หากสังเกตดูให้ดีคุณจะพบว่าเอกสารสำคัญทางราชการทั้งหลายมักจะมีการใช้ตราประทับเพื่อเป็นการปิดผนึกอย่างแน่นหนาด้วย ครั่ง แต่ทราบหรือไม่ว่าความจริงแล้วสิ่งที่ดูเหมือนขี้ผึ้งหรือเทียนนั้น มันเป็นสารที่ขับออกมาจากแมลงชนิดหนึ่งที่มีชื่อเดียวกันกับชื่อเรียกตราประทับ แม้ว่าในปัจจุบันผู้คนอาจหันมาใช้เทียนหรือขี้ผึ้งมากขึ้นในการทำตราประทับ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นแมลงที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้มากมาย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับครั่ง แมลงที่มนุษย์สามารถพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้
ครั่งเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่จัดอยู่ในกลุ่มแมลงประเภทเพลี้ย พวกเขามีอยู่หลากหลายชนิดเลยทีเดียว ในอดีตพวกเขาเคยเป็นแมลงศัตรูพืชที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับเหล่าเกษตรกรเป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่า
แมลงสายพันธุ์นี้จะมีปากเป็นงวงใช้สำหรับการเจาะดูดน้ำเลี้ยงต้นไม้โดยเฉพาะ ต่อให้เป็นไม้เนื้อแข็งก็ไม่สามารถรอดพ้นจากพวกเขาได้แต่อย่างใด การที่พวกเขาเจาะดูดน้ำเลี้ยงต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถเจริญเติบโตงอกงามได้อย่างที่ควรจะเป็น ผลผลิตก็ออกมาน้อยเกินกว่าปกติ
แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้เสมอ แม้พวกเขาจะเป็นศัตรูตัวฉกาจสำหรับเกษตรกร เราก็สามารถนำเอาครั่งมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย
วงจรชีวิตของครั่งจะเริ่มต้นจากการเป็นไข่ หลังจากนั้นก็จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ใช้เวลาไม่นานก็จะเติบโตและเข้าดักแด้ สุดท้ายก็กลายเป็นตัวโตเต็มวัยในที่สุด ไข่ของพวกเขามีสีแดง ตัวเมียจะวางไข่บนช่องว่างในเซลล์ของตนเอง หลังจากนั้นก็จะถูกฟักออกมาเป็นตัวอ่อนในช่องว่างและคลานออกมาทางช่องสืบพันธุ์
ในช่วงที่เป็นตัวอ่อนจะยังไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย พวกเขาจะหาพื้นที่บนกิ่งไม้เพื่อยึดเกาะจากนั้นก็ดูดกินน้ำเลี้ยงเป็นอาหารโดยที่ไม่เคลื่อนที่ไปไหนจนกว่าจะเข้าสู่ระยะดักแด้และกลายเป็นตัวโตเต็มวัย
ตัวผู้จะโตเต็มวัยหลังจากมีอายุได้ 55 วัน มีทั้งตัวที่มีปีกและไม่มีปีก หากไม่มีปีกพวกเขาก็จะผสมพันธุ์กับตัวเมียที่อยู่บนกิ่งเดียวกัน แต่หากมีปีกก็สามารถบินไปผสมกับตัวเมียที่กิ่งไม้อื่นได้
ส่วนตัวเมียจะโตเต็มวัยพร้อมผสมพันธุ์หลังจากมีอายุได้ 60 วัน พวกเขาลักษณะจะคล้ายกับถุงสีแดงและไม่มีขา ไม่สามารถเคลื่อนที่ออกจากบริเวณที่อยู่อาศัยได้
ครั่ง ยางจากแมลงที่สามารถนำเอามาใช้ประโยชน์ได้มากมาย
ครั่งเป็นแมลงที่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย พวกเขาจะขับสารบางอย่างออกมาที่ลักษณะเหมือนชันหรือยาง เพื่อป้องกันตนเองจากอันตรายที่เข้ามาคุกคาม โดยสารที่ถูกขับออกมาจะเรียกว่าครั่งดิบ ลักษณะจะมีความเหนียวคล้ายกับขี้ผึ้ง
เมื่อถูกความร้อนสามารถละลายได้ มีทั้งสีแดงม่วง สีส้ม หรือสีเหลืองแก่ มนุษย์นำเอาสารดังกล่าวมาใช้ประโยชน์เป็นเวลานานนับพันปีกันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถนำเอายางดังกล่าวมาใช้เป็นสมุนไพรได้อีกด้วย เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคลมขัดท่อและโรคโลหิตจางได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงเท่านั้นยังถูกนำเอาไปใช้ในอุตสาหกรรมมากมายอย่างเช่น แลคเกอร์ ทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ นำมาทำเป็นสีย้อมผ้า สีทาโลหะ และเครื่องประดับ แต่ที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ การใช้เป็นตราประทับเมื่อมีการขนส่งเอกสารทางไปรษณีย์
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงกลายมาเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญในการส่งออกเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศอินเดียก็ตาม มีการเลี้ยงเชิงอุตสาหกรรม แถมยังมีราคาขายสูงอีกด้วย
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีสารที่สามารถใช้แทนครั่งดิบได้ แต่ความต้องการใช้งานสารดังกล่าวก็ยังไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปมากนัก มันจึงกลายมาเป็นหนึ่งในอาชีพสร้างรายได้ให้กับเหล่าเกษตรกรในหลายพื้นที่ทั่วโลก
ครั่ง แมลงที่สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพได้
อย่างที่เรากล่าวไปว่า ครั่ง เป็นสัตว์ที่สามารถนำเอาสารที่มีลักษณะคล้ายกับขี้ผึ้งของพวกเขามาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ดังนั้นการเพาะเลี้ยงพวกเขาจึงสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้คนได้ นอกจากนี้ยังเป็นการตัดวงจรการทำลายพืชอีกด้วย
เพราะหากพวกเขาอยู่ตามธรรมชาติ พวกเขาก็จะเจาะดูดน้ำเลี้ยงต้นไม้จนทำให้ผลผลิตไม่เป็นไปตามที่ต้องการ วิธีการเพียงแค่นำเอาตัวอ่อนมาปล่อยบนกิ่งไม้พวกพุทราป่า มะเดื่อ จามจุรี หรือสะแกที่มีอายุประมาณ 4-5 ปี มีความแข็งแรงทนทานและมีขนาดใหญ่ในระดับหนึ่ง
พุ่มไม้ต้องมีความโปร่งเพื่อป้องกันการอับชื้นเวลาฝนตก เมื่อพวกเขาเจริญเติบโตเราก็สามารถทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยการตัดขายเมื่อแก่เต็มที่เรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ถึงระยะออกตัว จากนั้นให้กะเทาะตัวแมลงออกจากกิ่งไม้ นำเอาไปตากแห้ง และรีบขายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สาเหตุที่ต้องรีบขาย เพราะพวกเขาไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้นานแต่อย่างใด เนื่องจากจะทำให้สูญเสียคุณสมบัติไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจสายพันธุ์นี้ คุณควรติดต่อผู้รับซื้อก่อนว่ามีใครจะรับซื้อหรือไม่ รับซื้อเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดทุนได้นั่นเอง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me