ทำความรู้จักกับแมววิเชียรมาศ แมวไทยที่โด่งดังไปไกลทั่วโลก

by animalkingdom
166 views
แมววิเชียรมาศ

ถ้าพูดถึงแมวไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในแง่ของการเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก ก็ต้องนึกถึงแมววิเชียรมาศ แมวสายพันธุ์นี้ถูกตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Siamese Cat หรือแปลตรงตัวว่า “แมวไทย” ไม่ใช่แค่เพราะว่าพวกเขามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าพวกเขามีลักษณะที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับความสวยงามและลักษณะนิสัยที่น่ารักน่าชัง ทำให้แมวสายพันธุ์นี้จึงกลายเป็นแมวที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก วันนี้เรามีคำตอบมาให้ ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับแมววิเชียรมาศ แมวที่เคยถูกสงวนไว้ให้เฉพาะเจ้านายเท่านั้น 

แมววิเชียรมาศ

ในอดีต แมววิเชียรมาศ ที่ไม่ใช่แม่ที่ใครอยากเลี้ยงก็เลี้ยงได้ พวกเขาถือว่าเป็นสัตว์มงคลที่สงวนไว้ให้กับเฉพาะเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น ชื่อของพวกเขามีความหมายว่า “เพชรแห่งดวงจันทร์” ถูกบันทึกลงในสมุดข่อยโบราณในฐานะแมวมงคลที่มีประวัติศาสตร์อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต้นกำเนิดสายพันธุ์ของพวกเขาก็อยู่ในประเทศไทย

ในปี 1877 ประธานาธิบดีรัทเทอร์ฟอร์ดได้รับแมวสายพันธุ์นี้เป็นของขวัญจากพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย ผ่านเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาและนำไปเลี้ยง จนทำให้แมววิเชียรมาศเป็นที่รู้จักในสหรัฐมากขึ้นกว่าเดิม 

จนกระทั่งเข้าสู่ปี 1934 สมาคมขึ้นทะเบียนสายพันธุ์แมวอย่าง The Cat Fanciers Association ก็ได้ทำการขึ้นทะเบียนสายพันธุ์แมววิเชียรมาศ มีการกำหนดสีขนและสีแต้มตามลำตัวที่สามารถพบได้ทั่วไป โดยระบุว่า 

ต้องมีขนตามลำตัวเป็นสีขาวครีม มีแต้มเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล 9 จุด บริเวณขาทั้ง 4 ข้าง หู 2 ข้าง ใบหน้า หาง และอวัยวะเพศ ต่อมาในปี 1955 ทางสมาคมได้มีการเพิ่มสีแต้มและสีขนที่สามารถพบได้เพิ่มเติมนั่นก็คือ สีขนที่ลำตัวเป็นสีขาวและแต้มสีตามลำตัวเป็นสีม่วงอ่อน 

ในปี 1979 สมาคมแมวนานาชาติอย่าง The International Cat Association ก็ได้ทำการขึ้นทะเบียนแมววิเชียรมาศ ซึ่งนับว่าเป็นการขึ้นทะเบียนที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาจนถึงปัจจุบัน มันจึงไม่น่าแปลกใจหากเราจะเห็นพวกเขากระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก 

รวมเรื่องที่คุณควรรู้ ก่อนตัดสินใจรับแมววิเชียรมาศมาเลี้ยง

แมววิเชียรมาศ

แมววิเชียรมาศ มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของการเป็นแมวมงคล เชื่อว่าช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้เลี้ยงได้ จากแต้มทั้ง 9 จุดบนลำตัวที่มีความหมายเป็นมงคล ความจริงแล้วสีขนของพวกเขามีค่อนข้างหลากหลาย แต่มีเพียงแค่ไม่กี่สีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสายพันธุ์อย่างถูกต้อง 

ดวงตาส่วนใหญ่มักจะมีสีฟ้า แต่ก็มีบางตัวที่มีดวงตาเป็นสีเหลืองหรือสีเหลืองเขียวเช่นกัน แมววิเชียรมาศเป็นแมวขนาดกลางที่มีความสูงไม่เกิน 31 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 6 กิโลกรัมเท่านั้น อายุขัยเฉลี่ยประมาณ 15-20 ปี แล้วแต่การเลี้ยงดูและสุขภาพของแมวแต่ละตัว 

ลักษณะนิสัย 

แมววิเชียรมาศ

ลักษณะนิสัยของแมววิเชียรมาศนั้น ถือว่ามีความฉลาดหลักแหลมจนถึงขั้นสามารถฝึกได้เหมือนกับสุนัขเลยทีเดียว เข้ากับผู้คนได้เป็นอย่างดี ขี้อ้อน ขี้ประจบประแจง ชื่นชอบการเล่นคาบของเหมือนกับสุนัข มีพลังมหาศาลที่ทำให้เล่นได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่ปัญหาก็คือพวกเขามีเสียงร้องที่ค่อนข้างดัง จึงอาจไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงในหอพักหรือคอนโดมิเนียมสักเท่าไหร่

สุขภาพ

ใครที่คิดว่าแมวเลี้ยงง่ายเพราะไม่ต้องพาออกกำลังกายเหมือนกับสุนัข คุณอาจไม่เหมาะกับแมววิเชียรมาศสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขามีพลังงานค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงค่อนข้างชื่นชอบการเล่นที่ต้องใช้กำลัง อย่างเช่นการปาลูกบอลหรือการเล่นคาบของไปมา หากคุณไม่มีเวลาเล่นกับพวกเขาก็ต้องมีของเล่นทิ้งไว้ให้พวกเขาได้คลายเครียด ควรมีพื้นที่ให้พวกเขาได้วิ่งเล่นไปมา หรือไม่ก็ต้องมีลู่วิ่งแมวให้พวกเขาได้ปลดปล่อยพลังงานบ้าง ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้พวกเขารู้สึกเครียดได้ 

การดูแลเอาใจใส่ 

แมววิเชียรมาศ

แมววิเชียรมาศ เป็นแมวที่ต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของเป็นอย่างมาก มักแสดงความรักกับเจ้าของและอยากอยู่กับเจ้าของตลอดเวลา ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ขี้งอแงถึงขั้นที่เจ้าของไม่สามารถไปไหนได้ เพราะหากเจ้าของออกบ้าน พวกเขาก็สามารถอยู่ในบ้านตัวเดียวได้ตลอดทั้งวัน  

หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่พบในแมวสายพันธุ์นี้คือ การกลืนอาหารลงไปเลยโดยที่ไม่เคี้ยว เจ้าของจึงต้องคอยกระตุ้นให้พวกเขาเคี้ยวอาหารอยู่เสมอ เพราะนอกจากมันจะช่วยขัดฟันแล้ว ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารของพวกเขา สามารถทำงานได้ตามปกติและมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของอาหารการกิน แมววิเชียรมาศสามารถกินได้ทั้งอาหารเม็ดและอาหารสด ใครสะดวกให้อาหารแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามความสะดวก แต่สิ่งสำคัญก็คือ อาหารของพวกเขาจะต้องมีสารอาหารที่ครบถ้วน 

สารอาหารที่จำเป็นจะประกอบไปด้วยไขมัน 40% โปรตีน 25% ไฟเบอร์ วิตามินต่าง ๆ โอเมก้า 6 โอเมก้า 3 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ ธัญพืชอย่างเช่น ข้าว ข้าวโพด ข้าวสาลี เนื่องจากแมวหลายตัวแพ้ธัญพืชเหล่านี้ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร และยังอาจทำให้มีอาการคันตามผิวหนังอีกด้วย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment