หมึกบลูริง หมึกที่มักจะเป็นข่าวในประเทศไทยอยู่เสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้บริโภคหลายคนได้พบเห็นหมึกสายพันธุ์ดังกล่าว ซุกซ่อนอยู่ในปลาหมึกย่างเสียบไม้ที่เรารับประทานกันเป็น STREET FOOD นั่นเอง พวกเขานั้นไม่เหมือนกับอาหารที่เรารับประทานกันโดยทั่วไป เพราะเป็นสัตว์ที่มีอันตรายร้ายแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากพิษของพวกเขานั้นสามารถทำให้มนุษย์อย่างเราเสียชีวิตได้ ถึงแม้ว่าเราจะทำให้พวกเขาสุกโดยผ่านความร้อนมาก่อนแล้วก็ตาม และ Animalkingdom จะพาทุกคนไปดูกันว่าอันตรายของพิษพวกเขานั้นเป็นอย่างไร
ทำความรู้จักกับหมึกบลูริง หมึกที่เต็มไปด้วยพิษอันตราย
หมึกบลูริง หรือ หมึกสายวงน้ำเงิน จัดอยู่ในประเภทของหมึกยักษ์ ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงเป็นอย่างมาก แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขากลับมีขนาดตัวที่เล็ก จนแทบจะสังเกตไม่เห็นว่าเป็นสายพันธุ์อะไรกันแน่ ดังนั้นมันจึงมีหลายครั้งที่พวกเขาปะปนมากับอาหารที่เรารับประทานกันโดยทั่วไป
เมื่อตัวโตเต็มวัยพวกเขาจะมีขนาดลำตัวไม่เกิน 5 เซนติเมตรเท่านั้น ส่วนหนวดก็ยาวไม่เกิน 20 เซนติเมตร ตัวเมียจะวางไข่แล้วใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากฟักออกมาจากไข่พวกเขาจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เพื่อเติบโตเป็นตัวโตเต็มวัย อายุขัยเฉลี่ยของพวกเขาจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปี เท่านั้น ความโดดเด่นที่สังเกตเห็นได้ชัดก็คือ พวกเขาจะมีวงกลมเป็นสีน้ำเงินทั่วทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นบนลำตัวหรือหนวดก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังสามารถทำให้วงแหวนเหล่านี้เรืองแสงเมื่อมีภัยคุกคามเข้าใกล้อีกด้วย
ทั่วโลกสามารถพบได้ทั้งหมด 4 ชนิด มีอยู่ชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ในประเทศไทยทั้งในฝั่งอันดามันและอ่าวไทยนั่นก็คือ HAPALOCHLAENA MACULOSA ถึงแม้ว่าจะเป็นสัตว์น้ำแต่พวกเขาก็เป็นสัตว์มีพิษที่อันตรายเป็นอย่างมาก พวกเขามีพิษที่ร้ายแรงมากกว่างูเห่าถึง 20 เท่า เลยทีเดียว รับรองว่าหากรับประทานสัตว์มีพิษชนิดนี้เข้าไปเป็นอันจบเห่อย่างแน่นอน
คนที่โดนพิษของสัตว์มีพิษชนิดนี้จะเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว หากเทียบกับไซยาไนด์ที่เป็นสารพิษแล้วมีความรุนแรงมากกว่าถึง 1,200 เท่า ไม่เพียงเท่านั้นผิดของพวกเขายังสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว และยังไม่มียาแก้พิษ การปรุงพวกเขาให้สุกก็ไม่สามารถทำให้สัตว์มีพิษชนิดนี้อันตรายน้อยลงได้เลย
จะเป็นอย่างไรหากเรารับประทานหมึกบลูริงเข้าไปและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
หากคุณเผลอรับประทานหมึกบลูริงเข้าไป อาการเริ่มต้นคือ จะรู้สึกชาบริเวณลิ้น ริมฝีปาก จากนั้นจะลามมาถึงใบหน้า แขนขา และกลายเป็นตะคริว น้ำลายไหล อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง กล้ามเนื้ออ่อนแรง หากรับประทานสัตว์มีพิษชนิดนี้เข้าไปในปริมาณมาก ระบบประสาทส่วนกลางก็จะถูกทำลายจนทำให้หายใจไม่ออก หลังจากนั้นก็จะเสียชีวิตในเวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมง เคสที่เร็วที่สุดคือ เสียชีวิตในระยะเวลาเพียงแค่ 20 นาที เท่านั้น
หากเรารับประทานเข้าไปต้องปฐมพยาบาลด้วยการนำเอาอากาศเข้าปอดอย่างเช่น การเป่าปาก ใช้เครื่องช่วยหายใจ หากปฐมพยาบาลไม่ทันอาจเกิดปัญหาสมองตาย เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนเป็นเวลานานเกินไป หากถูกกัดให้ตรึงอวัยวะไม่ให้เคลื่อนไหวแล้วรีบส่งโรงพยาบาลโดยด่วน