เวลาไปร้านขายปลาหลายคนคงรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับปลาหลากหลายสายพันธุ์ที่ดูสวยงาม แต่หนึ่งในสายพันธุ์ที่สามารถดึงดูดสายตาผู้คนได้มากที่สุดก็คือ ปลาเทวดา พวกเขามาพร้อมกับรูปร่างและสีสันที่สวยงามเหมือนหลุดออกมาจากรูปวาด ทำเอามนุษย์ตกหลุมรักได้อย่างไม่ยากเย็นนัก สำหรับใครที่สนใจอยากทำความรู้จักกับพวกเขา เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับปลาเทวดา ปลาที่มีต้นกำเนิดมาจากลุ่มน้ำอเมซอน
ปลาเทวดา ได้รับความนิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก สายพันธุ์ดั้งเดิมของพวกเขาจะมีลำตัวแบน ๆ รูปทรงคล้ายกับสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ที่มีความกว้างและความยาวของลำตัวเกือบจะเท่ากัน ครีบก้นและครีบหลังจะแผ่ขยายออกมาและค่อนไปทางโคนหาง
ครีบท้องจะเป็นเส้นยาวลงมาด้านล่าง ในขณะที่ครีบหางของจริงจะค่อนข้างสั้น มีดวงตากลมโตขนาดใหญ่ ริมฝีปากเล็ก ปลาเทวดาตามธรรมชาติจะมีสีเทาอมเขียว ที่เป็นประกายเหลือบเงินทั่วทั้งลำตัว บางตัวอาจมีสัญลักษณ์เป็นจุดสีแดงเล็ก ๆ กระจายอยู่ส่วนบนของลำตัว ด้านหลังจะเป็นสีน้ำตาลอมเขียวมะกอก หากโดนแสงแดดจะเปล่งประกายเป็นสีน้ำตาลแดงดูแวววาว
เห็นสวยงามราวกับราชนิกุลแบบนี้ ความจริงแล้วพวกมันมีลักษณะนิสัยที่น่ารัก เรียบง่าย และรักสงบเป็นอย่างมาก สามารถเลี้ยงร่วมกับปลาสายพันธุ์อื่นได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องพิจารณานิสัยของแต่ละตัวเช่นกัน ซึ่งบางตัวก็มีนิสัยที่ก้าวร้าวและดุร้ายจนไม่สามารถเลี้ยงกับปลาตัวอื่นได้
ในปัจจุบันปลาเทวดาได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ออกมาหลากหลาย มีลวดลายและสีสันที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งทำให้พวกเขาได้รับความนิยมในการเลี้ยงเล่นมากขึ้นไปอีก
แหล่งที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตตามธรรมชาติ
เดิมทีพวกมันอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ บริเวณแม่น้ำอเมซอน มักจะอยู่รวมตัวกันเป็นฝูงในบริเวณที่มีน้ำไหล แต่ไม่แรงจนเกินไป บริเวณโดยรอบจะมีต้นไม้ขึ้นและมีรากไม้ห้อยลงมาจรดแม่น้ำ ค่าความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 5 – 5.5 เมื่อไหร่ก็ตามที่อากาศเป็นพิษ พวกมันก็จะเสียชีวิตอย่างง่ายดาย
ว่ากันว่าในอดีตก่อนที่จะมีการทำเหมือง มักใช้วิธีตรวจสอบสภาพอากาศในเหมืองว่าปลอดภัยต่อคนงานหรือไม่ ด้วยการใช้ปลาเทวดาในการทดสอบ คนทำเหมืองจะนำเอาโถใส่ปลาลงไปในเหมือง ทิ้งไว้สักพักแล้วดึงขึ้นมาดู หากปลายังคงอยู่รอดก็หมายความว่าปลอดภัย สามารถส่งมนุษย์ลงไปทำงานได้
หากดึงขึ้นมาแล้วปลาตาย หมายความว่าภายในเหมืองเต็มไปด้วยแก๊สพิษ พวกเขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นเทวดา เพราะช่วยให้ผู้คนรอดจากพิษทั้งหลายได้นั่นเอง
การจำแนกเพศ
สำหรับใครที่อยากจะลองเลี้ยงปลาเทวดาและหวังว่าจะผสมพันธุ์ ให้มีลูกมีหลานออกมาให้เราได้ชื่นใจ อันดับแรก เราก็ต้องแยกเพศของพวกเขาออกให้ได้ก่อน โชคดีที่ปลาสายพันธุ์นี้สามารถแยกเพศได้จากลักษณะภายนอก ดังนี้
- หน้าผาก หากเป็นตัวผู้บริเวณหน้าผากจะมีสีที่เข้มและดูโหนกนูนมากกว่าเพศเมีย
- ติ่งเพศ ตัวเมียจะมีอวัยวะติ่งเพศซึ่งยื่นเป็นท่อยาวออกมา จนสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน และมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าของตัวผู้ ยิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์และวางไข่ยิ่งเห็นติ่งเพศของตัวเมียได้อย่างชัดเจน
เปิดชนิดของปลาเทวดาและความแตกต่างที่สามารถสังเกตได้
หากดูแบบผิวเผินปลาเทวดาก็คงจะดูคล้าย ๆ กันไปหมด เพราะการจะจำแนกชนิดของปลาในสายพันธุ์เดียวกันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่ เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่าพวกมันมีกี่ชนิด และแต่ละชนิดมีลักษณะรูปร่างเป็นอย่างไรกันบ้าง
- ชนิดอัลตั้ม เป็นชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หน้าผากจะลาดมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ลักษณะลำตัวจึงเหมือนกับสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแบบเป๊ะ ๆ ลำตัวเป็นสีเงิน มีลายเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม มีลายตามลำตัวในลักษณะแนวตั้งคล้ายกับเสือโคร่ง
- ชนิดสกาแลร์ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงมากที่สุดในปัจจุบัน มีครีบตลอดทั้งลำตัวที่ยาวสวยงามเป็นพิเศษ สามารถพบได้หลากหลายสีสันตั้งแต่สีขาวเหลือบเงิน ไปจนถึงสีดำสนิท
- ชนิดจมูกยาวหรือหน้ายาว ชนิดนี้จะมีใบหน้าที่ยื่นยาวออกมาเป็นทรงสามเหลี่ยม จนเหมือนกับทำปากจู๋อยู่ตลอดเวลา ครีบจะไม่ได้สยายเท่ากับชนิดสกาแลร์ เมื่อโตเต็มวัยจะมีความยาวลำตัวประมาณ 10 เซนติเมตร
ความแตกต่างระหว่างปลาเทวดาน้ำจืดและน้ำเค็ม
หลายคนอาจเข้าใจว่าปลาเทวดาเป็นปลาน้ำจืด แต่ความจริงแล้วมีสายพันธุ์น้ำเค็มด้วย พบได้ทั่วไปตามแนวปะการังของทะเลเขตร้อน ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรอินเดีย ขนาดตัวจะใหญ่กว่าสายพันธุ์ที่อยู่ในน้ำจืดเป็นอย่างมาก แถมยังมีสีสันที่ฉูดฉาดกว่าด้วย
ในขณะเดียวกัน สายพันธุ์น้ำเค็มก็สามารถปรับตัวได้ดีถูกจับมาเลี้ยง เพียงแต่รูปร่างเขาจะมีความคล้ายคลึงกับปลาขี้ตังเป็ดหรือดอรี่ในเรื่อง Finding Nemo ครีบจะไม่ได้มีขนาดใหญ่หรือลากยาวเหมือนกับสายพันธุ์น้ำจืด แถมลักษณะลำตัวยังมีความโค้งมนกว่า
ปลาเทวดา ปลาที่มีชื่อเป็นมงคลแต่เป็นสัตว์ต้องห้ามตามหลักฮวงจุ้ย
หากเราฟังเพียงแค่ชื่อของปลาเทวดา หลายคนคงคิดว่าพวกเขาเป็นสัตว์มงคลอย่างแน่นอน เพราะมีชื่อเป็นถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาเป็นสัตว์ต้องห้ามที่มีความอัปมงคลตามหลักฮวงจุ้ย เนื่องจากชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่า
โครงสร้างของปลาสามารถสร้างพิฆาตได้รอบทิศ ครีบที่เป็นมุมแหลมในลักษณะทิ่มแทงตลอดทั้งตัว เมื่อว่ายไปมาก็จะทำให้พลังที่อยู่โดยรอบถูกทำลาย ดังนั้นชาวจีนจึงไม่นิยมเลี้ยงปลาสายพันธุ์นี้กันสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีชื่อที่เป็นมงคลและมีความสวยงามมากแค่ไหนก็ตาม
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me