สุนัขพันธุ์ผสมสุดน่ารัก ลาบราดูเดิ้ล ฉลาด ฝึกง่าย เหมาะกับคนแพ้ขน

หลายคนอาจมองว่าสุนัขพันธุ์ผสมเป็นสุนัขที่ไม่น่าเลี้ยงสักเท่าไหร่ จากลักษณะที่ดูไม่สุดสักทาง แต่ไม่ใช่กับ ลาบราดูเดิ้ล สุนัขพันธุ์ผสมที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ และ พุดเดิล ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยนิสัยที่ร่าเริง ฉลาด ฝึกง่าย และขนน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ขนสุนัข ใครที่สนใจอยากจะลองเลี้ยงสุนัขพันธุ์ผสมดู เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าพวกเขามีดีอย่างไร

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับ ลาบราดูเดิ้ล เพื่อนขนปุยที่ฉลาด รักเด็ก เหมาะสำหรับมือใหม่

ลาบราดูเดิ้ล หมาพันธุ์เล็กที่มีขนหยิกฟูดูน่ารักคล้ายกับสุนัขสายพันธุ์พุดเดิล ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาในปี 1989 เพื่อเป็นสุนัขนำทางให้กับหญิงตาบอดคนหนึ่งในฮาวาย และพวกมันไม่ผลัดขนเนื่องจากสามีของหญิงตาบอดคนดังกล่าวแพ้ขนสุนัข

คอกแรกของการพัฒนาสายพันธุ์มีลูกสุนัขคลอดออกมา 3 ตัว หนึ่งในนั้นไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สุนัขตัวนั้นจึงถูกส่งไปทำงานที่ฮาวาย ส่วนที่เหลือถูกนำเอาไปประชาสัมพันธ์จนผู้คนเริ่มหันมาสนใจและนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในภายหลัง

ถึงแม้ว่า ลาบราดูเดิ้ล จะได้รับความนิยม แต่ผู้เพาะพันธุ์สุนัขอย่าง วอลลีย์ คอนรอน ในวัย 90 ปี ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขารู้สึกเสียใจกับการพัฒนาสุนัขสายพันธุ์นี้ขึ้นมา และไม่ได้ต้องการให้สุนัขกลายเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนแฟรงเกนสไตน์ หลังการครบรอบ 30 ปีที่สุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวได้ถือกำเนิดขึ้นมา

เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับทาง ABC podcast เอาไว้ว่า การพัฒนาสุนัขสายพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลในครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรจากการเปิดกล่องหายนะ ปล่อยสัตว์ประหลาดที่เหมือนกับแฟรงเกนสไตน์ออกมา เพราะข้อด้อยของสุนัขสายพันธุ์นี้ก็คือ พวกมันอาจมีปัญหาทางพันธุกรรม หรือไม่บางตัวก็อาจจะบ๊องไปเลย 

มันเป็นการพัฒนาสายพันธุ์ที่ไร้จริยธรรมและความเมตตา ทำขึ้นมาโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพของลูกหลานสุนัขสายพันธุ์นี้ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการที่สุนัขสายพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมันจะทำให้สายพันธุ์ได้รับการถ่ายทอดไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์ปั๊ก ที่เคยเป็นความผิดพลาดในการพัฒนาสายพันธุ์มาแล้วในอดีต

การพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ที่ถูกผสมจาก 2 สายพันธุ์ แล้วให้ไม่มีปัญหาเรื่องโรคทางพันธุกรรม หรือปัญหาเกี่ยวกับความชาญฉลาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และการที่เรายังคงเลี้ยงพวกเขาอยู่ ก็ไม่แตกต่างอะไรจากการสนับสนุนให้เกิดโรคทางพันธุกรรมในสุนัข ซึ่งอาจก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานต่อลูกสุนัขที่เกิดใหม่ในอนาคตได้

รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงลาบราดูเดิ้ล เลี้ยงดูอย่างไรให้มีความสุข

การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลถือว่าค่อนข้างง่ายและเป็นมิตรสำหรับคนแพ้ขนสัตว์ เพราะถึงแม้ว่าพวกมันจะมีขนที่ยาวเหมือนกับพุดเดิล แต่จะไม่ผลัดขน จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แต่อย่างใด ลักษณะรูปร่างมีความน่ารักน่าชังเหมือนกับพุดเดิลตัวโต 

พวกมันมีความเฉลียวฉลาดหลักแหลมเหมือนกับลาบราดอร์ ขี้เล่น เป็นมิตร สามารถฝึกฝนคำสั่งได้หลากหลาย ในขณะเดียวกันก็อ่อนโยน ใจดี จึงสามารถเลี้ยงกับเด็กในครอบครัวได้ สามารถเข้ากับสัตว์ตัวอื่นภายในบ้านได้เป็นอย่างดี 

สำหรับใครที่มีเด็กในครอบครัว ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกจะคล้ายกับพุดเดิล แต่ภายในเป็นลาบราดอร์ เพราะฉะนั้น ถ้าจะเลี้ยงรวมกับเด็กก็ต้องสอนเด็กให้เรียนรู้วิธีการเล่นกับสุนัขอย่างถูกต้องด้วย เพราะถ้าพวกมันเกิดความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ ก็สามารถทำให้เด็ก ๆ ได้รับบาดเจ็บได้เช่นเดียวกัน

แต่ในขณะเดียวกันลาบราดูเดิ้ลก็เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงและมีพลังงานสูง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีพื้นที่ให้พวกเขาได้วิ่งเล่น มีของเล่นให้พวกเขาได้ผ่อนคลายจากความเครียด และฝึกสอนพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ เพราะพวกเขาฉลาดมาก หากเราไม่ฝึกฝน พวกเขาก็อาจจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงจนต่อต้านเราได้เช่นกัน

การดูแลโดยรวมของสุนัขสายพันธุ์ลาบราดูเดิ้ล

การดูแลสุนัขสายพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลไม่ได้แตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่น พวกเขาเต็มไปด้วยพลังงาน จึงต้องการการออกกำลังกายอย่างหนักไม่แพ้กับต้นสายพันธุ์อย่างลาบราดอร์ พวกเขาชื่นชอบการออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านและการทำกิจกรรมกับคนในครอบครัว แถมยังชอบการว่ายน้ำอีกด้วย มันจะช่วยให้พวกเขาสมบูรณ์แข็งแรงและลดความเครียดได้เป็นอย่างดี 

ในส่วนของอาหาร พวกมันต้องการอาหารตามช่วงวัยเหมือนกับสุนัขทั่วไป ขอเพียงแค่มีปริมาณโปรตีนที่สูงเพื่อบำรุงกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ปริมาณอาหารไม่มากหรือน้อยจนเกินไป มีคาร์โบไฮเดรตต่ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำหนักเกิน และหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่างข้าว ข้าวโพด แป้งสาลี และธัญพืชอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้

ส่วนการดูแลความสะอาดและสุขภาพ พวกเขาถือเป็นสุนัขขนยาวที่ต้องแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยให้พวกเขาสบายตัวมากขึ้น และป้องกันการเกิดปัญหาขนพันกันจนกลายเป็นสังคะตัง อาบน้ำอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ หากอยู่ในช่วงอากาศร้อนมากต้องจัดที่ร่มไว้ให้พวกเขา เปิดพัดลม เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท และมีน้ำดื่มสะอาดให้อยู่เสมอ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me