นับตั้งแต่ที่มีอินเตอร์เน็ต มันก็เป็นการเปิดโลกให้เราได้รู้จักกับสัตว์มากมายหลากหลายชนิด มีอยู่หลายสายพันธุ์ที่โด่งดังขึ้นมาบนโลกอินเตอร์เน็ต อย่างเช่นแมวตีนดำที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ พวกเขานั้นเป็นแมวขนาดเล็กที่ทั้งน่ารักน่าชังและดูไม่มีพิษภัย แต่ความจริงแล้วพวกเขาเป็นนักล่าสุดอันตรายแห่งท้องทะเลทรายที่จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด ใครที่ชื่นชอบเจ้าแมวขนฟูตัวนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขา
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักแมวตีนดำ นักล่าขนฟูสุดอันตรายในทะเลทราย
แมวตีนดำ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับแมวทั่วไป หากเทียบกับแมวบ้านแล้วพวกเขาถือว่ามีขนาดตัวที่เล็กกว่าด้วยซ้ำ ตัวเมียมีน้ำหนักไม่เกิน 1.6 กิโลกรัม ส่วนตัวผู้ก็มีน้ำหนักเพียงแค่ 2.1 กิโลกรัมเท่านั้น
ความยาวลำตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50 เซนติเมตร หากวัดความสูงจากหัวไหล่ไปจนถึงเท้าจะอยู่ที่ 25 เซนติเมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับขนาดของแมวป่าโดยทั่วไปแล้ว แมวตีนดำก็จัดว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
ลักษณะขนของแมวตีนดำจะมีทั้งความหนาและนุ่ม มีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดง ทั่วลำตัวจะมีลายแต้มวงกลมสีเข้มตลอดทั้งลำตัว บางจุดตามลำตัวลวดลายของพวกเขาอาจเชื่อมต่อกันเป็นเส้นได้ พวกเขามีหัวที่ทั้งโตและกลมเป็นอย่างมาก มีทั้งดวงตาสีน้ำตาลอมเทาไปจนถึงสีเหลืองอำพัน
ขนบริเวณด้านล่างของลำตัวจะเป็นสีขาว บริเวณข้างแก้มจะมีขนที่สีเข้ม 2 เส้น หูมีขนาดใหญ่แต่กลมมน อุ้งเท้าเป็นสีดำซึ่งเป็นที่มาของชื่อ การที่อุ้งเท้าของพวกเขาเป็นสีดำเกิดมาจากการวิวัฒนาการเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่กึ่งทะเลทรายที่เต็มไปด้วยความร้อนระอุได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแมวตีนดำนั่นเอง
แมวตีนดำมีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ย่อย ประกอบไปด้วย F.n.nigripes ที่จะมีสีขนค่อนข้างซีด มักอาศัยอยู่ทางเหนือของทวีปแอฟริกา อย่างเช่นในประเทศแองโกลา บอตสวานา และนามิเบีย และ F.n.thomasi ที่ขนจะมีสีเข้มกว่าอย่างเห็นได้ชัด พบได้ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้และทางตะวันออกของเมืองเคปทาวน์
ถิ่นที่อยู่
แมวตีนดำเป็นสัตว์ที่สามารถพบได้ใน 4 ประเทศเท่านั้น ประกอบไปด้วย บอตสวานา นามิเบียร์ ตอนใต้ของแองโกลา และแอฟริกาใต้ พื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขาจะเป็นป่าละเมาะในทะเลทราย ทุ่งหญ้าสเตปปส์ ที่ราบกึ่งทะเลทราย รวมไปถึงทะเลทรายทั่วไปอย่างในทะเลทรายคารูหรือคาราฮารี บริเวณพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขาจะเป็นบริเวณที่มีหนูและนกอยู่ชุกชุม เนื่องจากแมวตีนดำเป็นสัตว์นักล่าที่เหยื่อส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ปีกหรือสัตว์ขนาดเล็ก
ลักษณะนิสัยและการอยู่อาศัย
แมวตีนดำเป็นสัตว์กินเนื้อที่มาพร้อมกับความเก่งกาจและความดุร้ายอย่างน่าเหลือเชื่อ ขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกสุดน่ารักของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง พวกเขาสามารถจู่โจมแกะที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าพวกเขาถึง 4 เท่าได้ โดยใช้วิธีการฝังคมเขี้ยวบนคอของเหยื่อ แล้วห้อยตัวลงมาจนเขี้ยวเจาะเข้าไปแทงทะลุเส้นเลือด
แต่โดยปกติแล้วเหยื่อส่วนใหญ่ของพวกเขาจะเป็นสัตว์ขนาดเล็กหรือสัตว์ปีกมากกว่า อย่างเช่น หนู นก กระต่าย แมลง รวมไปถึงสัตว์เลื้อยคลาน ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังสามารถกินซากสัตว์ได้อีกด้วย
พวกเขามักอาศัยอยู่อย่างสันโดษ ออกหากินในช่วงกลางคืน ส่วนในตอนกลางวันที่มีอุณหภูมิสูง แมวตีนดำจะเข้าไปหลบอยู่ตามโพรงปลวกเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกาย นอกจากนี้พวกเขายังมีความสามารถในการอดน้ำที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ขอเพียงแค่ได้น้ำจากเหยื่อก็เพียงพอ
ไม่เพียงเท่านั้น ระยะทางในการออกหากินของพวกเขายังถือว่าไกลมาก บางครั้งพวกเขาอาจต้องเดินไปไกลกว่า 8 กิโลเมตรเพื่อหาเหยื่อกันเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจะเหนื่อย เพราะพวกเขานอนเก่งเป็นอย่างมาก ใช้เวลาไปกับการนอนถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นพวกเขาจึงออกล่าวันเว้นวันเท่านั้น
ลักษณะทางชีววิทยา
เมื่อโตเต็มวัย แมวตีนดำตัวเมียจะติดสัดนานถึง 36 ชั่วโมง แต่ระยะเวลาที่สามารถผสมพันธุ์ได้จริง ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 5-10 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร แหล่งอาหารมีน้อย การที่แมว 2 ตัวต้องมาใช้ชีวิตในพื้นที่เดียวกันเป็นเวลานาน จึงไม่ใช่ไอเดียที่ดีสักเท่าไหร่
หลังจากผสมพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเมียจะใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 65 วัน หลังจากนั้นก็จะคลอดลูกแมวออกมา 1 ครอก ซึ่งจะมีลูกแมวตั้งแต่ 1-3 ตัว ในระหว่างการเลี้ยงลูก แม่แมวจะเปลี่ยนรังอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้นักล่าเข้าถึงลูกของพวกเขาได้ ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วัน ลูกแมวแรกเกิดก็สามารถออกหากินเองได้ และเมื่ออายุครบ 3 เดือน พวกเขาก็จะออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง
แมวตีนดำ สัตว์สุดน่ารักที่ถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์
แมวตีนดำเป็นสัตว์ที่น่ารักเป็นอย่างมาก หลายคนที่ได้เห็นพวกเขาก็คงนึกสงสัยว่า พวกเขาจะเอาชีวิตรอดในธรรมชาติได้อย่างไร ความจริงแล้วพวกเขาเป็นสัตว์ป่าที่มีความสามารถ มีการล่าที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นสิ่งที่ทำให้พวกเขากลายเป็นสัตว์หายากไม่ใช่ความอันตรายในธรรมชาติ แต่เป็นมนุษย์อย่างเราเองต่างหาก
พวกเขาถูกกิจกรรมของมนุษย์หลายด้านคุกคามอย่างหนัก ถึงแม้ว่าแมวตีนดำจะไม่ถูกล่าก็จริง แต่การรุกล้ำพื้นที่ป่าและการทำปศุสัตว์ ทำให้อาณาเขตหากินของพวกเขามีจำนวนที่ลดลงกว่าเดิม เมื่อพื้นที่หากินน้อยลงก็ทำให้เหยื่อน้อยลงไปด้วย
นอกจากนี้ในบางพื้นที่ยังมีการวางยาเบื่อเพื่อกำจัดสัตว์ขนาดเล็ก ยังไม่รวมไปถึงการใช้ยากำจัดแมลงศัตรูพืช ที่เป็นภัยต่อพวกเขาเช่นเดียวกัน และยังมีอีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ต้องจากโลกใบนี้ไป เนื่องจากโดนหมาที่ผู้คนเลี้ยงไว้สำหรับไล่หมาจิ้งจอกกัดตาย
ดังนั้นแมวตีนดำจึงจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่มีจำนวนลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย แม้ว่าในบางพื้นที่จะมีการพบได้บ่อย แต่ก็มีการประเมินสถานภาพพวกเขาว่าอยู่ในระดับเสี่ยงสูญพันธุ์ โดยถูกจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 1 ของไซเตส
ในทวีปแอฟริกาใต้และบอตสวานาได้มีกฎหมายคุ้มครองพวกเขาด้วยการห้ามล่าโดยเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองพวกเขา
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me