หมีน้ำ สิ่งมีชีวิตตัวเล็กใต้ท้องทะเลที่รูปร่างไม่ได้เหมือนกับหมีตามชื่อของมัน 

by animalkingdom
311 views
หมีน้ำ

หากลองพิจารณาให้ดีเราจะพบว่า มนุษย์นั้นอาจเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารก็จริง แต่เรานั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางเสียเหลือเกิน เทียบอะไรไม่ได้กับ “หมีน้ำ” สัตว์ตัวจิ๋วที่ฟังชื่อแล้วหลายคนอาจจะนึกถึงหมีที่อาศัยอยู่ในน้ำ แต่ความจริงแล้วพวกเขานั้นไม่ได้มีลักษณะใกล้เคียงกับหมีเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงเท่านั้นสิ่งที่ทำให้พวกเขากลายเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจกลับเป็นความแข็งแรงทนทาน ที่ไม่สมกับขนาดตัวของพวกเขาเสียอย่างนั้น พวกเขาเต็มไปด้วยปริศนาและความน่าสงสัยมากมาย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักหมีน้ำ สิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแรงทนทานมากที่สุดในโลก 

หมีน้ำ

หมีน้ำ หรือ ตัวทาร์ดิเกรด เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อว่ามีความแข็งแกร่งและทนทานมากที่สุดในโลก ประกอบกับชื่อของพวกเขาทำให้หลายคนไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก และมองว่าพวกเขาจะต้องมีร่างกายที่ใหญ่โตและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วประดุจสายลมอย่างแน่นอน 

แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขาเป็นสัตว์น้ำที่มีขนาดตัวไม่เกิน 1 มิลลิเมตร การเคลื่อนไหวก็เชื่องช้าเสียเหลือเกิน การที่เราจะสามารถมองเห็นสัตว์ทะเลสายพันธุ์นี้ได้ก็มีเพียงแค่วิธีเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ การส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์นั่นเอง 

เห็นแบบนี้พวกเขามีอยู่มากกว่า 1,000 ชนิดเลยทีเดียว กระจัดกระจายอาศัยอยู่ในมหาสมุทรทั่วทั้งโลก และที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือ เราสามารถพบหมีน้ำได้บนยอดเขาหิมาลัยรวมไปถึงในแหล่งน้ำพุร้อนอีกต่างหาก ทุกคนเชื่อหรือไม่ว่า “หมีน้ำ” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่มาอย่างยาวนานตั้งแต่ประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว จะบอกว่าพวกเขาเป็นสัตว์โบราณที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงในยุคปัจจุบันก็ว่าได้ 

ลักษณะภายนอกของพวกเขานั้นหากมีขนาดตัวที่ใหญ่คงน่าสยดสยองไม่น้อยเลยทีเดียว พวกเขามีลำตัวทรงกระบอกที่มีขายื่นออกมา 6 ข้าง ใบหน้าไม่มีดวงตาหรือจมูกแต่มีปากเป็นทรงกลมเหมือนกับเครื่องดูดฝุ่น ทำให้พวกเขาสามารถกินอาหารได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย เศษตะกอนในน้ำ หรือแม้แต่พืชตระกูลมอสก็ตาม 

ด้วยความที่ลักษณะของพวกเขานั้นดูเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว มากกว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกมนุษย์ของเรา นักวิทยาศาสตร์จึงพยายามพากันถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อตอบคำถามว่า สรุปแล้วพวกเขานั้นเป็นญาติใกล้ชิดกับสัตว์สายพันธุ์ใดกันแน่ระหว่างหนอน แมลง หรือแมง และล่าสุดเราก็ได้คำตอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า พวกเขานั้นมีพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกับหนอนตัวกลมมากที่สุด 

หมีน้ำ

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุดนั้น ไม่ใช่หน้าตาที่แปลกประหลาดหรือขนาดตัวที่เล็กจิ๋วแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งในโลก 

มีการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับพวกเขามากมายและพบว่า หมีน้ำนั้นสามารถใช้ชีวิตได้ภายใต้สภาวะขาดน้ำหรือในสภาพแห้งแล้ง เพราะร่างกายของเขาจะมียีนอยู่ตัวหนึ่งที่สามารถสร้างโปรตีนพิเศษให้เข้าไปแทนที่น้ำภายในเซลล์ได้ 

มันเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เซลล์ของพวกเขาไม่เสียหายถึงแม้ว่าจะไม่ได้กินน้ำมาอย่างยาวนานก็ตาม เมื่อดื่มน้ำเข้าไปใหม่ มันก็จะเข้าไปละลายโปรตีนดังกล่าวและทำให้ร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง 

บางสายพันธุ์สามารถสั่งให้ร่างกายผลิตน้ำตาลที่มีลักษณะคล้ายกับแก้ว เข้าไปเคลือบเพื่อคงสภาพส่วนสำคัญในเซลล์ป้องกันไม่ให้เสียหายจากการไม่ได้รับน้ำ ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังสามารถซ่อมแซม DNA หลังจากความร้อนและแสงอาทิตย์ก่อให้เกิดความเสียหายระหว่างที่จำศีลได้อีกด้วย 

หมีน้ำ

การขาดน้ำดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อุปสรรคเดียวในการใช้ชีวิตของหมีน้ำแต่อย่างใด และดูเหมือนว่าพระเจ้าจะชื่นชอบพวกเขาเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้จึงมอบพลังที่ช่วยให้พวกเขาแข็งแรงมากกว่าใครเพื่อนมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่อแรงดันระดับมหาศาล อุณหภูมิที่ติดลบมากกว่า 100 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่แตะจุดสูงสุดของจุดเดือด

เคยมีการนำเอาพวกเขาขึ้นไปบนอวกาศโดยที่ไม่มีการป้องกัน ให้พวกเขาอยู่บนสภาพไร้น้ำหนักที่ไม่มีอากาศแถมยังได้รับรังสีโดยตรง แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้หลังจากกลับเดินทางมาถึงโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมพวกเขายังสามารถออกลูกออกหลานในช่วงเวลานั้นได้อีกต่างหาก 

รวมความเป็นไปได้ที่จะสามารถฆ่าหมีน้ำให้ตาย แต่โอกาสเกิดขึ้นแทบไม่มี

หมีน้ำ

หมีน้ำ เป็นสัตว์แปลกที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรก็ตามสามารถทำให้พวกเขาตายได้ นอกจากการแก่ชราไปเอง แต่ความจริงแล้วมันก็มีความเป็นไปได้ที่เราจะสามารถฆ่าพวกเขาให้ตายได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่โอกาสที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นมันแทบจะไม่มี

ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรง จนทำให้น้ำทะเลเดือดและระเหยไปหมด มันเป็นภัยพิบัติฟิสิกส์ดาราศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบบสุริยจักรวาลด้วยซ้ำไป 

หรือการที่ได้รับรังสีแกมมาภายในรัศมีไม่สูงไปกว่า 40 ล้านปีแสงจากโลก การตกของอุกกาบาตที่ต้องใช้แรงกว่า 56 ล้านล้านล้านล้าน (560,000,000,000,000,000,000,000,000) จูล มาตกใส่โลก ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีหินนอกโลกก้อนใดที่สามารถทำได้ 

และสุดท้ายก็คือการเกิดเหตุซุปเปอร์โนวาหรือการที่ดาวฤกษ์ระเบิดในรัศมีเพียงแค่ 0.14 ล้านปีแสง ซึ่งนอกจากดวงอาทิตย์ Proxima Centauri ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดโดยห่างออกไป 4 ล้านปีแสงแล้ว ก็ไม่มีดาวฤกษ์ดวงไหนอีกแล้ว และกว่าที่มันจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังคงเป็นเวลาที่นานแสนนานอยู่ดี 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment