มนุษย์กลายมาเป็นสัตว์ที่อยู่บนห่วงโซ่อาหารได้เนื่องจากเรามีสติปัญญา แต่หากพูดถึงขนาดร่างกายแล้วเมื่อเทียบกับสัตว์บางสายพันธุ์ อย่าง วาฬบรูด้า ก็ทำให้มนุษย์อย่างเราเรารู้สึกตัวเล็กกระจ้อยร่อยเสียเหลือเกิน นั่นก็เป็นเพราะว่าสัตว์สายพันธุ์นี้มีขนาดตัวที่ใหญ่เป็นอย่างมาก มนุษย์มีขนาดตัวไม่เกินไปกว่า 1 ส่วน 10 ของพวกเขาอย่างแน่นอน สถานการณ์ของพวกเขาในปัจจุบันถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วงเนื่องจากอยู่ในระดับ NT หรือกำลังถูกคุกคามอยู่นั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวาฬบรูด้า พวกเขาจะมีลักษณะเป็นอย่างไร และจะมีความน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดลักษณะของวาฬบรูด้าและการกระจายพันธุ์
วาฬบรูด้า เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่ชื่อของพวกเขาถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกียรติกับกงสุลชาวนอร์เวย์ที่อาศัยอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ สัตว์น้ำสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีความโดดเด่นเฉพาะขนาดตัวที่ใหญ่โตแต่อย่างใด แต่พวกเขายังมีครีบหลังที่เป็นทรงโค้งค่อนไปบริเวณปลายหาง
การแพนหางของพวกเขาจะวางไปตามแนวราบ มีรอยเว้าบริเวณกึ่งกลางคล้ายกับหางของนางเงือก ครีบคู่หน้าจะมีปลายแหลม ซี่แผ่นกรองจะค่อนข้างหยาบ ผิวของพวกเขาเป็นสีเทาดำ ถึงจะตัวใหญ่โตแต่รูปร่างมีความเพรียวไม่น้อย
บริเวณใต้คางและลำคอจะมีแต้มเป็นสีขาวให้เห็นประปราย บางตัวอาจมีแต้มจุดสีขาวหรือสีจางบริเวณแผ่นหลังคล้ายกับกระบนผิวหนังมนุษย์อีกด้วย
เมื่ออยู่ในทะเลเราจะสามารถสังเกตเห็นสันของวาฬบรูด้าได้อย่างชัดเจน เนื่องจากสันของพวกเขาจะวางตัวในระนาบเดียวกัน เริ่มจากบริเวณปลายริมฝีปากยาวไปจนถึงตำแหน่งของช่องหายใจ แตกต่างจากวาฬสายพันธุ์อื่นที่สันจะอยู่บริเวณกลางปากเพียงแค่อันเดียวเท่านั้น แต่พวกเขากลับมีสันถึง 3 อันเลยทีเดียว
เมื่อพวกเขาขึ้นมาหายใจเหนือผิวน้ำเราก็จะเห็นส่วนหัวของพวกเขาและน้ำพุที่พวกเขาใช้หายใจออกเป็นเวลาสักพัก เมื่อโตเต็มวัยพวกเขาจะมีลำตัวยาวได้ตั้งแต่ 14 เมตร ไปจนถึง 15.5 เมตร ส่วนน้ำหนักเริ่มต้นที่ 20 ตันไปจนถึง 25 ตันเลยทีเดียว
รูปแบบการกินอาหารของพวกเขาจะใช้วิธีการกรอง เนื่องจากมีอวัยวะเป็นซี่กรองที่คล้ายกับหวีจำนวนตั้งแต่ 250 ซี่ ไปจนถึง 370 ซี่ อาหารส่วนใหญ่ของพวกเขาจึงเป็นสัตว์ขนาดเล็กอย่างเช่น เคย แพลงก์ตอน ปลาเล็กปลาน้อย และหมึกตัวเล็ก
เราสามารถพบวาฬบรูด้าได้ทั่วไปในบริเวณทะเลเขตอบอุ่นทั่วทั้งโลก อยู่ได้ทั้งในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน ส่วนใหญ่จะพบในช่วงละติจูด 40 องศาเหนือจนถึงใต้ อย่างในประเทศไทยของเราจะพบอยู่ในฝั่งทะเลอ่าวไทย
มีรายงานว่าพบวาฬบรูด้าในจังหวัดที่ติดชายทะเลแทบทุกจังหวัด โดยเฉพาะทะเลบ่อนอกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่พบว่ามีการอพยพย้ายถิ่นฐานทางไกลแต่อย่างใด พบครั้งหนึ่งจำนวนประมาณ 1-2 ตัวเท่านั้น
เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์อายุตั้งแต่ 9 ปีจนถึง 13 ปี พวกเขาก็จะผสมพันธุ์และออกลูกครั้งละ 1 ตัว แถมยังออกลูกทุก 2 ปี ใช้ระยะเวลาในการตั้งท้องยาวนานตั้งแต่ 10 เดือนไปจนถึง 12 เดือน ให้นมประมาณ 12 เดือน
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงแพร่กระจายสายพันธุ์ได้ค่อนข้างช้า แต่ถึงอย่างนั้นหากพวกเขาสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้เรื่อย ๆ จะสามารถมีอายุได้ยาวนานกว่า 50 ปีเลยทีเดียว
ความเป็นอยู่ของวาฬบรูด้าในประเทศไทย
วาฬบรูด้า จัดเป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ ดังนั้นในประเทศไทยพวกเขาจึงถูกจัดให้เป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ห้ามมิให้มีการค้าขายวาฬสายพันธุ์นี้ระหว่างประเทศ ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2554 ที่ผ่านมากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ออกมาระบุว่า
พื้นที่ทะเลอ่าวไทยเป็นแหล่งอาศัยและการศึกษาเกี่ยวกับวาฬบรูด้าที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ปัจจุบันพวกเขาจึงจัดว่าเป็นสัตว์ประจำถิ่นของอ่าวไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถพบพวกเขาได้ตั้งแต่ 2 ตัวไปจนถึง 20 ตัว
วาฬแต่ละตัวที่พบยังมีขนาดแตกต่างกันออกไปอีกด้วย หากประเมินจำนวนประชากรแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 35 ตัว สามารถจำแนกอัตลักษณ์ได้ทั้งหมดประมาณ 30 ตัว และมีการตั้งชื่อให้กับพวกเขาด้วย ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2555 ยังพบว่ามีพวกเขาฝูงหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากปากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น
อาหารส่วนใหญ่ของพวกเขาจะเป็นปลากะตัก และยังค้นพบอีกว่ากลุ่มที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนั้นจะมีขนาดเล็กมากกว่าที่อื่นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่อาศัยอยู่ทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นที่สนใจของเหล่านักวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก แล้วมีการสันนิษฐานอีกด้วยว่าอาจจะเป็นวาฬสายพันธุ์ใหม่ก็ได้เช่นเดียวกัน
เปิดจุดดำน้ำดูวาฬบรูด้าในประเทศไทย
วาฬบรูด้า เป็นสัตว์ทะเลตัวใหญ่มหึมา ที่หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวทางทะเลอยู่แล้วจะต้องอยากเห็นพวกเขากับตาตัวเองสักครั้งอย่างแน่นอน พวกเขาไม่อันตรายเพราะกินแต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย ดังนั้นมันจึงปลอดภัยในการล่องเรือไปรับชมพวกเขาอย่างใกล้ชิด สำหรับใครที่สนใจเราจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้างที่เราสามารถลงไปดำน้ำดูพวกเขาได้
- หาดเจ้าสำราญ อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี จัดเป็นจุดหลักที่ผู้คนมักเดินทางขึ้นเรือไปดำน้ำดูวาฬบรูด้า จนถึงขั้นมีเทศกาลชมวาฬ ทานปูที่หาดเจ้าสำราญกันเลยทีเดียว กิจกรรมที่จัดไม่ได้มีเพียงแค่การดำน้ำลงไปดูชีวิตสัตว์เท่านั้น แต่คุณยังจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารทะเลสดใหม่รสชาติอร่อย สินค้า OTOP ที่วางขายให้คุณได้เลือกซื้อมากมาย รับรองว่าคุณจะสนุกสนานกับกิจกรรมเหล่านี้อย่างแน่นอน
- ท่าเรือแหลมผักเบี้ย ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี เป็นจุดติดต่อเรือเช่าเดินทางไปดำน้ำรับชมวาฬ ที่นอกจากคุณจะได้ลงเรือไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโคลน ชมทะเลแหวก ลงไปเก็บหอย ปล่อยลูกปู รวมไปถึงการปลูกป่าโกงกาง
เรื่องราวที่น่าสนใจของ แหลมผักเบี้ย
- จุดขึ้นเรือบางขุนเทียน ตั้งอยู่ในตำบลพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถไปเพียงแค่ 30 นาที ก็ถึงจุดหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในจุดนี้คุณจะได้พบกับผู้ให้บริการนั่งเรือชมวาฬหลายเจ้าให้ได้เลือกสรรตามความชื่นชอบ แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me