นาร์วาล ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเลที่เหมือนหลุดมาจากตำนาน

by animalkingdom
474 views
นาร์วาล

บนโลกใบนี้เต็มไปด้วยสัตว์มากมายหลากหลายชนิด บางตัวรูปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว บางตัวก็ดูน่ารัก ในขณะที่บางตัวก็เหมือนกับหลุดออกมาจากเทพนิยายอย่างเช่น นาร์วาล สัตว์น้ำที่มีลักษณะของสัตว์หลาย ๆ ชนิดผสมกันอยู่ในตัวเดียว ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำ วาฬ หรือแม้แต่สัตว์ในจินตนาการอย่างยูนิคอร์น จนกลายมาเป็นสัตว์น้ำที่มีหน้าตาแปลกประหลาดแต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่คิด นาร์วาลนั้นจะมีลักษณะเป็นอย่างไร วันนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับนาร์วาล วาฬที่มีเขาเหมือนกับยูนิคอร์น

นาร์วาล

นาร์วาล สัตว์ที่เมื่อใครได้พบเห็น ก็คงต้องนึกถึงสัตว์ที่อยู่ในเทพนิยายอย่างยูนิคอร์นกันอย่างแน่นอน เพราะพวกเขานั้นมีลักษณะที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว พวกเขาเป็นสัตว์น้ำที่มีลักษณะภายนอกโดดเด่นและสามารถจดจำได้ง่ายเป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นมีเขาขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาบริเวณใบหน้า แถมมันยังยืดยาวออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่ออีกด้วย 

บริเวณลำตัวของพวกเขานั้นมีความอ้วนกลมใกล้เคียงกับแมวน้ำ มีหางเป็นปลา บางคนจึงสับสนว่าพวกเขาคืออะไรกันแน่ ความจริงแล้วสัตว์ทะเลสายพันธุ์นี้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าวาฬมีฟัน เป็นญาติของวาฬเบลูกา ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูเหมือนไม่มีจริง แต่เราก็สามารถพบเจอพวกเขาได้ทั่วไปตามธรรมชาติเช่นเดียวกัน 

ที่สำคัญเขาที่เรามองเห็นกันนั้นจะมีเฉพาะในตัวผู้เท่านั้น โดยจะเป็นงาที่ยื่นออกมาจากกรามด้านบนบริเวณด้านซ้ายในปากของพวกเขา เป็นงาซี่เดียวที่หากสังเกตดูให้ดีจะบิดเป็นเกลียวเหมือนกับเขาของยูนิคอร์น และที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ บางตัวอาจสามารถมีงายื่นออกมาได้ถึง 2 ซี่เลยทีเดียว ส่วนความยาวนั้นก็มีตั้งแต่ 1.6 เมตรขึ้นไป บางตัวอาจมีเขางอกยาวได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว 

ตัวเมียบางตัวก็สามารถมีงายื่นออกมาได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะไม่มีการขดเป็นเกลียวสวยงามและไม่ได้มีความยาวเทียบเท่ากับตัวผู้ ประโยชน์ของงาพวกเขานั้นยังคงเป็นปริศนา เพราะบางคนก็บอกว่ามันใช้สำหรับการขุดเจาะน้ำแข็งในการหาอาหาร บางคนก็บอกว่าใช้ในการต่อสู้ในช่วงฤดูผสมพันธุ์เพื่อแย่งตัวเมีย บ้างก็ว่าตัวผู้ใช้สำหรับการดึงดูดตัวเมียให้มาผสมพันธุ์ด้วยเช่นเดียวกัน 

นาร์วาล

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูสวยงามแต่ความจริงแล้ว นาร์วาลเป็นสัตว์นักล่าที่มันจะรวมตัวกันล่าเหยื่อเป็นฝูง ฝูงหนึ่งจะมีสมาชิกประมาณ 10 ตัว สำหรับเหยื่อแล้วการรวมตัวของเหล่านาร์วาลคงจะน่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว อาหารอันโอชะของพวกเขานั้นมีทั้งปลาเทาราต์ ปลาแฮลิบัต กุ้ง และปลาหมึก 

โดยปกติแล้วพวกเขามักจะเลือกกินปลาซีกเดียวเป็นหลัก เพราะตัวเล็ก อยู่รวมกันเป็นฝูง มีปริมาณเยอะ ทำให้ล่าได้ง่ายและอิ่มท้อง นอกจากนี้พวกเขายังมีความสามารถในการดำน้ำไม่แพ้ใคร โดยพวกเขาสามารถดำน้ำได้ลึกสุดกว่า 1.6 พันเมตรเลยทีเดียว หลังจากนั้นพวกเขาจะว่ายขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำแข็งเมื่อไหร่ก็ได้ตามความต้องการ 

นาร์วาล

ในประเทศแคนาดาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอินนูอิตดั้งเดิม มีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับนาร์วาลด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งพวกเขาเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งนาร์วาลเคยเป็นมนุษย์ มีผู้หญิงอาศัยอยู่กับลูกชายซึ่งเป็นลูกบุญธรรม แม่เลี้ยงได้ปฏิบัติกับลูกชายที่พิการตาบอดอย่างโหดร้ายทารุณ ถึงแม้ว่าเธอจะมีอาหารเต็มไปหมดแต่เธอก็ปล่อยให้ลูกชายต้องหิวโหย เด็กชายที่ทุกข์ทรมานจึงแปรเปลี่ยนไปเป็นเด็กชายที่เต็มไปด้วยความแค้น 

วันเวลาผ่านไปเด็กชายคนนั้นก็ได้เติบโตขึ้นกลายเป็นชายหนุ่มที่สามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง เขาต้องการจะแก้แค้นแม่เลี้ยง ดังนั้นในวันหนึ่งขณะที่แม่เลี้ยงออกไปล่าวาฬขาวเขาก็ได้ขอติดตามไปด้วย เมื่อวาฬตัวใหญ่ว่ายเข้ามาแม่เลี้ยงก็ทำการโยนฉมวกลงไปและตะโกนให้ลูกชายช่วยดึงเชือก แต่แทนที่ลูกชายจะช่วยเขากลับผลักเธอลงจากเรือ หญิงชราถูกวาฬลากลงไปในธารน้ำแข็งและเปลี่ยนร่างกลายเป็นวาฬอีกตัว ผมที่ถักเปียยาวไปถึงกลางหลังของเธอนั้นได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นงาเหมือนกับเขาของนาร์วาลนั่นเอง 

นาร์วาล สิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงสูญพันธุ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

นาร์วาล

นาร์วาล เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสวยงามและโดดเด่นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะงาของพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกลายมาเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากในอดีตที่มีผู้คนล่าเพียงเพราะความสวยงาม โดยเฉพาะในยุคกลางที่ชาวไวกกิ้งและอินนูอิตต่างล่าพวกเขาจนจำนวนประชากรลดลงอย่างฮวบฮาบ 

แต่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันมนุษย์อย่างเราจะไม่ได้ล่าพวกเขาเพื่องาหรือเนื้ออีกต่อไป แต่ด้วยอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากภาวะโลกร้อนก็ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นตามไปด้วย พวกเขาต้องอพยพย้ายถิ่นอาศัยมาอยู่บริเวณแถบชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกในประเทศรัสเซีย แคนาดา และกรีนแลนด์แทน 

แต่มันก็ไม่ได้ช่วยหยุดยั้งการลดจำนวนประชากรของพวกเขาแต่อย่างใด เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นก็กระทบกับถิ่นที่อยู่อาศัยรวมไปถึงแหล่งอาหารของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ในหลายประเทศต่างรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการดูแลสิ่งแวดล้อม 

แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของพวกเขาก็ยังคงน่าเป็นห่วงไม่ต่างจากเดิมแต่อย่างใด หากเราต้องการให้เขาอยู่เป็นความสวยงามคู่กับโลกใบนี้ไปอีกยาวนาน สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทั่วทั้งโลกนั่นเอง 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment