนำโรคชั้นยอดอีกด้วย มีงานวิจัยมากมายระบุว่า พวกมันเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้และอาการป่วยหอบหืดในเด็ก เนื่องจากพวกมันมีสารก่อภูมิแพ้ที่สามารถปล่อยออกมายังบริเวณที่เดินผ่านได้ เมื่อสัมผัสในปริมาณมาก ๆ ก็จะพัฒนาการเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืดในภายหลัง
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคบิด โรคเรื้อน กาฬโรค ฝี ผิวหนังพุพอง รวมถึงโรคไทฟอยด์ อุดมไปด้วยพยาธิมากมาย และยังเป็นพาหะเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโปรโตซัวชั้นดีที่ก่อให้เกิดโรคท้องเสียและความพิการของทารกในครรภ์ ดังนั้นเราจึงควรรู้จักนิสัยแมลงสาบ เพื่อที่เราจะได้กำจัดพวกมันได้อย่างถูกต้อง
แมลงสาบเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่อาศัยรวมตัวกันเป็นกลุ่ม เมื่อเจอ 1 ตัว ให้จินตนาการไว้เลยว่า ต้องมีอีกหลายสิบตัวอยู่ในบ้านของเราแน่นอน สามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน มักอยู่ตามซอกหลืบหรือมุมอับที่เราไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้ พวกมันไม่ชอบแสงสว่าง จึงมักจะออกหากินในตอนกลางคืน สามารถกินได้ทุกอย่าง วางไข่เป็นกระเปาะในบริเวณที่ปลอดภัยสำหรับตัวอ่อน
หากต้องการกำจัดแมลงสาบก็สามารถใช้ได้ทั้งวิธีการดูแลความสะอาดภายในบ้าน กำจัดเศษอาหารและขยะเป็นประจำทุกวัน หรือจะใช้พวกกาวดักแมลงก็ได้เช่นกัน และวิธีการสุดท้ายที่เราจะแนะนำคือ การฉีดพ่นสารฆ่าแมลง จะฉีดพ่นเองหรือใช้บริการบริษัทกำจัดแมลงก็ได้เช่นกัน
รวมสายพันธุ์แมลงสาบที่สามารถพบได้ทั่วไปในประเทศไทย
ในประเทศไทยมีการค้นพบแมลงสาบถึง 12 สายพันธุ์ ซึ่งมีทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมในประเทศไทยและสายพันธุ์ที่กระจายเข้ามาจากต่างประเทศอื่น ๆ ผ่านเรือขนส่งสินค้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบไปด้วย
- สายพันธุ์อเมริกัน เป็นสายพันธุ์ที่ขนาดใหญ่ที่สุดที่สามารถพบได้ในประเทศไทย ตัวเป็นสีน้ำตาลแดง บริเวณปีกจะมีจุดสีดำขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยเส้นสีเหลือง
- สายพันธุ์น้ำตาลใหญ่ เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กลงมาเล็กน้อย ตามลำตัวเป็นสีน้ำตาลแดงคล้ำ ๆ มีจุดดำขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยเส้นสีเหลืองที่ไม่ชัดเจน
- สายพันธุ์ออสเตรเลีย เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่ตามลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลแดงเข้ม บริเวณปีกมีแถบสีเหลืองอ่อน
- สายพันธุ์สโมกกี้บราวน์ เป็นสายพันธุ์ขนาดใหญ่ที่ตามลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลเข้มและดูมันเงา
- สายพันธุ์เยอรมัน เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่มีแถบสีดำอยู่ระหว่างดวงตาทั้งสองข้าง ลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน
- สายพันธุ์เยอรมันเล็ก เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่มีแถบสีดำอยู่ระหว่างดวงตาเหมือนสายพันธุ์เยอรมัน ตามลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อนและมีแถบสีดำพาดตามแนวยาวลำตัว
- สายพันธุ์ผี เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดปานกลาง ตามลำตัวมีลวดลายเป็นสีดำสลับเหลืองหรือสีน้ำตาลเข้ม
- สายพันธุ์ล็อบสเตอร์ เป็นสายพันธุ์ขนาดปานกลางที่ค่อนข้างอ้วนล่ำ ลำตัวเป็นสีน้ำตาลหม่นและปีกสั้นกว่าท้อง
- สายพันธุ์บราวน์แบนด์เด็ด เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่ลำตัวมีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีน้ำตาลเข้ม
- สายพันธุ์สุรินัม เป็นสายพันธุ์ขนาดปานกลาง ปีกจะมีสีอ่อนกว่าลำตัว
- สายพันธุ์แกลบ เป็นสายพันธุ์ขนาดปานกลาง ปีกจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนลำตัวจะเป็นสีดำ
- สายพันธุ์เฮอบาร์ดินา คอนซินนา เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่ทั้งลำตัวและปีกจะเป็นสีน้ำตาลดำ เคยพบในประเทศไทยเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเหล่าสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me