หากพูดถึงสัตว์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในป่าหลายคนก็คงจะคิดถึงสิงโตอย่างแน่นอน แต่ก็มีสัตว์ชนิดหนึ่งที่ห้าวมากพอจะต่อสู้กับสิงโตได้นั่นก็คือ ฮันนี่แบดเจอร์ พวกเขาเป็นสัตว์ที่ภายนอกดูหน้าตาน่ารักแถมยังมีขนาดไม่ใหญ่เกินกว่าสุนัขบ้าน แต่กลับมีนิสัยห้าวเสียเหลือเกินจนท้าชนได้แม้กระทั่งกับสิงโต วันนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสัตว์โลกที่น่าทึ่งตัวนี้กันว่า พวกเขาคือใครและเพราะเหตุใดจึงห้าวถึงขนาดนั้น
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับฮันนี่แบดเจอร์ สัตว์ตัวจิ๋วสุดโหดที่ขึ้นชื่อว่าห้าวที่สุดในโลก
ฮันนี่แบดเจอร์ ที่เราจะพาทุกคนมารู้จักกันในวันนี้ มีขนาดตัวไม่ใหญ่เกินกว่าสุนัขบ้านทั่วไป พวกเขามีความยาวลำตัวสูงสุดได้เพียงแค่ 77 เซนติเมตร มีความยาวหางอยู่ที่ประมาณ 1 ฟุตเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าขนาดตัวที่เล็กจิ๋วจะไม่สามารถหยุดความห้าวของพวกเขาลงได้แต่อย่างใด
เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า พวกเขานั้นเป็นสัตว์แค่ไม่กี่ตัวบนโลกใบนี้ที่กล้าไปต่อสู้กับสิงโตได้ พวกเขาจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยอยู่ในอันดับสัตว์กินเนื้อ แต่ที่มาของชื่อนั้นเกิดจากการที่พวกเขาชื่นชอบการกินน้ำผึ้งเป็นอย่างมาก แถมยังไม่กลัวการโดนผึ้งต่อยอีกต่างหาก นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสัตว์นักล่าที่สามารถออกล่าได้อย่างน่าเหลือเชื่ออีกด้วย
ฮันนี่แบดเจอร์ มีขนปกคลุมตลอดทั้งลำตัวโดยขนบริเวณด้านหลังจะเป็นสีขาว ส่วนด้านล่างจะเป็นสีดำสนิทตลอดทั้งตัว มีผิวหนังที่หนา กรงเล็บก็ยาวแถมยังแหลมคม คมเขี้ยวของฮันนี่แบดเจอร์ในปากเล็ก ๆ นั้นก็มีความแหลมคมไม่แพ้กัน ช่วยให้สามารถกินเหยื่อที่ล่ามาได้ทั้งกระดูก
ตัวเมียจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าตัวผู้ มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนตัวผู้ก็จะใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยโดยมีน้ำหนักไม่เกิน 16 กิโลกรัม อายุในธรรมชาติไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่หากเป็นอายุในการเลี้ยงดู พวกเขาสามารถอยู่ได้ยาวนานสูงสุดกว่า 24 ปีเลยทีเดียว
พวกมันมักอาศัยอยู่ตามลำพังมากกว่าการอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง ใช้วิธีการขุดโพรงเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นที่หลบซ่อนเมื่อเจอปัญหา ถึงแม้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะไม่ใช้วิธีการหลบซ่อนก็ตาม และถึงจะตัวเล็กแบบนี้แต่ความจริงแล้วก็ไม่มีสัตว์ตัวไหนที่อยากจะล่าพวกเขาสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุนี้จึงมีคอมโบคู่หูที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นั่นก็คือ การที่เราได้เห็นฮันนี่แบดเจอร์ออกล่าคู่กับหมาป่าไคโยตี้นั่นเอง การจับคู่ของพวกเขานั้นช่วยให้เปอร์เซ็นต์การล่าสำเร็จสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็เป็นเพราะว่าความสามารถของแต่ละตัวสามารถเอื้อกันได้เป็นอย่างดี
หมาป่าคาโยตี้สามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเจ้าหนูตัวเล็กของเรานั้น ถึงแม้ว่าจะเคลื่อนไหวได้ช้าแต่ก็มีความสามารถในการขุดดินที่เก่งกาจไม่แพ้ใคร วิธีการล่าของพวกเขาก็คือ ฮันนี่แบดเจอร์กจะทำการขุดดินลงไปเพื่อให้เหยื่อที่อาศัยอยู่ในโพรงใต้ดดินเห็นและรู้สึกตกใจก่อนจะวิ่งหนี และเมื่อไหร่ก็ตามที่เหยื่อวิ่งหนีออกจากโพรงนั้น ก็เป็นตาของหมาป่าคายาตี้ที่จะวิ่งไล่ตามตะครุบเหยื่อจนสำเร็จ
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่หูที่ดีมากแค่ไหน แต่ในบางช่วงเวลาพวกเขาก็แยกกันล่าเช่นเดียวกัน อย่างเช่นในช่วงฤดูหนาวที่ฮันนี่แบดเจอร์นั้นสามารถล่าสัตว์ที่ขุดโพรงไปหลบความหนาวอยู่ใต้ดินได้ โดยเฉพาะพวกสัตว์ฟันแทะทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นกระต่ายหรือแพรี่ด็อกก็ตาม
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะห้าวมากแค่ไหนแต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขานั้นมักจะหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับผู้อื่นอยู่เสมอเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่รักสงบในยามที่ท้องอิ่ม
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกหิวโหยขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่ามากแค่ไหนหรือสัตว์มีพิษพวกเขาก็สามารถล่าได้ทั้งนั้น แม้ว่าจะถูกผึ้งต่อยหรือถูกงูพิษกัด พวกเขาก็จะล้มตัวลงนอนพักผ่อนสักประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาล่าได้ใหม่อีกครั้ง ไม่ได้ตายเหมือนกับสัตว์ตัวอื่นแต่อย่างใด
เปิดสาเหตุที่ทำให้เจ้าฮันนี่แบดเจอร์ห้าวเป้งไม่กลัวใคร
ฮันนี่แบดเจอร์ เป็นสัตว์ตัวเล็กที่ขึ้นชื่อว่ามีนิสัยห้าวมากที่สุดในโลก อย่างเช่น คลิปวิดีโอที่แพร่หลายไปทั่วทั้งโลกอินเตอร์เน็ตที่เราได้เห็นพวกเขาเข้าไปหาเรื่องสิงโตตัวใหญ่ มันต้องมีสาเหตุที่ว่าทำไมพวกเขาจึงกลายมาเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งและไม่กลัวใครเลย แม้กระทั่งสัตว์นักล่าที่แข็งแกร่งมากที่สุดในป่า
มันไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเป็นสัตว์ดุร้ายเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ธรรมชาติยังสรรค์สร้างให้พวกเขามีความแข็งแกร่งไม่แพ้ใครด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเกราะป้องกันอย่างผิวหนังที่หนาเป็นอย่างมาก หนาจนถึงขั้นที่เล็บของสิงโตหรือเสือคมๆ ก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุได้แต่อย่างใด
แม้แต่คมเขี้ยวของอสรพิษทั้งหลายก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เช่นเดียวกัน อย่างดีก็แค่ทำให้พวกเขาสลบไปก่อนจะฟื้นตัวกลับคืนมาได้ใหม่อีกครั้งตามปกติ ไม่เพียงเท่านั้นธรรมชาติยังมอบทั้งเขี้ยว เล็บ และกรามที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในโลกให้กับพวกเขาอีกต่างหาก
แม้แต่สัตว์ที่มีกระดองแข็งอย่างเต่าพวกเขาก็ยังสามารถกินได้หน้าตาเฉย ด้วยสาเหตุทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำให้ฮันนี่แบดเจอร์ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกลัวสัตว์ชนิดใดบนโลกอีกต่อไป ยิ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาหิวโหย ความบ้าพลังก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ชนิดที่สามารถเข้าไปแย่งเหยื่อจากปากของเสือหรือสิงโตได้เลยทีเดียว
นอกจากนี้พวกเขายังมีพฤติกรรมความแสบที่ทำให้พวกเสือหรือสิงโตต้องกำหมัดแต่ทำอะไรไม่ได้นั่นก็คือ การจ้องแต่จะกัดถุงอัณฑะของเสือหรือสิงโตอยู่ตลอดเวลา พวกเจ้าป่าที่กลัวว่าจะเสี่ยงสูญพันธุ์จึงมักจะหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับเจ้าหนูตัวเล็กนี่อยู่เสมอนั่นเอง