โลมาอิรวดี โลมาที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ

by animalkingdom
272 views
โลมาอิรวดี

หากพูดถึงโลมาแน่นอนว่าหลายคนจะต้องนึกถึงทะเลอย่างแน่นอน แต่ โลมาอิรวดี ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ ความจริงแล้วพวกเขาสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับในปัจจุบันที่จำนวนประชากรของพวกเขาลดลงอย่างน่าตกใจ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงในการสูญพันธุ์ไม่แพ้สัตว์สายพันธุ์ไหนในโลก โลมาอิรวดีจะมีลักษณะเป็นอย่างไร และจะเสี่ยงสูญพันธุ์ขนาดไหน ไปทำความรู้จักพวกเขาพร้อม ๆ กันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับโลมาอิรวดีก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสได้เห็นพวกเขาตามธรรมชาติอีกต่อไป

ถิ่นที่อยู่อาศัย

โลมาอิรวดี

โลมาอิรวดี สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในตระกูลโลมาที่มีอีกหนึ่งชื่อเรียกที่ไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่อย่าง โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง พวกเขานั้นสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม ซึ่งจะกระจายตัวกันเป็นบริเวณกว้างที่ไม่ไกลจากชายฝั่งทะเลรวมไปถึงบริเวณปากแม่น้ำ เราสามารถพบพวกมันได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมไปถึงแม่น้ำในอ่าวเบงกอลบางส่วน โลมาอิรวดีมีรูปร่างที่ใกล้เคียงกับโลมาครีบทู่ออสเตรเลียแต่เป็นคนละสายพันธุ์กัน 

ลักษณะทั่วไป

มีความโดดเด่นอยู่ที่หัวซึ่งมีลักษณะที่กลมมนเหมือนกับบาตรของพระ ลำตัวมีผิวหนังเป็นสีเทาที่พบได้ตั้งแต่เทาอ่อนไปจนถึงเทาเข้ม มีดวงตาขนาดเล็กจนแทบจะมองไม่เห็น ปากกลมมนอยู่บริเวณด้านล่างของส่วนหัว ในปากจะมีฟันขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมากและยังมีความแหลมคมไม่น้อยเลยทีเดียว ครีบด้านข้างจะแผ่กว้างเป็นแนวนอนมีลักษณะเหมือนรูปสามเหลี่ยม ครีบบนมีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น 

เมื่อโตเต็มวัยพวกเขาจะมีความยาวได้ตั้งแต่ 180 เซนติเมตรไปจนถึง 275 เซนติเมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 98 กิโลกรัมไปจนถึง 159 กิโลกรัม ตัวผู้นั้นจะมีอายุที่ยืนยาวมากกว่าตัวเมียและยังมีขนาดตัวที่ใหญ่โตกว่าด้วย ความโดดเด่นอีกอย่างของโลมาอิรวดีคือ อวัยวะภายใน ไม่ว่าจะเป็นการมีกระเพาะอาหารอยู่หลายส่วนหรือแม้แต่การที่พวกเขาไม่มีกล้ามเนื้อหูรูดหัวใจ 

ในปัจจุบันพวกเขากลายเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ยากนั่นก็เป็นเพราะว่า พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของพวกเขาค่อนข้างใช้เวลานาน ตัวเมียจะออกลูกประมาณ 2-3 ปี ต่อครั้ง นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ออกลูกเป็นประจำทุกปีหรือออกลูกเป็นครอกแต่อย่างใด ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมากเมื่อมีลูกโลมาถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้

โลมาอิรวดี

โลมาอิรวดี นั้นถูกพบครั้งแรกในแม่น้ำอิรวดีในประเทศพม่า ด้วยเหตุนี้ชื่อแม่น้ำจึงกลายเป็นที่มาของชื่อพวกเขา แต่ความจริงแล้วแม้แต่ในประเทศไทยของเราเองก็สามารถพบพวกเขาได้เช่นเดียวกัน มีรายงานว่าเคยมีคนพบเห็นพวกเขาอาศัยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา 

นอกจากนี้ยังเคยมีคนจับพวกเขาได้บริเวณคลองรังสิตอีกด้วย บ้างก็พบสัตว์น้ำสายพันธุ์นี้ตามแม่น้ำขนาดใหญ่อย่างเช่นแม่น้ำโขงรวมไปถึงในทะเลสาบเขมร ส่วนบริเวณที่สามารถพบโลมาอิรวดีได้มากที่สุดนั้นจะอยู่ในประเทศอินเดีย รัฐโอฑิศา ทะเลสาบจิลิกาและอีกที่คือทะเลสาบสงขลาของประเทศไทยเรา 

ส่วนบริเวณที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือในประเทศลาว ที่บอกว่าน่าเป็นห่วงก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะพวกเขาสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เมื่อโลมาตัวสุดท้ายได้เสียชีวิตไปในปี 2565 ที่ผ่านมาเนื่องจากไปติดเข้ากับอวนจับปลาของชาวประมง 

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีบางตัวที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากมนุษย์ สุดท้ายพวกเขาก็ไม่รอดพ้นจากความเสี่ยงในการสูญพันธุ์อยู่ดี ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงเป็นสัตว์ที่ต้องได้รับการเฝ้าระวังถึงสถานการณ์ความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์อย่างใกล้ชิด 

โลมาอิรวดี สัตว์เสียงสูญพันธุ์ที่มีสาเหตุมาจากมนุษย์

โลมาอิรวดี

  โลมาอิรวดี เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งบนโลกในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในแหล่งน้ำจืด ซึ่งปัจจุบันสามารถพบได้เพียงแค่ 14 ตัวเท่านั้น มีรายงานจากทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุว่า 

ตลอดระยะเวลาร่วม 16 ปีที่ผ่านมา เราได้สูญเสียพวกเขาไปเป็นจำนวนกว่า 94 ตัว อัตราการตายของพวกเขานั้นสูงถึงประมาณ 10 ตัวต่อปี ซึ่งภัยคุกคามหลักก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่เป็นมนุษย์อย่างพวกเรานั่นเอง โดยเฉพาะการทำประมง 

เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2002 ที่การประมงเริ่มโตขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรดาสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำก็ได้รับผลกระทบและเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับโลมาสายพันธุ์นี้มีจำนวนที่น้อยอยู่แล้วจากพฤติกรรมการผสมพันธุ์และคลอดลูกที่เราได้กล่าวไปข้างต้น

ปัญหาที่ตามมาก็คือ ภาวะเลือดชิด เนื่องจากจำนวนโลมาที่เหลือน้อยก็ต้องผสมพันธุ์กันเอง จนทำให้ลูกหลานมีร่างกายที่อ่อนแอลงกว่าเดิม หากอัตราการเสียชีวิตของพวกเขายังอยู่ในระดับเดิมต่อไป รับรองว่าพวกเขาจะต้องสูญพันธุ์อย่างแน่นอน 

โลมาอิรวดี

แต่อย่างไรก็ตามในกรณีของโลมาอิรวดีนั้น ยังพอมีหนทางที่มนุษย์เราจะสามารถช่วยอนุรักษ์พวกเขาเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมามีได้มีการยกสถานะพวกเขาให้กลายเป็นสัตว์สงวนของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

มีกฎหมายที่คุ้มครองพวกเขาอย่างชัดเจนและมีแผนแม่บทที่กล่าวถึงการอนุรักษ์อย่างเป็นรูปธรรม รวมไปถึงมีงบประมาณที่จะช่วยให้เราสามารถดูแลพวกเขาได้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีแผนการที่จะเพิ่มจำนวนโลมาอิรวดีเป็น 30 ตัวจากทั้งหมด 14 ตัว ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบสงขลาของประเทศไทยอีกด้วย 

โดยจะเป็นการเพิ่มจำนวนควบคู่กับแผนระยะสั้น ที่จะมีความเข้มงวดในพื้นที่สำหรับการดูแลความปลอดภัยของพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม มีการให้ความรู้และการทำความเข้าใจกับประชาชนรวมไปถึงชาวประมงในพื้นที่ ให้เห็นถึงความสำคัญของประชากรโลมาที่เหลืออยู่เพียงแค่ 14 ชีวิตเท่านั้น 

มีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้ลาดตระเวนอย่างมีคุณภาพ เพื่อช่วยกวดขันเรื่องความปลอดภัยของโลมาในอีกทางหนึ่ง โดยมีเป้าหมายว่าจะเพิ่มประชากรพวกเขาจากทั้งหมด 14 ตัวให้กลายเป็น 30 ตัวภายในระยะเวลา 10 ปี 

อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับประชาชนคนธรรมดาอย่างเรา ที่จะต้องให้ความสำคัญและหันมาอนุรักษ์พวกเขาไปพร้อมกับทางภาครัฐด้วยเช่นเดียวกัน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment