ชิมแปนซี สัตว์ที่ขึ้นชื่อว่ามีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด พวกเขามีความฉลาดหลักแหลม และถึงแม้ว่าจะมี 4 ขาเช่นเดียวกับสัตว์อื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเดินด้วยขาหลัง 2 ข้าง และใช้ขาหน้าของตนเองทำสิ่งต่าง ๆ เหมือนกับมือของมนุษย์ หากลงลึกไปถึงระดับยีนส์ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่พวกเขาใกล้เคียงกับเราเป็นอย่างมาก และในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ ชิมแปนซี สิ่งมีชีวิตที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์เราเป็นอย่างมาก พวกเขาจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร และจะน่าสนใจขนาดไหน ไปติดตามกันได้เลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับชิมแปนซี สัตว์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับมนุษย์
ชิมแปนซี จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พวกเขาเป็นลิงไม่มีหางที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูใกล้ชิดกับมนุษย์ แถมเรายังสามารถพบเจอพวกเขาได้ตามสวนสัตว์มากมายทั่วทุกมุมโลก และในบางแห่งยังมีการนำเอาพวกเขามาฝึกเพื่อจัดแสดง
แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขาถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสถานการณ์อนุรักษ์ ถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์เลยทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่าในธรรมชาติจำนวนประชากรพวกเขาเหลือลดน้อยลงทุกที ในป่าดิบของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเหลือพวกเขาอยู่เพียงแค่ 3,000 ตัวเท่านั้น ชิมแปนซีจึงจัดว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย
ลักษณะภายนอก
ชิมแปนซีมีลักษณะใกล้เคียงกับสัตว์เลือดอุ่นทั่วไป พวกเขาเป็นสัตว์ 4 เท้า แต่ใช้เท้าในการเดินจริง ๆ เพียงแค่ 2 ข้างเท่านั้น นั่นก็คือขาหลัง 2 ข้าง ขาหน้าของพวกเขาที่มีความยาวไม่ต่างจากขาหลัง ถูกใช้ประโยชน์อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้แทนแขนหรือมือในการหยิบจับสิ่งของ การใช้แทนขาเวลาวิ่งเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
มีหัวกะโหลกทรงกลมที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ เพียงแต่บริเวณส่วนปากและฟันจะยื่นยาวออกมาจากจมูกเล็กน้อย มีเบ้าตาลึก มีหู 2 ข้างที่อยู่บริเวณข้างศีรษะขนาดกว้างกว่ามนุษย์ ไม่มีสันจมูก มีขนปกคลุมทั่วทั้งลำตัว ยกเว้นบริเวณใบหน้า ใบหู มือ และเท้า ผิวหนังส่วนที่ไม่มีขนปกคลุมจะเป็นสีเนื้อ ตอนที่พวกเขาเกิดผิวหนังของพวกเขาจะเป็นสีชมพู
ขนาดลำตัวของตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 5 ฟุตและน้ำหนัก 65 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะสูงประมาณ 4 ฟุตและน้ำหนักน้อยลงมา พวกเขาทำรังบนพื้นด้วยการนำเอากิ่งไม้โน้มลงมาขดเพื่อทำเป็นที่นอน เมื่อมีอายุได้ 7 ถึง 9 ปี ก็จะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะเป็นสัดทุก ๆ ประมาณ 35 วัน
โดยจะผสมพันธุ์กันยาวนานถึง 3 วันเลยทีเดียว ไม่มีฤดูกาลที่ผสมพันธุ์กันอย่างแน่นอนแต่อย่างใด ใช้เวลาในการตั้งท้องประมาณ 230 วัน หลังจากคลอดลูกออกมาแล้ว แม่ก็จะดูแลลูกนานประมาณ 1-2 ปี แต่บางตัวที่ติดแม่ ก็อาจจะอยู่กับครอบครัวยาวนานถึง 7 ปีเลยทีเดียว อายุขัยเฉลี่ยตามธรรมชาติของพวกเขานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 40 ปี
พฤติกรรมและการกระจายพันธุ์
ลิงชิมแปนซีมีการกระจายพันธุ์อยู่ในทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะทางแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง มักอยู่อาศัยรวมกันเป็นครอบครัวและมีความสัมพันธ์ในลักษณะเครือญาติเหมือนกับมนุษย์ จ่าฝูงจะมีเพียงตัวเดียวและเป็นตัวผู้
ส่วนใหญ่มักหากินอยู่บนพื้นดินมากกว่าห้อยโหนอยู่บนต้นไม้เหมือนกับลิงชนิดอื่น เนื่องจากพวกเขามีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ หากินในตอนกลางวัน อาหารจะเป็นพวกใบไม้ ผลไม้ และสัตว์ขนาดเล็กอย่างเช่น แมลง จากนั้นก็พักผ่อนในช่วงเวลากลางคืน
พวกเขามีเสียงร้องที่หลากหลาย ใช้เป็นภาษาในการสื่อสารระหว่างกันให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม เคยมีการค้นพบว่าพวกเขาส่งเสียงร้องได้กว่า 32 แบบกันเลยทีเดียว
พฤติกรรมของพวกเขาค่อนข้างแตกต่างจากพฤติกรรมสัตว์สายพันธุ์อื่น เนื่องจากพวกเขาได้รับการวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน ทำให้สามารถประดิษฐ์เครื่องมือเหมือนกับมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้อีกด้วย
พวกเขามีความทรงจำที่ยอดเยี่ยม มีอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อน แถมยังจัดว่าเฉลียวฉลาดมากกว่าลิงไม่มีหางกลุ่มเดียวกันอย่าง กอลิล่าหรืออุรังอุตัง มีงานวิจัยจากสถาบันในมหาวิทยาลัยเกียวโตพบว่า ลูกลิงชิมแปนซีมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมมากกว่ามนุษย์ที่โตเต็มวัยกันเลยทีเดียว
ตัวผู้เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และอยู่ในธรรมชาติจะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง มีการยกพวกตีกันหรือถึงขั้นฆ่ากันให้กันตายไปข้าง เคยมีกรณีที่พวกเขาทำร้ายมนุษย์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตมาแล้ว ด้วยเหตุนี้พวกเขาตามธรรมชาติจึงจัดเป็นสัตว์ที่อันตราย ไม่ควรเข้าใกล้แต่อย่างใด
เปิดพฤติกรรมของชิมแปนซีที่เปลี่ยนแปลงไปจากมนุษย์
ลิงชิมแปนซี เป็นสัตว์ที่มีความฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องของพันธุกรรมที่เป็นตัวกำหนดอยู่แล้ว ทำให้พวกเขามีความสามารถในการประดิดประดอยที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ยุคโบราณเป็นอย่างมาก แต่ปัญหาก็คือพวกเขากำลังถูกมนุษย์อย่างเราคุกคามจนทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปจากเดิม มีการค้นพบว่าลิงชิมแปนซีทั่วทั้งแอฟริกาได้รับผลกระทบจากมนุษย์และมีการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป มีหลายพฤติกรรมที่กำลังจะหายไปจากฝีมือของมนุษย์อย่างเรา ไม่ว่าจะเป็น
- การหาปลวก เป็นหนึ่งในพฤติกรรมการหาอาหารของชิมแปนซีที่มีการค้นพบว่า พวกเขามักจะสอนลูกให้หาปลวกด้วยการใช้กิ่งไม้ ซึ่งการสอนกันนั้นไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยในกลุ่มของสัตว์สักเท่าไหร่ พวกเขาจะสร้างเครื่องมือขึ้นมาให้มีปลายด้ามคล้ายกับแปลง ใช้แหย่เข้าไปในจอมปลวกเพื่อหาอาหาร ให้ลูกของพวกเขาสามารถหาอาหารเองได้และพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตตามลำพังในป่าใหญ่
- การหาน้ำดื่มในต้นไม้ มีการค้นพบว่าพวกเขาสามารถทำกิ่งไม้พิเศษที่ทำให้พวกเขาสามารถหาน้ำดื่มได้จากรูของต้นไม้ในช่วงหน้าแล้ง พวกเขาจะนำเอากิ่งไม้มาแหย่เข้าไปในรูของต้นไม้เพื่อหาน้ำดื่ม จัดว่าเป็นพฤติกรรมการปรับตัวที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยให้พวกเขามีโอกาสในการรอดชีวิตภายใต้สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายได้มากขึ้นกว่าเดิม
- การตกสาหร่าย มีการค้นพบว่าพวกเขาใช้เครื่องมือเป็นกิ่งไม้ทำออกมาในลักษณะคล้ายกับกระชอนเพื่อหาสาหร่ายกินในแม่น้ำ เป็นพฤติกรรมที่ค้นพบได้ทั้งในประเทศกินีและประเทศคองโก แต่ปัจจุบันพฤติกรรมดังกล่าวได้เลือนหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สาเหตุที่ทำให้พวกเขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจนสูญเสียความหลากหลายด้านวัฒนธรรมก็คือ ประชากรชิมแปนซีที่น้อยลง ทำให้ความสามารถในการเก็บเกี่ยวความรู้ของพวกเขาน้อยตามลงไป พื้นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติกระจัดกระจาย จนทำให้พวกเขาในแต่ละกลุ่มไม่สามารถส่งต่อข้อมูลให้กันได้
บางตัวต้องการจะเลิกพฤติกรรมที่มนุษย์ชอบสังเกตเห็นเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจ ทรัพยากรธรรมชาติหาได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ส่งผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me