ด้วงกว่าง สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน

by animalkingdom
356 views
ด้วงกว่าง

แมลงเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเขตร้อนที่อุดมไปด้วยแมลงหลากหลายสายพันธุ์ และหนึ่งในสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักไม่แพ้ใครก็คือ ด้วงกว่าง ด้วยความที่พวกเขาเป็นแมลง ดังนั้นจึงมีบางคนที่รู้สึกกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว กับลักษณะภายนอกที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้วพวกเขาค่อนข้างใกล้ชิดกับมนุษย์ไม่น้อยเลยทีเดียว แถมชีวิตของพวกเขายังมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับด้วงกว่าง สิ่งมีชีวิตที่หลายคนเข้าใจผิด คิดว่าเอาไว้ชนอย่างเดียว 

ด้วงกว่าง

ด้วงกว่าง เป็นสิ่งมีชีวิตที่หลายคนเข้าใจผิดว่า พวกเขานั้นเป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงเอาไว้เพื่อชนกันเหมือนกับไก่ชน แต่ความจริงแล้วจะบอกว่าพวกเขานั้นเป็นวงศ์ใหญ่ โดยมีสายพันธุ์ที่เอาไว้ชนเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่อยู่ในวงศ์ก็ว่าได้เช่นเดียวกัน 

แม้ว่าลักษณะภายนอกพวกเขาจะดูค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่จริง ๆ แล้ว ในแต่ละละสายพันธุ์จะมีลักษณะที่แตกต่างกันและสามารถมองเห็นได้ชัดเจนหากสังเกตดูให้ดี พวกเขาจัดเป็นแมลงปีกแข็งที่ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 1,500 ชนิดและ 225 สกุล 

ความพิเศษของด้วงกว่างที่แตกต่างจากบรรดาแมลงปีกแข็งสายพันธุ์อื่น ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ การที่ตัวผู้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่และดูบึกบึนมากกว่าตัวเมียเป็นอย่างมาก ปีกของพวกเขานั้นได้รับการพัฒนาให้มีลักษณะเป็นเปลือกแข็งอยู่ 1 คู่ ซึ่งจะหุ้มบริเวณลำตัวด้านบนจนทำให้มีความคล้ายคลึงกับกำลังสวมชุดเกราะอยู่ 

ด้วงกว่าง

ส่วนใหญ่ด้วงกว่างมักจะมีลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้มหรือสีดำ ลำตัวจะมีความเงางามสะท้อนแสงจากเปลือกแข็งที่ปกคลุมอยู่ภายนอก มีอวัยวะบริเวณส่วนหัวที่งอกยาวออกมาคล้ายกับนอแรด 1 คู่อยู่บริเวณส่วนล่างของหัว ลักษณะสั้นยาวนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป 

บางสายพันธุ์สามารถพบเขาได้มากกว่า 5 เขาเลยทีเดียว ในขณะที่หากเป็นตัวเมียนั้นนอกจากจะมีขนาดตัวเล็กกว่าแล้วยังไม่มีเขาอีกด้วย พวกเขาจะมีลำตัวที่สั้นกว่าเป็นอย่างมาก มีผิวบนลำตัวที่ทั้งขรุขระและหยาบ 

ด้วงกว่างจะมีปีกที่ถือได้ว่าแข็งแรงเป็นอย่างมาก บางสายพันธุ์ยังสามารถมีขนอ่อนคล้ายกับกำมะหยี่ปกคลุมอยู่บริเวณใต้ท้องได้อีกด้วย ขาคู่หน้าจะมีช่องแนวขวางที่ทำให้สามารถบิดขยับได้ เขาของพวกเขาไม่ได้มีเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว 

แต่มันยังสามารถใช้ในการต่อสู้หรือป้องกันตัวจากนักล่าทั้งหลาย และยังใช้ในการแย่งตัวเมียสำหรับการผสมพันธุ์อีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีอาวุธที่อันตรายถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่ได้ต่อสู้กันเองแบบดุเดือดจนได้รับบาดเจ็บหรือล้มตายแต่อย่างใด

ด้วงกว่าง

วงจรชีวิตของด้วงกว่างนั้นจะเริ่มต้นจากการเป็นไข่ หลังจากนั้นก็จะฟักออกจากไข่เป็นตัวอ่อนที่มีรูปร่างเหมือนกับหนอน หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นดักแด้แล้วกลายเป็นตัวโตเต็มวัย ตอนที่ยังเป็นตัวอ่อนพวกเขาจะมาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีพื้นดินอุดมสมบูรณ์และมีธาตุอาหารครบถ้วน 

ตัวอ่อนนั้นจะมีสีขาวไปจนถึงสีเหลืองอ่อน ทำให้แตกต่างจากตัวอ่อนของแมลงสายพันธุ์อื่นไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่เข้าสู่ระยะดักแด้พวกเขาก็จะลงไปอยู่ในดินจนกว่าจะเติบโตเป็นตัวเต็มวัย ซึ่งใช้เวลายาวนานถึง 1 ปีเลยทีเดียว และบางสายพันธุ์ต้องใช้เวลายาวนานกว่า 2-3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยนั้นเป็นอย่างไร 

เห็นแบบนี้พวกเขานั้นเป็นสัตว์หากินกลางคืนที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์ไม่น้อยเลยทีเดียว มนุษย์นิยมนำเอาพวกเขามารับประทานเป็นอาหารหรือแม้แต่ใช้พวกเขาเป็นเครื่องประดับ หลายพื้นที่ในประเทศไทยนิยมเลี้ยงพวกเขาเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเนื่องจากบางสายพันธุ์ก็สามารถนำเอามาต่อสู้ได้ 

นอกจากนี้พวกเขายังเป็นศัตรูพืชอีกสายพันธุ์หนึ่งอีกด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขามีอาหารเป็นเปลือกไม้หรือยางไม้บนต้นไม้ใหญ่ รวมไปถึงพืชผลหรือผลไม้บางชนิดเช่นเดียวกัน 

ด้วงกว่างชน ทำความรู้จักกับแมลงที่มักจะวางขายอยู่หน้าโรงเรียนสมัยก่อน

ด้วงกว่าง

ด้วงกว่างชน จัดว่าเป็นหนึ่งในด้วงกว่างที่มีความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ลำตัวจะมีสีออกน้ำตาลอมแดงอ่อนไปจนถึงเข้ม ตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่และนิยมนำเอามาวางขายอยู่หน้าโรงเรียน ให้เด็กซื้อไปเลี้ยงหรือแม้แต่การเลี้ยงเพื่อเอาไปชน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นด้วงกว่างตัวผู้ด้วยกันทั้งสิ้น 

พวกเขามีชื่อเรียกเล่น ๆ ว่า กว่างโซ้ง ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ พวกเขาจะมีเขายื่นออกมาด้านหน้าและโค้งลงในลักษณะ 2 แฉกที่เหมือนกับคมเขี้ยว เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดตัวยาวสุดไม่เกิน 2 นิ้ว ส่วนตัวเมียจะมีขนาดที่เล็กกว่า 

วิธีการชนนั้นจะใช้ตัวผู้ 2 ตัว นำเอามาวางไว้บนกระบอกไม้ที่มีความยาวประมาณ 1 เมตรและมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร หลังจากนั้นจะนำเอาตัวเมียมาใส่ในรูแล้วปิดไว้ ให้เห็นแค่เพียงด้านหลังเท่านั้น เป็นการใช้กลิ่นล่อตัวผู้ให้ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตัวเมีย ตัวไหนสามารถใช้เขางัดคู่แข่งให้ลอยหงายท้องได้สำเร็จตัวนั้นก็จะเป็นฝ่ายชนะ 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment