บนโลกของเรานั้นมีนกอยู่หลากหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์ก็มีขนาดตัวเล็กน่ารัก บางสายพันธุ์ก็มีขนาดตัวที่ใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างเช่นนกฟลามิงโกที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ พวกเขาเป็นนกตัวใหญ่สีชมพูที่หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมาก เนื่องจากดูมีความสวยงามและสง่างามไปพร้อม ๆ กัน มีสีสันสดใสช่วยเพิ่มความน่ารักให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี ตามสวนสัตว์หรือสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติจึงมักจะนำเอาพวกเขามาจัดแสดงบริเวณด้านหน้าเพื่อดึงดูดความสนใจอยู่เสมอ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน นกฟลามิงโกจะมีลักษณะเป็นอย่างไร และจะน่าสนใจอย่างที่เราได้กล่าวไปหรือไม่ ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับนกฟลามิงโก นกที่ถือกำเนิดมาอย่างยาวนานร่วม 30 ล้านปี
นกฟลามิงโก จัดเป็นนกน้ำที่มีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนานร่วม 30 ล้านปีเลยทีเดียว เนื่องจากเคยมีการค้นพบซากฟอสซิลของพวกเขา ที่บ่งบอกได้ถึงต้นกำเนิดตั้งแต่ในยุคโบราณ บริเวณที่สามารถพบพวกเขาได้มากที่สุดจะอยู่ในประเทศเคนยา ทะเลสาบนากูรู อุทยานแห่งชาติทะเลสาบนากูรู โดยมีจำนวนประชากรนกฟลามิงโกมีอยู่มากสูงถึง 1.5 ล้านตัวเลยทีเดียว
ลักษณะภายนอกของพวกเขาอาจทำให้หลายคนคิดว่า นกที่มีตัวใหญ่ขนาดนี้ แถมขาก็ยังยาวเก้งก้าง มีคอยาวเหมือนกับหงส์ พวกเขาจะต้องเป็นนกบินไม่ได้เหมือนกับไก่หรือนกกระจอกเทศอย่างแน่นอน เนื่องจากส่วนใหญ่เรามักจะเห็นพวกเขายืนอยู่ในน้ำหรือบนพื้นดินมากกว่า
แต่มีความเป็นจริงแล้วพวกเขาสามารถบินได้ และยังบินเป็นระยะทางที่ไกลอีกด้วย พวกเขาสามารถบินได้ด้วยความเร็วถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่มักจะออกบินในช่วงกลางคืน ดังนั้นหากไม่ได้อยู่ตามธรรมชาติที่พวกเขาต้องบิน เราจึงแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นพวกเขากางปีกเลยด้วยซ้ำไป
ถึงอย่างนั้นก็มีโอกาสที่เราจะได้เห็นนกฟลามิงโกบินในช่วงกลางวันเช่นเดียวกัน แต่อาจจะได้เห็นตามแหล่งธรรมชาติ เนื่องจากพวกเขาจะบินก็ต่อเมื่อต้องการหลบเลี่ยงบรรดาสัตว์นักล่าทั้งหลายมากกว่า การที่พวกเขาตัวใหญ่แต่บินได้ มันช่วยให้พวกเขาสามารถรักษาเผ่าพันธุ์ของตนเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากพวกเขามีภัยคุกคามตามธรรมชาติน้อย ทำให้พวกเขาจึงเป็นสัตว์สวยงามที่ยังไม่เข้าขั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์แต่อย่างใด ส่วนในทวีปเอเชียของเรานั้นสามารถพบพวกเขาได้บริเวณทุ่งหญ้าสเตปป์ ทางตอนเหนือของประเทศคาซัคสถาน
พวกเขาจะผสมพันธุ์กันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก่อนพากันเดินทางอพยพไปอยู่ที่อื่นที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงดูลูกน้อย และสิ่งที่น่าสนใจก็คือพวกเขานั้นไม่มีประสาทการรับกลิ่นแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่รู้เลยว่าอะไรมีกลิ่นหอมหรือกลิ่นเหม็น
นอกจากนี้พวกเขายังมักจะร้องเสียงดังเหมือนห่านอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตัวลูกที่อยู่ในไข่ก็ตาม ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงสามารถจดจำกันและกันได้จากเสียงร้องนั่นเอง พวกเขามักจะยืนขาเดียวนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน สามารถยืนนิ่งแช่ในน้ำได้ถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว เป็นความอัศจรรย์ของร่างกายพวกเขา ที่ขาสามารถรับเลือดที่มีการสูบฉีดจากอัตราการเต้นของหัวใจ ได้มากเท่ากับที่กล้ามเนื้อหลักส่วนอื่นได้รับ
เนื่องจากเลือดเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นร่างกายให้กับพวกเขา การที่พวกเขามีขายาวก็ทำให้พื้นที่เสียความอบอุ่นมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงมีหัวใจที่แข็งแรง ทำให้สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงขาได้ไม่แพ้กับอวัยวะส่วนอื่น นอกจากนี้การยกขา 1 ข้าง ยังทำให้ขาอีกข้างของพวกเขาไม่เหี่ยวแห้งไปอีกด้วย
เปิดลักษณะภายนอกและการอยู่อาศัยของนกฟลามิงโก
นกฟลามิงโก เป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่ที่เมื่อโตเต็มวัยแล้วจะมีส่วนสูงได้ถึง 145 เซนติเมตร และมีน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัมเลยทีเดียว พวกเขามีขาที่ยาวแต่เรียวบาง มีลำคอยาวระหงเหมือนกับหงส์ จะงอยปากงุ้มเข้าด้านในแต่มีความแข็งแรง มีรูที่เรียงกันอยู่ด้านบนจะงอยปาก ลิ้นจะมีตุ่มขนาดเล็กคล้ายฟันเรียงกันอยู่ มีขนตั้งแต่สีขาว สีเทา สีดำ สีชมพู และสีแดง ปีกค่อนข้างสั้น เท้าขนาดเล็ก
นกฟลามิงโก มักจะอาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบน้ำตื้นหรือปากแม่น้ำ ที่เป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำและทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของพวกเขา เวลากินอาหารพวกเขาจะทำการจุ่มปากลงไปภายในน้ำ จากนั้นก็พ่นน้ำหรือโคลนออกบริเวณรูที่อยู่บนจะงอยปากของพวกเขา
เป็นการกรองที่ทำให้เหลือเพียงกากซึ่งจะประกอบไปด้วยไรน้ำ สาหร่าย และแพลงก์ตอน รวมไปถึงสารอาหารที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ จากนั้นค่อยกลืนลงไปกินเป็นอาหาร หลังจากอายุ 6 ปีพวกเขาก็จะเริ่มผสมพันธุ์และออกไข่ตามชายฝั่ง ทำรังด้วยดินเหนียวลักษณะออกมาคล้ายกับตอไม้
พวกเขาออกไข่ครั้งละ 1 ใบเท่านั้น ตัวผู้และตัวเมียก็จะช่วยกันกกไข่ประมาณ 30 วัน จึงจะฟักออกมาเป็นลูกนก จากนั้นก็ช่วยกันเลี้ยงดูจนกว่าจะสิ้นอายุขัยโดยเฉลี่ยประมาณ 30 ปี พวกเขามักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีพฤติกรรมผัวเดียวเมียเดียวเช่นเดียวกัน
เมื่อผสมพันธุ์กับตัวไหนพวกเขาก็จะครองรักกันไปจนกว่าจะตายจากกัน หากคู่ของพวกเขาตายไปพวกเขาก็จะไม่หาคู่ใหม่แต่อย่างใด ดังนั้นพวกเขาจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการรักเดียวใจเดียว นั่นเอง
รู้หรือไม่ นกฟลามิงโกไม่ได้มีขนสีชมพูมาตั้งแต่เกิด
นกฟลามิงโก เป็นที่รู้จักกันในฐานะของนกสีชมพู สีสันของพวกเขาดูน่ารักและสวยงามโดดเด่นเป็นอย่างมาก แต่ทราบหรือไม่ว่าความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้มีขนสีชมพูมาตั้งแต่เกิดแต่อย่างใด ลูกนกแรกเกิดนั้นจะมีขนเป็นสีเทาที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อโตขึ้นขนของพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปกลายเป็นสีชมพูแทน
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีสีขนเป็นสีชมพูเกิดมาจาก พฤติกรรมการกินของพวกเขานั่นเอง สีของพวกเขาได้รับจากสารอาหารที่กินเข้าไปนั่นก็คือ แคโรทีน ที่ได้รับจากทั้งไซยาโนแบคทีเรีย สาหร่าย กุ้ง และตัวอ่อนแมลง ที่ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารโปรดของพวกเขา
ความจริงแล้วแคโรทีนนั้นจัดเป็นอาหารที่มีพิษต่อสัตว์หลายสายพันธุ์ เพียงแต่นกฟลามิงโกมีเมตาบอลิซึมพิเศษที่สามารถแยกสารพิษออกมาจากตับได้ จากนั้นก็ทำการแยกส่วนประกอบเม็ดสีจนทำให้ขนกลายเป็นสีชมพูและสารเหล่านี้ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายของพวกเขา
เม็ดสีเหล่านี้สามารถส่งต่อไปถึงเปลือกไข่ได้เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้นกฟลามิงโกแต่ละตัวจึงมีขนเป็นสีชมพูไม่เท่ากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะว่าพฤติกรรมการกินของนกแต่ละตัวไม่เหมือนกัน สถานที่อยู่อาศัยและแหล่งหาอาหารก็แตกต่างกันออกไปด้วย สารอาหารที่ได้รับไม่เท่ากันจึงทำให้สีขนของพวกเขาแตกต่างกันออกไปในแต่ละตัว นั่นเอง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me