ล็อบสเตอร์

by animalkingdom
524 views

กุ้งนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งน้ำเค็มหรือกุ้งน้ำจืด ต่างก็เป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก วันนี้เรา AnimalKingdom จะพาไปทำความรู้จักกับสัตว์ทะเลที่ภัตตาคารสุดหรูจะขาดไม่ได้นั้นคือ “ล็อบสเตอร์” พร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

ล็อบสเตอร์

ข้อมูลทั่วไปของล็อบสเตอร์

ล็อบสเตอร์ ไม่ได้จัดเป็นกุ้งโดยเฉพาะเจาะจง พวกมันเป็นสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ที่อยู่ในวงเดียวกันอย่างพวก กั้ง ปูและกุ้งนั้นเอง ชื่อล็อบสเตอร์ของพวกมันมาจากภาษาละตินที่แปลว่า ตั๊กแตน และในภาษาอังกฤษแปลว่า แมงมุม ส่วนสายพันธุ์ของพวกมันที่เป็นที่นิยมในการนำมาทำอาหารในไทยคือ “แคนาเดียนล็อบสเตอร์” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีเนื้ออร่อยที่สุด ด้วยความที่มีขนาดตัวที่ใหญ่เวลากินก็จะเต็มปากเต็มคำ ได้รับรู้ถึงรสชาติของเนื้อที่แน่นและหวานฉ่ำ ซึ่งเหมาะมากกับการรับประทานแบบสด ๆ และแบบปรุงสุก

ล็อบสเตอร์

ลักษณะทั่วไปของล็อบสเตอร์

พวกมันมีขนาดตัวที่ใหญ่ สีของลำตัวจะแตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธุ์ ซึ่งจะมีทั้ง สีดำ สีน้ำตาล สีเขียว สีเหลือง  สีขาวและสีฟ้า เป็นต้น แต่ที่เห็นเป็นสีแดง ๆ นั้นเกิดจากการนำไปปรุงอาหารทำให้เกิดสีที่มีความน่ารับประทาน ส่วนกล้ามของสัตว์ทะเลชนิดนี้จะมีกล้ามที่มีขนาดใหญ่กว่ากุ้งชนิดอื่น เป็นกล้ามที่โดดเด่นเลยทีเดียว ส่วนขาจะมีลักษณะเป็นปล้อง ซึ่งขาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเดินจะมีทั้งหมด 5 คู่ โดยคู่แรกจะพัฒนาเป็นกล้ามและส่วนที่สองคือ ขาว่ายน้ำ เป็นแผ่นบาง ๆ มีไว้สำหรับโบกน้ำที่มีออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายของมัน พวกมันมีขนาดตัวตั้งแต่ 500-6,000 กรัม หรืออาจมากกว่านี้ได้ ตัวโตเต็มวัยจะสามารถมีอายุได้ถึง 100 ปี ส่วนหนวดจะมีด้วยกัน 3 คู่ คู่แรกจะยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร ส่วนคู่ที่สองและคู่ที่สามยาวประมาณ 10 เซนติเมตร และมีเปลือกที่แข็งแรงมากแถมยังสามารถงอกแขนขาใหม่ได้เมื่อลอกคราบ

ล็อบสเตอร์

ลักษณะนิสัย

ล็อบสเตอร์เป็นสัตว์ทะเลที่หวงถิ่นมาก มันจะจัดการสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ที่เข้ามาในถิ่นของมันและถ้าหากมีขนาดตัวที่พอ ๆ กัน มันก็สามารถจัดการผู้ที่บุกรุกอาณาเขตของมันได้อีกด้วย มันจะฉี่ออกทางหน้าโดยฉี่ผ่านช่องเหงือกซึ่งอยู่ใต้หนวดคู่ที่สองนั้นเอง และเมื่อตัวเมียต้องการผสมพันธุ์ มันจะชอบมีนิสัยเรียกร้องความสนใจจากตัวผู้และตัวผู้นั้นก็จะต้องอวดความแข็งแรงของมันด้วย

ล็อบสเตอร์

การสืบพันธุ์ของล็อบสเตอร์

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและต่อสู้ได้ถูกใจตัวเมียที่สุด จึงจะสามารถผสมพันธุ์ได้ โดยตัวเมียจะอยู่ผสมพันธุ์ด้วยเพียง 10 วัน ตัวเมียที่อยากผสมพันธุ์ มันจะไปฉี่ใส่ที่อยู่ของตัวผู้หลาย ๆ ครั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งตัวเมียสามารถเก็บสเปิร์มได้ถึง 2 ปี โดยจะเลือกเวลาวางไข่เมื่อมันพร้อม ในการผสมพันธุ์บางครั้งสเปิร์มของตัวผู้เพียงตัวเดียวไม่พอ ตัวเมียจะเก็บไข่ไว้ก่อนเพื่อสะสมสเปิร์มจากตัวผู้ตัวอื่น ๆ โดยจะวางไข่ถึง 10,000 ฟอง ต่อครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment