แมลง สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่บางสายพันธุ์ก็มีหน้าตาที่ดูเป็นมิตรและไม่มีพิษภัยอะไร แต่ในบางสายพันธุ์กลับมีพิษร้ายที่อันตรายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแมลงก้นกระดก แมลงที่มีพิษร้ายส่งผลให้ผิวหนังเป็นผื่นคันหรือแผลพุพอง ปวดแสบปวดร้อนได้ และถ้าหากนำมาทานก็มีโอกาสเสียชีวิตกันได้เลยทีเดียว วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแมลงมีพิษร้ายสายพันธุ์นี้กัน รวมถึงวิธีดูแลและป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากพิษของพวกเขา
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับแมลงก้นกระดก แมลงรับน้องตัวการของผื่นแสบร้อน
แมลงก้นกระดก จัดเป็นด้วงชนิดหนึ่งที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า แมลงเฟรชชี่ นั่นก็เป็นเพราะว่า ช่วงต้นฤดูฝนเป็นช่วงเปิดเทอมของมหาวิทยาลัย และบางมหาวิทยาลัยที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ก็มักจะเจอเจ้าแมลงมีพิษเหล่านี้อยู่เสมอ
และเนื่องจากขนาดตัวที่เล็กจิ๋วของแมลงก้นกระดก ทำให้พวกมันสามารถเข้าไปในห้องได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในบางครั้งก็ไปเกาะอยู่ตามเสื้อผ้าหรือเนื้อตัวของเรา โดยที่เราไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำไป
ขนาดตัวของพวกเขาจะมีความยาวไม่เกิน 8 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่อย่าดูถูกบรรดาแมงก้นกระดกเหล่านี้โดยเด็ดขาด เพราะถึงแม่จะมีขนาดที่เล็กจิ๋ว แต่พิษนั้นอันตรายใช่เล่นเลยทีเดียว
ลักษณะทั่วไปของแมลงก้นกระดกจะมีลำตัวเป็นข้อปล้อง บริเวณหัว หลัง และปลายหางเป็นสีดำ ส่วนที่เหลือจะเป็นสีส้มสดใส ในเวลากลางคืนมักจะชอบออกมาเล่นแสงตามบ้านของผู้คน มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะบังเอิญสัมผัสกับพวกเขาได้ และพวกมันยังชื่นชอบการอยู่บริเวณโพรงหญ้าความชื้นสูงอีกด้วย
บอกเลยว่าช่วงฤดูฝนถือเป็นฝันร้ายของมนุษย์เราอย่างแท้จริง ที่ต้องเจอกับพวกเขาในปริมาณที่มากขึ้นกว่า พิษของแมลงอาจฟังดูไม่น่ากลัว แต่บอกเลยว่าพิษของแมลงก้นกระดกนั้น สามารถสร้างความเจ็บปวดอย่างถึงขีดสุดให้กับเราได้ ไม่แพ้กับสัตว์เลื้อยคลานหรือแมลงสายพันธุ์อื่นเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาสามารถปล่อยสารพิษพิเดอรินออกมาจากร่างกายได้ มันมีสถานะเป็นกรด เพียงแค่เราได้สัมผัสเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้ผิวหนังมีอาการระคายเคือง กลายเป็นผื่นที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนได้
อาการที่พบจากการโดนพิษของแมลงก้นกระดก
ความน่ากลัวและความอันตรายของแมลงก้นกระดกก็คือ พวกเขานี้ขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก ในบางครั้งเราไม่ทันได้สังเกตหรือไม่ทันระวัง ก็มีโอกาสจะโดนพิษของพวกเขาได้แล้ว เพราะเพียงแค่เราใช้มือปัดพวกเขาออกไปจากร่างกายเท่านั้นเอง
ผิวหนังทุกส่วนที่สัมผัสกับตัวของพวกเขา จะกลายเป็นผื่นตามมาอย่างแน่นอน ในช่วงแรกอาการจะยังไม่ปรากฏออกมาให้เราเห็น ต้องรอยาวนานประมาณ 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว จึงจะเริ่มรู้สึกคันหรือมีอาการแสบร้อนขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากนั้นผิวหนังของเราก็จะกลายเป็นผื่นแดงและมีอาการคันอย่างชัดเจน ผื่นที่เกิดจากพิษของแมลงก้นกระดกมักจะเป็นผื่นทรงกลม ภายในยังคงเป็นผิวสีเนื้ออยู่ แต่บริเวณโดยรอบจะเป็นสีแดงน่ากลัว บางคนที่แพ้อาจเกิดเป็นรอยไหม้หรือตุ่มน้ำใส ๆ ได้
หากเราปัดแมลงก้นกระดกออกจากร่างกาย ผื่นที่ปรากฏก็จะเป็นรอยทางยาวตามผิวหนังที่ถูกพวกเขาสัมผัสทั้งหมด ความรุนแรงของอาการก็จะขึ้นอยู่กับว่า เราสัมผัสปริมาณสารพิษไปมากน้อยแค่ไหน หากใครที่มีอาการแพ้หนักอาจถึงขั้นคลื่นไส้อาเจียน ป่วยเป็นไข้ หากโดนที่ดวงตาก็อาจถึงขั้นทำให้สูญเสียการมองเห็นได้เลยทีเดียว
วิธีดูแลตนเองหากโดนพิษของแมลงก้นกระดก
สำหรับใครที่โดนพิษของเจ้าแมลงก้นกระดกเล่นงานอย่าเพิ่งตกใจไป เพราะโดยปกติแล้วรอยแดงเหล่านี้จะสามารถหายเองได้หลังผ่านไปประมาณ 3 วัน หากแผลมีอาการรุนแรงก็จะตกสะเก็ดและหายไปเองภายในระยะเวลาประมาณ 10 วัน
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จะยังทิ้งรอยแผลเป็นดำ ๆ เอาไว้ หากปล่อยทิ้งไว้รอยนี้ก็จะหายไปตามกาลเวลา หรือหากอยากให้หายเร็วขึ้นกว่าเดิมจะทาครีมรักษาแผลเป็นก็ได้เช่นกัน แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อเพิ่มในจุดเดิมก็จะทำให้แผลหายช้าลงได้เช่นกัน
สำหรับใครที่พบว่าตัวเองกำลังโดนพิษของแมลงก้นกระดกเล่นงาน วิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องก็คือ การเช็ดด้วยแอมโมเนียหรือล้างด้วยน้ำสะอาด พยายามสัมผัสกับบริเวณที่โดนพิษให้น้อยที่สุด จากนั้นก็ให้รีบประคบเย็นโดยด่วน หากมีอาการอักเสบจนเป็นแผลพุพองขยายวงกว้าง เราขอแนะนำว่าให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเฉพาะจะดีที่สุด
ป้องกันแมลงก้นกระดกอย่างไรให้ถูกวิธี
แมลงก้นกระดกเป็นสัตว์ที่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะพบกับพวกเขาตัวเป็น ๆ อย่างแน่นอน วิธีการที่จะช่วยให้เราปลอดภัยในการเผชิญหน้ากับพวกเขาก็คือ ห้ามจับพวกเขาโดยเด็ด อย่าปัด บีบ หรือบี้ตัวพวกเขา เพราะถึงพวกเขาจะตายไป แต่เราก็ยังคงได้รับสารพิษอยู่เหมือนเดิม และยังอาจได้รับมากขึ้นอีกด้วย
หากพวกเขาไต่บนตัวเราให้ใช้วิธีการสะบัดหรือเป่าออก พยายามปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันแมลงไม่ให้สามารถเข้ามาในตัวบ้านได้ ในช่วงกลางคืนพยายามลดการใช้แสงสว่างด้วยการเปิดไฟเท่าที่จำเป็น ก่อนนอนหรือสวมใส่เสื้อผ้าให้ตรวจสอบให้ดีว่ามีแมลงเกาะอยู่หรือไม่ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราปลอดภัยจากเจ้าแมลงก้นกระดกได้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me