เสือเป็นสัตว์ที่เราต่างรู้จักกันดีอยู่แล้วในฐานะของสัตว์ที่วิ่งเร็วเป็นอย่างมาก แต่สายพันธุ์ที่วิ่งเร็วมากที่สุดในโลกนั้นก็คือ ชีตาห์ พวกเขาเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมากเนื่องจากมีความโดดเด่นในเรื่องของความเร็วและสรีระของร่างกายที่ดูสง่างาม สำหรับใครที่สนใจ Animalkingdom จะพาทุกคนไปดูกันว่า ชีตาห์เป็นใครมาจากไหนและมีความเป็นอยู่อย่างไร
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับชีตาห์ นักล่าสุดปราดเปรียวที่คุณไม่มีวันวิ่งหนีทัน
ชีตาห์ เป็นสัตว์นักล่าที่มีความปราดเปรียวเป็นอย่างมากจนถึงขั้นที่ หากคุณเจอพวกเขาตามธรรมชาติ คุณอาจจะวิ่งหนีพวกเขาไม่ทันและกลายมาเป็นหนึ่งในเหยื่ออันโอชะของพวกเขาอย่างแน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเสือขนาดเล็กแถมยังไม่สามารถส่งเสียงคำรามได้อีกต่างหาก แต่พวกเขาก็จัดเป็นสัตว์บกที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน
พวกเขามีถิ่นอาศัยอยู่ในแถบทุ่งหญ้าสะวันนา ความเร็วสูงสุดในการวิ่งของชีตาห์นั้นอยู่ที่ประมาณ 110 ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งความเร็วของชีตาห์นั้น มาจากความสามารถที่พวกเขาโค้งงอกระดูกสันหลังของตนเองระหว่างการเคลื่อนที่ได้
เมื่อพุ่งกระโจนออกไปกระดูกสันหลังของพวกเขาก็จะเหยียดออกจนมีลักษณะเหมือนโช้ก ที่ช่วยให้พวกเขานั้นวิ่งกึ่งกระโดดได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก และทำให้พวกเขากลายเป็นนักล่าที่น่าเกรงขามมากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งในโลก
ความโดดเด่นในส่วนของร่างกายพวกเขานั้น นอกจากจะมีความเพรียวบางและดูปราดเปรียวแล้วก็คือ ลวดลายบนตัวของชีตาร์นั่นเอง พวกเขามีลวดลายเป็นจุดคล้ายกับเสือดาวเพียงแต่จะมีขนาดตัวที่เล็กกว่า สามารถพบได้หลายสีสันตั้งแต่สีเหลืองอ่อนไปจนถึงสีเหลืองเข้มเลยทีเดียว ปกติพวกเขาจะไม่สามารถซ่อนเล็บไว้ในอุ้งเท้าได้เหมือนกับแมว ยกเว้นตอนที่ยังเป็นเด็กอายุไม่เกินกว่า 15 สัปดาห์
ชีตาห์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มักอาศัยอยู่กันตามลำพังหรือไม่ก็อยู่รวมกันเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ในกลุ่มพี่น้องที่มีอาณาเขตร่วมกัน อาหารของพวกเขาส่วนใหญ่นั้นจะเป็นกวางขนาดเล็ก เนื่องจากพวกเขาเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถล่าสัตว์ที่มีขนาดจนเกินไปได้ เพราะมันไม่คุ้มกับการวิ่งหรือแม้แต่การที่อาจจะถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
ด้วยถิ่นที่อยู่อาศัยที่เป็นทุ่งหญ้า พวกเขาจึงไม่มีความสามารถในการปีนต้นไม้สักเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นชีตาห์ก็มีความสามารถในการกระโดดไม่แพ้ใคร โดยสามารถกระโดดได้สูงกว่า 4.5 เมตรเลยทีเดียว สำหรับการบ่งบอกอาณาเขตของพวกเขานั้น จะใช้การปัสสาวะเพื่อทิ้งกลิ่นเอาไว้ ให้เสือจากอาณาเขตอื่นได้รับรู้ว่า บริเวณนี้เป็นอาณาเขตการล่าของพวกเขา
เวลาล่าเหยื่อพวกเขานั้นจะซ่อนตัวในบริเวณที่อยู่สูงกว่าเหยื่อ แล้วเข้าตะปบด้วยเท้าหน้าก่อนจะกัดเข้าที่คอ หลังจากที่พวกเขากินอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาจะไม่นำซากกลับไปกินต่อหรือกลับมากินซากเดิมอีก ซากที่เน่าแล้วก็ไม่กิน ยกเว้นแต่จะหิวจัดหรือเป็นพวกเสือที่แก่แล้วจนไม่สามารถล่าสัตว์ได้เอง
ชีตาห์กับสถานภาพที่ทำให้อาจเสี่ยงสูญพันธุ์
ชีตาห์ อาจเป็นสัตว์ที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและความรวดเร็ว จนหลายคนคิดว่าคงไม่มีอะไรที่จะกลายมาเป็นภัยคุกคาม จนทำให้พวกเขานั้นกลายเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างแน่นอน แต่ความเป็นจริงแล้วเสือทุกตัวที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ทั่วโลกนั้น ล้วนแล้วแต่มีปัญหาในการดำรงชีวิตทั้งสิ้น
โดยเฉพาะภัยคุกคามจากมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการล่า การจับตัว หรือแม้แต่การบุกรุกที่อยู่อาศัยก็ตาม แม้แต่ในแถบทวีปแอฟริกาที่มีประชากรพวกเขาอยู่มากที่สุดนั้น พื้นที่อยู่อาศัยก็ยังลดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจมากขึ้นกว่าเดิมอย่างสิงโต พวกเขาจึงมักจะต้องเสียลูกไปอยู่เสมอจากการต่อสู้กับสิงโต
การทำฟาร์มปศุสัตว์ก็นับว่าเป็นหนึ่งในภัยคุกคาม ที่เข้าไปแย่งพื้นที่หากินของพวกเขา ซึ่งเป็นสัตว์ในธรรมชาติ อย่างเช่นในป่าอนุรักษ์ของประเทศอิหร่านที่เดิมทีเคยมีพวกเขาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีการทำฟาร์ม อาหารหลักของพวกเขาก็ลดลงไปอย่างมีนัยสำคัญ จนประชากรชีตาห์ลดน้อยลงไปด้วยเช่นเดียวกัน
และมันก็กลายมาเป็นสาเหตุของอีกหนึ่งปัญหาสำคัญนั่นก็คือ การผสมพันธุ์ในกลุ่มสายเลือดใกล้ชิดเนื่องจากประชากรที่ลดน้อยลง พันธุกรรมของพวกเขาอ่อนแอลงและทำให้ไม่มีภูมิต้านทานโรคตามปกติ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ก็ยิ่งทำได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม สายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือสายพันธุ์เอเชียที่มีจำนวนน้อยจนเข้าขั้นวิกฤต
ในยุค 70 เหลือพวกเขาเพียงแค่ไม่เกิน 200 ตัวทั่วโลก และในช่วงหลังมานี้จำนวนก็ลดลงอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม จนในช่วงยุค 90 ปริมาณพวกเขาก็ลดลงเหลือไม่เกิน 50 ตัวเท่านั้น เรียกได้ว่าชีตาห์นั้นมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กับสัตว์สายพันธุ์อื่นเลยทีเดียว