ฉลามวาฬ สิ่งที่หลายคนสงสัยว่าเป็นฉลามหรือเป็นวาฬกันแน่ 

บนโลกใบนี้เต็มไปด้วยสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำมากมาย ด้วยความที่มนุษย์นั้นไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ใต้น้ำได้ มันจึงเต็มไปด้วยเรื่องมหัศจรรย์ไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างเช่นสัตว์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง “ฉลามวาฬ” พวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่มหึมาและอาศัยอยู่ในโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าค้นหา แต่ด้วยชื่อของพวกเขาทำให้หลายคนยังคงสับสนไม่น้อยเลยทีเดียวว่า สุดท้ายแล้วพวกเขาเป็นอะไรกันแน่ วันนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกัน ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับฉลามวาฬ สัตว์ที่มีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ 

พูดถึงฉลามวาฬสิ่งแรกที่หลายคนสงสัยก็คงจะหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า สรุปแล้วพวกเขาคืออะไรกันแน่ระหว่างวาฬและฉลาม ซึ่งคำตอบก็คือ พวกเขาเป็นฉลามนั่นเอง โดยถูกจัดให้เป็น 1 ในจำนวนทั้งหมดกว่า 440 ชนิดของฉลามที่สามารถพบได้ทั่วทั้งโลก ส่วนสาเหตุที่มีการตั้งชื่อดังกล่าวนั้นก็เป็นเพราะว่า พวกเขามีขนาดตัวที่ใหญ่มหึมาสุด ๆ นั่นเอง หากเปรียบเทียบกับบรรดาสัตว์ที่เป็นปลาด้วยกันแล้ว พวกเขานั้นมีขนาดใหญ่มากที่สุด ไม่ใช่วาฬสีน้ำเงินเพราะวาฬนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่พวกเขานั้นถูกจัดให้เป็นปลาขนาดใหญ่ที่มีขนาดโตเต็มวัยได้มากสุดถึง 15 เมตร และมีน้ำหนักได้ถึง 20 ตัน เลยทีเดียว มีขนาดหัวที่ใหญ่โตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากเทียบกับขนาดลำตัวของพวกเขาแล้ว สัตว์น้ำชนิดนี้เมื่ออ้าปากแล้วจะมีความกว้างใกล้เคียงกับความกว้างของหัวพวกเขาเลยทีเดียว ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถกลืนมนุษย์ตัวเล็ก ๆ เข้าไปได้อย่างง่ายดายในคำเดียวเท่านั้น 

สัตว์ใหญ่ชนิดนี้ใช้เหงือกเป็นอวัยวะในการหายใจ โดยมีช่องเหงือกทั้งหมด 5 ช่องและมีครีบอก 2 อัน ครีบหางอีก 2 อัน ครีบก้นอีก 1 อัน หางของพวกเขานั้นจะอยู่ในลักษณะตั้งฉากและโบกซ้ายขวาไปมา สีตัวจะเป็นสีน้ำเงินเข้มและมีจุดสีขาวทั่วลำตัว บางพื้นที่ก็พบว่าพวกเขามีสีออกน้ำตาลเขียวและน้ำตาลแดงได้เช่นเดียวกัน ส่วนท้องจะเป็นสีขาวไปจนถึงสีเหลืองอ่อน ที่สำคัญคือจุดบนลำตัวของพวกเขานั้นสามารถใช้แยกแยะพวกเขาแต่ละตัวออกจากกันได้อีกด้วย เนื่องจากแต่ละตัวก็จะมีลายจุดที่แตกต่างกันออกไป 

ผิวหนังของสัตว์หายากชนิดนี้ มีความเหนียวและความสากเป็นอย่างมากหากเทียบกับสัตว์เลือดเย็นชนิดอื่น นั่นก็เป็นเพราะว่าผิวชั้นนอกของพวกเขานั้น ถูกปกคลุมและทับซ้อนกันด้วยเกล็ดแข็งที่มีลักษณะคล้ายกับสารเคลือบฟันในมนุษย์ พวกเขาจึงเหมือนกับสวมชุดเกราะอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้พวกเขานั้นปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อต้องอาศัยอยู่ใต้น้ำที่เต็มไปด้วยอันตราย อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับพวกเขาในการอยู่ใต้น้ำก็คือตั้งแต่ 18 องศาไปจนถึง 30 องศาเซลเซียส ดังนั้นภาวะโลกร้อนจากพฤติกรรมของมนุษย์จึงส่งผลกระทบต่อพวกเขาไม่น้อยเช่นเดียวกัน เพราะอุณหภูมิในร่างกายของพวกเขานั้นจะใกล้เคียงกับอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่นั่นเอง 

ถึงแม้ว่าจะมีปากขนาดใหญ่แต่อาหารของพวกเขานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแพลงก์ตอนหรือสัตว์ขนาดเล็ก พวกเขาจะใช้วิธีการกินด้วยการดูดน้ำเข้าไปในปากแล้วใช้ช่องกรองอาหารแล้วปล่อยน้ำออกมา ว่ากันว่าพวกเขานั้นสามารถกรองน้ำทะเลได้มากกว่า 5,000 ลิตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว พวกเขาสามารถพบได้ทั่วไปในบริเวณทะเลเขตร้อนรวมไปถึงเขตอบอุ่น มักอาศัยอยู่ตามแนวปะการังที่มีความลึกไม่เกิน 700 เมตร ในประเทศไทยของเราเองก็มีรายงานว่า เคยพบพวกเขาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในฝั่งอันดามันหรืออ่าวไทยก็ตาม พวกเขามีขนาดตัวที่ค่อนข้างใหญ่ดังนั้นจึงว่ายน้ำได้ค่อนข้างช้า 

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เป็นนักเดินทางที่ในช่วงชีวิตหนึ่งมีการเดินทางมากกว่า 1 ล้านกิโลเมตรกันเลยทีเดียวหรือเทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลกกว่า 25 รอบ และถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวใหญ่พวกเขาก็เป็นสัตว์ที่มีความใจดีและผูกพันกับมนุษย์มาโดยตลอด นักดำน้ำหลายคนเคยเล่นกับพวกเขามาแล้วก็มี เพราะพวกเขาไม่ได้ทำอันตรายกับพวกเราแต่อย่างใด นอกจากนี้พวกเขายังมีอายุขัยเฉลี่ยกว่า 100 ปีเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น เพราะมีภัยคุกคามอยู่มากมายโดยเฉพาะภัยจากมนุษย์เราเอง 

ฉลามวาฬอาจหายไปจากโลกหากเราไม่ดูแลสิ่งแวดล้อม 

ฉลามวาฬจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตามสถานภาพที่ได้รับการประเมินจาก IUNC ในประเทศไทยนั้นพวกเขาอยู่ในสถานภาพการอนุรักษ์ เป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าในปี 2562 โดยภัยคุกคามที่ทำให้พวกเขานั้นมีสถานภาพเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เกิดจากการทำประมง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่เป้าหมายในการทำประมง แต่พวกเขาก็มักจะติดอยู่ในเครื่องมือการทำประมงอยู่บ่อยครั้ง การนิยมดำน้ำดูพวกเขานั้นก็เสี่ยงที่จะทำให้เรือไปเข้าใกล้พวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาถูกเรือชนอยู่เป็นประจำอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีปัญหาไมโครพลาสติกที่ปะปนมากับเหล่าแพลงก์ตอนด้วย นักวิทยาศาสตร์มีความเชื่อว่าสารพิษที่สะสมอยู่ในไมโครพลาสติกนั้น จะส่งผลกระทบต่อพวกเขาและส่งผลกระทบต่อชีววิทยาการสืบพันธุ์ของพวกเขาเช่นเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีปัญหาเรื่องโลกร้อนที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นอีกต่างหาก หากเราต้องการให้พวกเขาอยู่บนโลกใบนี้ตราบนานเท่านาน เราก็ต้องหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมกันให้มากขึ้นกว่าเดิม