สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลนั้นเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่แปลกตา ความสามารถที่ไม่เหมือนใคร วิถีชีวิต การหากิน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่แตกต่างจากสัตว์บกที่เราเห็นจนชินตา โดยเฉพาะหอยเม่นที่หลายคนเคยสัมผัสกับพิษสงของพวกมันกันมาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าพวกมันมีไข่ที่รสชาติอร่อยเสียเหลือเกิน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกมันให้มากขึ้น พวกมันจะมีน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักหอยเม่น สัตว์ที่เต็มไปด้วยความลับน่าค้นหา ผู้มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ
หอยเม่น หรือ เม่นทะเล เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง พวกมันมักอาศัยอยู่บริเวณพื้นทะเลที่มีความแข็งแรง แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีขนาดและสีสันที่แตกต่างกันออกไป แม้ว่าพวกมันจะตัวกลมป๊อกและมีหนามแหลมพุ่งออกมาตามตัวเต็มไปหมดเหมือนกับลูกตุ้มหนาม
แต่เราก็สามารถรู้ได้ว่าส่วนไหนที่เป็นปากของพวกมัน เพราะพวกมันมักนำเอาส่วนที่เป็นปากเกาะติดกับพื้นอยู่เสมอ ส่วนรูทวารหนักจะอยู่บริเวณกลางลำตัว ด้านบนลำตัวจะเป็นหนามแข็งที่สามารถใช้ในการเคลื่อนไหว ขุดคุ้ยพื้นหรือแม้แต่ฝังตัวในทรายได้
หอยเม่นเป็นสัตว์ที่มีการผสมพันธุ์แบบภายนอก นั่นก็คือ ตัวเมียจะวางไข่ก่อน จากนั้นตัวผู้จึงปล่อยสเปิร์มออกมาให้ปฏิสนธิกัน ดังนั้นตัวผู้และตัวเมียจึงไม่จำเป็นต้องเจอกันหรือจับคู่กันเลยก็ยังได้ ขอเพียงแค่ไข่และสเปิร์มของพวกมันหากันจนเจอ เพียงเท่านี้พวกมันก็สามารถให้กำเนิดลูกได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้ หอยเม่นตัวเมียจึงต้องออกไข่เป็นล้าน ๆ ฟองในแต่ละครั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์นั่นเอง หอยเม่นเป็นสัตว์ทะเลที่กินได้ทั้งเนื้อและพืช อาหารประจำของพวกมันจะเป็นซากพืชซากสัตว์ตายแล้ว สาหร่ายทะเล และสัตว์ไม่มีกระดูก
ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูแปลกตาและน่าจะใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบาก ทำให้หลายคนรู้สึกสงสัยไม่น้อยเลยว่าหวยเม่นมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้วร่างกายของพวกมัน ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ใต้ท้องทะเลที่เต็มไปด้วยอันตรายได้สบาย ๆ เลยทีเดียว
อันตรายที่แฝงอยู่ในหนามแหลมของหอยเม่น และวิธีป้องกันและการรักษาเมื่อโดนตำ
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า หอยเม่น เป็นสัตว์มีพิษ แต่ก็ไม่ได้มีพิษทุกสายพันธุ์ หากเป็นสายพันธุ์ที่มีหนามขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะไม่มีพิษ และมักจะมีความยาวของหนามมากกว่าสายพันธุ์ที่มีพิษ เป็นแคลเซียมที่เปราะบาง ในขณะที่หอยเม่นที่มีหนามขนาดเล็กและสั้น มีสีสันสดใส ส่วนใหญ่มักจะมีพิษร้าย
แต่ถึงเราจะโดนหอยเม่นสายสายพันธุ์ที่ไม่มีพิษตำเท้า มันก็ยังคงสามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับเราได้อยู่ดี บริเวณที่โดนหนามตำจะมีรอยบวมแดงและรู้สึกปวดเป็นเวลาประมาณ 2-3 วันเลยทีเดียว แต่หากคุณโดนหนามที่มีพิษตำเข้า สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ
แผลจะบวมแดง รู้สึกปวดระบม ระบบประสาทบริเวณที่โดนตำจะไม่ทำงาน การสูบฉีดเลือดผิดปกติ หน้าซีด วิงเวียนศีรษะ ยิ่งหากใครเจอตัวที่มีพิษร้ายแรง มันอาจทำให้คุณรู้สึกชาบริเวณที่โดนตำจนแทบไม่เหลือความรู้สึก หายใจลำบาก รู้สึกสั่นไปทั้งตัว ซึ่งก็อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
วิธีรักษาเมื่อโดนหนามตำ
กรณีที่ถูกหนามหอยเม่นขนาดใหญ่แบบไม่มีพิษตำ วิธีการจัดการที่ง่ายที่สุดก็คือ การนำเอาของแข็งอย่างรองเท้า ขวดน้ำ หรือก้อนหินมาทุบบริเวณที่โดนตำ ช่วงแรกคุณอาจรู้สึกเจ็บเวลาโดนทุบสักหน่อย แต่มันจะช่วยให้หนามที่เป็นแคลเซียมสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
แต่หากคุณโดนหนามหอยเม่นที่มีพิษตำ ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาตามอาการโดยด่วน ไม่จำเป็นต้องไปทุบหนามพิษเหมือนกับเวลาโดนหนามไม่มีพิษตำแต่อย่างใด ยิ่งพาไปหาหมอได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ป้องกันตัวอย่างไรให้ปลอดภัยจากหอยเม่น
ทุกครั้งก่อนเดินลงไปเล่นในทะเลควรสังเกตโดยรอบว่า มีหอยเม่นอาศัยอยู่ใกล้ ๆ หรือไม่ หากมีเราขอแนะนำว่าให้เลี่ยงไปที่อื่นจะดีที่สุด เพราะหากคุณเห็นเพียงแค่ตัวเดียวหมายความว่า ญาติพี่น้องของพวกมันอาจอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันที่คุณมองไม่เห็นได้ พยายามใส่รองเท้าที่สามารถป้องกันเท้าได้ทุกครั้งเมื่อลงไปเล่นน้ำทะเล แตะพื้นทะเลให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยจากพวกมันได้มากขึ้น
ไข่หอยเม่น ของฝากจากท้องทะเลรสชาติอร่อย ดีต่อสุขภาพและราคาแพง
หอยเม่นเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับความนิยมในฐานะอาหารเป็นอย่างมาก และยิ่งโด่งดังมากขึ้นกว่าเดิมเมื่ออาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยสิ่งที่ได้รับความนิยมในการรับประทานมากที่สุดก็คือ อูนิหรือไข่นั่นเอง เพราะเราเรียกติดปากว่าไข่มาโดยตลอด หลายคนจึงเข้าใจผิดว่า แผ่นเยลลี่สีเหลือง ๆ ส้ม ๆ ที่เราเคยรับประทานกันนั้นเป็นไข่จริง ๆ แต่ความเป็นจริงแล้วมันคืออัณฑะของตัวผู้หรือรังไข่ของตัวเมีย
ด้วยเหตุนี้รสชาติของไข่หอยเม่นตัวผู้และตัวเมียจึงมีความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป ว่ากันว่าหากเป็นอันอัณฑะของตัวผู้จะมีรสชาติที่อร่อยกว่ารังไข่ของตัวเมีย โดยทั่วไปแล้วจะให้สัมผัสนุ่มละมุนแบบละลายในปาก มีกลิ่นท้องทะเลเฉพาะตัว หารับประทานยาก ราคาสูง เนื่องจากการจะเก็บพวกมันขึ้นมาเป็นอาหาร จำเป็นต้องดำลงไปในทะเลแล้วเก็บขึ้นมาทีละตัว ไม่สามารถใช้แหหรืออวนในการเก็บได้แต่อย่างใด
นอกจากนี้การจะแกะพวกมันยังต้องใช้มือทำเพียงเท่านั้น ไม่สามารถใช้อุปกรณ์เสริมช่วยได้ เนื่องจากเปลือกของพวกมันค่อนข้างเปราะบาง หากแกะแรงก็จะทำให้เปลือกแตกจนไม่เป็นทรง เนื้อไข่ที่ได้ออกมาก็จะดูเละเทะไม่น่ารับประทาน เมื่อแกะเปลือกเสร็จแล้ว ยังต้องมานั่งตักไข่ออกทีละตัว ล้างให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำทะเลเท่านั้น มันจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมอัณฑะหรือรังไข่หอยเม่นจึงกลายมาเป็นอาหารระดับพรีเมียมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเหล่าสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me