หากพูดถึงสัตว์ที่ถูกจับมาจากทะเลแล้วมีรสชาติอร่อย สัมผัสหนึบหนับดูแปลกใหม่มากที่สุดสำหรับมนุษย์ ก็คงจะหนีไม่พ้นปลาหมึกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะหมึกกล้วย ถ้าได้นำเอามาย่างดี ๆ จิ้มกับน้ำจิ้มแซ่บ ๆ รับรองว่าอะไรก็ฉุดไม่อยู่ แต่ใจเย็นก่อน เราไม่ได้จะมาพูดถึงเมนูเด็ดที่ทำจากปลาหมึก เพราะเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขา ในฐานะของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีความสำคัญในระบบนิเวศ หมึกกล้วยจะมีความน่าสนใจมากกว่าแค่การเป็นอาหารยังไง ไปดูกันเลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับหมึกกล้วย สัตว์ที่ไม่ได้มีดีให้รสชาติอร่อยเท่านั้น
หลายคนอาจมองว่าหมึกกล้วยเป็นอาหารที่อร่อยเสียเหลือเกิน ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับพวกเขาเช่นเดียวกัน ที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเรื่องอาหารมากกว่าการเป็นสัตว์น้ำ ที่มีความสำคัญไม่แพ้ใครในระบบนิเวศทางทะเล
หมึกกล้วย เป็นสายพันธุ์ของหมึกที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด และยังเป็นที่รู้จักมากที่สุดอีกด้วย ลักษณะที่โดดเด่นก็คือ ลำตัวมีความเรียวยาวและกลม มีครีบเป็นรูปสามเหลี่ยมข้างลำตัวทั้งซ้ายและขวา มีหนวดยื่นยาวออกมาจากข้างล่างทั้งหมดถึง 10 หนวด
มีอยู่ 1 คู่ที่จะยื่นยาวออกมาเป็นพิเศษ เอาไว้ใช้สำหรับการล่าเหยื่อหรือหยิบจับอาหาร เพราะถึงพวกเขาจะเป็นอาหารของเรา แต่ในธรรมชาติพวกเขาก็จัดว่าเป็นสัตว์นักล่ามือฉมังสายพันธุ์หนึ่งเช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้ลำตัวหมึกกล้วยดูโปร่งแสงเป็นเพราะ พวกเขามีแคลเซียมแข็งโปร่งใสขนาดเล็กและบาง มากกว่าที่พบในลิ้นทะเล ซึ่งเป็นแคลเซียมที่มีความแข็งคล้ายกับที่พบในหมึกกระดอง ด้วยความที่พวกเขาสามารถช่วยควบคุมประชากรของเหยื่อจากการเป็นสัตว์กินเนื้อได้ ทำให้พวกเขามีความสำคัญมากกว่าแค่เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนับว่าเป็นโชคดีที่พวกเขายังไม่ถือว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แต่อย่างใด
รวมความน่าสนใจของหมึกกล้วยที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
หมึกกล้วย เป็นสัตว์ทะเลที่มาพร้อมกับความน่าสนใจมากมาย หลายคนอาจยังไม่เคยทราบว่า พวกเขามีความสามารถในการพรางตัวด้วยการพ่นหมึกได้ หรือบางครั้งยังสามารถเปลี่ยนสีลำตัวได้อีกด้วย พฤติกรรมของพวกเขาก็เต็มไปด้วยเรื่องที่ทำให้เราแปลกใจอีกเพียบ เราจึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลมาบอกต่อความน่าสนใจของหมึกกล้วยให้ทุกคนได้รู้กัน
- การพรางตัว ขึ้นชื่อว่าหมึก แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีความสามารถในการพรางตัว ด้วยการพ่นหมึกซึ่งเป็นของเหลวสีดำออกมา เพื่อช่วยในการหลบหนีจากนักล่าและป้องกันตัวได้เหมือนกับสายพันธุ์อื่น ๆ ในหมึกของพวกเขาจะประกอบไปด้วยสารเคมีมากมายและเมลานิน วิธีการพ่นหมึกจะพ่นเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ จากนั้นก็ซุกซ่อนตัวอยู่ภายในนั้น เนื่องจากพวกเขาค่อนข้างเคลื่อนไหวช้า ดังนั้นจึงเลือกที่จะหลบมากกว่าหนี
- การเปลี่ยนสี ถึงพวกเขาจะมีลำตัวโปร่งใส แต่ความจริงแล้วหมึกกล้วยสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย แถมยังทำได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้วิธีบีบรัดเม็ดสีที่มีทั้งสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน เพื่อปรับตัวให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมในทะเล โดยส่วนใหญ่พวกเขามักใช้สีแดงเข้มเพื่อปกป้องตัวเองจากมนุษย์ เพราะสเปกตรัมของแสงอาทิตย์เมื่อผ่านทะลุน้ำทะเลไป ก็จะเป็นสีที่ถูกดูดกลืนไปเป็นสีแรกนั่นเอง
- พฤติกรรม เห็นแบบนี้แต่พวกเขาเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่กันแบบรวมฝูง ออกเดินทางหากินบริเวณกลางน้ำเพื่อจับสัตว์ทั่วไปที่มีขนาดตัวเล็กกว่าตัวเองกิน พวกเขาสามารถว่ายน้ำได้ด้วยความเร็วระดับปานกลาง วิธีการคือใช้ท่อดูดน้ำทะเลที่เต็มไปด้วยออกซิเจนสำหรับการหายใจ จากนั้นก็พ่นมาด้านหลังเพื่อให้ตัวเองถูกผลักไปข้างหน้า เป็นเทคนิคเดียวกันกับการเคลื่อนที่ของเครื่องบินเจ็ท แต่ปัญหาก็คือพวกเขาจะควบคุมความเร็วได้ยาก โดยปกติแล้วหากตกอยู่ในสถานการณ์จวนตัวจึงมักจะใช้วิธีการเปลี่ยนสีหรือพรางตัวมากกว่า
เบเลมไนต์ หนึ่งในสายพันธุ์หมึกกล้วยที่สูญพันธุ์ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์
หมึกกล้วยจัดเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่ดำรงเผ่าพันธุ์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในยุคดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ใช่ทุกสายพันธุ์ที่สามารถอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เหมือนกับสายพันธุ์ที่เรารับประทานเป็นอาหาร จะบอกว่าพวกมันโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่อาจทราบได้เช่นกัน
หนึ่งในสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดายก็คือ เบเลมไนท์ นั่นเอง พวกเขาจัดเป็นหมึกกล้วยสายพันธุ์หนึ่งที่ถูกจัดอยู่ในจำพวกเซฟาโลพอร์ต ลักษณะคือมีถุงหมึกแต่จะไม่มีน้ำหมึก มีแขน 10 ข้าง แต่ไม่มีหนวด จากการศึกษาซากฟอสซิลพบว่า พวกเขามีอยู่จำนวนมากในยุคจูราสิคและยุคครีเทเชียส
ส่วนใหญ่จะพบเป็นส่วนหลังบริเวณเปลือกกระดองที่มีลักษณะคล้ายกับกระสุน แขนของพวกเขามีตะขอเอาไว้สำหรับจับเหยื่อด้วย ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความน่ากลัวไม่แพ้สายพันธุ์ไหนในโลกเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีศัตรูตามธรรมชาติอย่างสัตว์เลื้อยคลานในทะเลเช่นกัน เพราะมีการพบซากดึกดำบรรพ์ของพวกเขาในกระเพาะอาหารของซากดึกดำบรรพ์ของเหล่านักล่าอีกที
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me