หากพูดถึงเส้นด้ายที่เมื่อนำเอามาทำเครื่องนุ่งห่มแล้วมีราคาแพง เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงไหมอย่างแน่นอน พวกเขาเป็นแมลงที่สามารถสร้างเส้นด้ายธรรมชาติ ที่เรานำเอามาผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่มได้ ลักษณะของเส้นด้ายจะมีความมันวาวและดูสวยงามหรูหราเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการตัดเสื้อผ้าที่ใช้ในงานพิธีหรือชุดไทย ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแมลงชนิดนี้ให้มากขึ้น พวกเขาเป็นใคร มาจากไหน เรามีคำตอบมาให้ ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับไหม ดักแด้ที่สร้างเส้นด้ายเครื่องนุ่งห่มราคาแพง
ไหม เป็นที่รู้จักในฐานะของเส้นใยธรรมชาติ เราสามารถหาเส้นใยเหล่านี้ได้จากดักแด้ของผีเสื้อสายพันธุ์หนึ่งที่มีชื่อว่า Bombyx Mori ลักษณะลำตัวของพวกเขาเมื่อเป็นผีเสื้อแล้วจะมีความอ้วนป้อม มีขนสีครีมหรือสีขาวปกคลุมตลอดทั้งลำตัว ปีกจะมีลายเส้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนพาดเป็นแนวขวาง
ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นผีเสื้อเพื่อทำให้ระบบนิเวศในธรรมชาติสมบูรณ์ มนุษย์ได้เลี้ยงดูพวกเขาจนกลายเป็นดักแด้เพื่อนำเอาเส้นใยของพวกเขามาใช้ในการทำเครื่องนุ่งห่ม ในประเทศไทยนิยมเลี้ยงพวกเขาเป็นอย่างมาก
โดยผีเสื้อดังกล่าวจะมีวงจรชีวิตทั้งหมด 4 ระยะ เริ่มต้นจากการเป็นไข่ หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นหนอน ซึ่งในระยะนี้เป็นระยะที่ผู้คนจะเลี้ยงพวกเขาเอาไว้เพื่อให้พวกเขาผลิตเส้นด้ายขึ้นมา หลังจากนั้นพวกเขาก็จะเข้าดักแด้ และโตเต็มวัยกลายเป็นผีเสื้อ
ระยะที่เป็นไข่จะใช้เวลาในการฟักตัวไม่เกิน 10 วัน เมื่อเข้าสู่การเป็นหนอนก็จะกลายเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทแมลงที่กินใบหม่อนเป็นหลัก ใช้เวลาประมาณ 22 วันขึ้นไป ก็จะแก่ดีและมีการทำรังห่อหุ้มตัวเองด้วยการชักใย
หนอนจะลอกคราบและกลายเป็นดักแด้อาศัยอยู่ในรัง ใช้เวลาไม่เกิน 10 วันก็จะฟักตัวออกมากลายเป็นผีเสื้อ เมื่อโตเต็มวัยพวกเขาจะใช้น้ำลายที่สามารถละลายใยไหมได้ เพื่อเจาะรังไหมออกมาใช้ชีวิตประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นพวกเขาก็จะตายลง
ในประเทศไทยของเรานิยมเลี้ยงไหมเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สังเกตได้จากการที่เสื้อผ้าในประเทศไทยของเรา ส่วนใหญ่แล้วก็ใช้เส้นใยธรรมชาติดังกล่าว ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูพืชแต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับเหล่าเกษตรกรแต่อย่างใด เนื่องจากเกษตรกรสามารถเลี้ยงพวกเขาเพื่อสร้างรายได้ได้เช่นเดียวกัน แถมเส้นใยธรรมชาติของพวกเขายังสามารถขายได้ในราคาที่สูงอีกด้วย
อยากเลี้ยงไหมต้องเตรียมตัวอย่างไรมาดูทางนี้
หากคุณต้องการเลี้ยงไหมในเชิงปศุสัตว์เพื่อสร้างรายได้ เราก็มีสิ่งที่คุณต้องเตรียมตัวก่อนการเลี้ยงพวกเขามาแนะนำกัน ดังต่อไปนี้
- อุปกรณ์ที่ต้องใช้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงแมลงสายพันธุ์นี้จะมีกระด้งที่ออกแบบมาสำหรับการเลี้ยงพวกเขาโดยเฉพาะ มีดและเขียง ตาข่ายสำหรับการถ่ายมูลหรือของเสีย ตะแกรงร่อน ตะเกียง ถังน้ำ สารโรยตัวไหม และตะกร้าสำหรับการเก็บใบหม่อน โดยอุปกรณ์ที่ใช้นั้นจะต้องมีความสะอาดด้วยการนำเอาไปล้างกับผงซักฟอกก่อน แล้วนำเอามาตากให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อโรคให้หมด เป็นวิธีการป้องกันโรคและแบคทีเรียราคาประหยัด ช่วยลดต้นทุนและทำให้คุณได้กำไรมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้หนอนมีความแข็งแรงและสามารถผลิตเส้นใยธรรมชาติให้กับเราได้เป็นอย่างดี
- สถานที่ สถานที่ที่ใช้ในการเลี้ยงแมลงสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านมักจะใช้ใต้ถุนบ้านทำเป็นโรงเรือน ต้องมีอากาศที่ถ่ายเทตลอดเวลา จึงไม่สามารถทำเป็นโรงเรือนทึบได้แต่อย่างใด ดังนั้นเราจึงอยากจะแนะนำให้ใช้วิธีการคลุมมุ้งไนลอนเพื่อเป็นการป้องกันสิ่งสกปรกและแมลง
- ไข่ คุณสามารถหาซื้อได้จากกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เพื่อรายได้หรือจะลองหาเก็บเองก็ได้เช่นเดียวกัน แต่เราอยากจะแนะนำให้ใช้วิธีการซื้อมากกว่า แม้ว่ามันจะเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินมากกว่า แต่ถึงยังนั้นก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณได้เช่นเดียวกัน และยังประหยัดเวลาอีกด้วย
- ต้นหม่อน ใบหม่อนเป็นอาหารหลักสำหรับตัวหนอน ดังนั้นหากคุณต้องการเลี้ยงพวกเขาแบบประหยัดเงิน สิ่งที่คุณต้องเตรียมก็คือแปลงสำหรับการปลูกต้นหม่อน เพื่อนำเอาใบมาเลี้ยงพวกเขา สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการปลูกต้นหม่อนก่อนเลย
เปิดวิธีการเลี้ยงไหมเป็นอาชีพ
ไหม ถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่ง พวกเขาสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเส้นใยของพวกเขามีราคาที่สูงลิ่วจากความสวยงามแปลกตา ไม่เหมือนกับเส้นใยชนิดอื่นหรือเส้นใยสังเคราะห์ ใครที่อยากเลี้ยง เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าจะมีวิธีการเลี้ยงพวกเขาอย่างไรและมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
- นำเอาแผ่นไข่ที่ตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ววางลงบนกระด้งสำหรับเลี้ยง ควรทำในช่วงเช้าเพื่อให้ไข่ได้รับแสงสว่าง หากถึงเวลาฟัก ไข่ก็จะแตกออกและตัวอ่อนก็จะฟักออกมารับแสงประมาณ 6 ชั่วโมง ให้เรานำเอากระดาษแผ่นไข่ออกแล้วโรยสารฟอร์มัลดีไฮด์เข้มข้น 3% ให้ทั่วทั้งตัวหนอน
- นำเอาใบหม่อนที่หั่นเป็นชิ้นขนาดเล็ก 40 กรัมโรยให้พวกเขากิน ทิ้งเวลาประมาณ 15 นาทีแล้วให้เคาะแผ่นไข่ไหมฝั่งตรงข้ามที่มีหนอนอยู่ เพื่อให้หนอนตกลงไปในกระด้งที่เราเตรียมเอาไว้ จากนั้นนำเอาไม้ขนไก่มาปัดตามตัวหนอนที่เหลือบนแผ่นให้ลงไปอยู่ในกระด้งให้หมด พยายามใช้ไม้ขนไก่เกลี่ยพวกเขาให้อยู่กระจายทั่วทั้งกระด้ง จากนั้นตอนเย็นให้นำเอาใบหม่อนให้พวกเขาอีกครั้งจำนวน 80 กรัม หลังจากนั้นก็ให้อาหารพวกเขาวันละ 3 มื้อ
- ใบหม่อนสำหรับหนอนตัวอ่อน เป็นระยะเริ่มต้นของตัวอ่อนตั้งแต่วันที่ 1 ไปจนถึงวันที่ 5 ใบหม่อนที่ใช้จะต้องนำเอาไปสับละเอียดก่อน เลือกใช้เฉพาะยอดใบ 1-3 เท่านั้น เมื่อเข้าสู่วันที่ 6 ไปจนถึงวันที่ 10 ก็สามารถให้ใบที่ 4-6 ได้ โดยให้เราสังเกตที่ตาของพวกเขาว่ามีการเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้วหรือไม่ เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 3 ให้ใช้ใบที่ 7-10 โดยหั่นให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยนำเอาไปให้พวกเขากิน
- ใบหม่อนสำหรับหนอนที่แก่แล้ว สำหรับหนอนที่เริ่มโตแล้วนั่นก็คือตั้งแต่วันที่ 11 ถึง 13 วัน พวกเขาจะเริ่มกินใบหม่อนมากขึ้นกว่าเดิมจนเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ความชื้น และความร้อน ดังนั้นในห้องเลี้ยงพวกเขาอาจจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นและทำให้พวกเขาอ่อนแอ แม้ว่าเราจะสามารถเด็ดใบให้พวกเขากินได้เลย โดยให้เด็ดในช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายที่แดดไม่จัดมาก แต่เราก็ต้องหมั่นดูแลด้วยการนำเอาตัวที่อ่อนแอหรือตัวที่ป่วยออกไป
สำหรับเทคนิคการเลี้ยงไหมให้แข็งแรงเติบโตและสามารถผลิตเส้นใยธรรมชาติให้กับเราได้อย่างมีคุณภาพ สิ่งแรกเลยก็คือเราต้องเลือกอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัยของพวกเขา ตอนที่ยังเป็นเด็กควรให้กินยอดใบไม้ที่มีความอ่อนนุ่มและขนาดเล็ก เมื่อเริ่มโตขึ้นมาก็สามารถปรับเปลี่ยนใบหม่อนให้มีความเหมาะสมกับร่างกายของพวกเขาได้ เวลาให้อาหารควรกระจายใบหม่อนให้สม่ำเสมอไปทั่วทั้งกระด้ง มีการขยายพื้นที่เลี้ยงอย่างเหมาะสม หลังจากที่พวกเขาเริ่มโตขึ้น เพราะจำนวนประชากรในกระด้งอาจแออัดกันเกินไป ดังนั้นเราจึงอาจจะต้องมีการย้ายพวกเขาบางส่วนไปอยู่ในกระด้งใหม่เพื่อไม่ให้แออัดจนเกินไป
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me