สัมผัสความน่ารักของปอมเมอเรเนียน หมาขนฟูมาดคุณหนู

by animalkingdom
145 views
ปอมเมอเรเนียน

สุนัขที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในช่วงหลัง เรียกได้ว่ามาแรงแซงชิวาวา ก็ต้องยกให้ปอมเมอเรเนียน พวกเขาเป็นหมาสายพันธุ์เล็กสุดน่ารัก ที่มาพร้อมกับขนฟูปุกปุยเหมือนปอมปอมเชียร์ จนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่านี่คือที่มาของชื่อสายพันธุ์ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย ใครที่อยากทำความรู้จักกับพวกเขามากขึ้นกว่าเดิมก่อนตัดสินใจรับเลี้ยง เราจะพาทุกคนไปล้วงลึกถึงที่มา นิสัย และการดูแลพวกเขากัน

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดประวัติความเป็นมาของปอมเมอเรเนียน

ปอมเมอเรเนียน

สุนัขขนฟูสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนถือว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนาน ซึ่งต้องย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 16 กันเลยทีเดียว ในแคว้นปอมเมอเรเนียนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลบอลติก ปัจจุบันเป็นพื้นที่ในประเทศเยอรมันและโปแลนด์ 

สุนัขบรรพบุรุษของพวกเขาจัดอยู่ในตระกูลสปิตซ์ นอร์วีเจียน เอลก์ฮาวด์ ชิปเพิร์ก เยอรมัน สปิตซ์ ซามอยด์ และอเมริกัน เอสกิโม เรียกได้ว่ามีบรรพบุรุษที่ค่อนข้างหลากหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว แต่นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกเขาจึงออกมาน่ารักขนาดนี้

จากการรวมกันของลักษณะที่โดดเด่นของหลายสายพันธุ์ ทำให้ปอมเมอเรเนียนมีขนที่ยาวและฟูไปตลอดทั้งลำตัว ใบหน้ายื่นยาวคล้ายสุนัขจิ้งจอก และหูทรงสามเหลี่ยมขนาดเล็กที่ตั้งฉากกับกะโหลก 

ย้อนกลับไปในยุคนั้นพวกเขาไม่ได้มีขนาดตัวเล็กกะทัดรัดพกพาง่ายอย่างเช่นปัจจุบัน ปอมเมอเรเนียนได้รับการเพาะพันธุ์ให้เป็นสุนัขลากเลื่อน มีน้ำหนักตัวสูงถึง 30 ปอนด์ หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มได้รับความนิยมในฐานะของเพื่อนซี้สำหรับคนเลี้ยงหมาและมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น

ประกอบกับมีบุคคลมีชื่อเสียงหลายท่านเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้คิดค้นทฤษฎีแรงโน้มถ่วงอย่างเซอร์ไอแซก นิวตัน ผู้คนเลยหันมาเลี้ยงพวกเขามากขึ้นตามลำดับ

ปอมเมอเรเนียน

หลังจากนั้นพวกมันก็ได้เดินทางมายังประเทศอังกฤษในยุคของเจ้าหญิงโซเฟีย ชาร์ล็อตต์ ผู้อยู่บริเวณใกล้เคียงแคว้นปอมเมอเรเนียน เธอได้อภิเษกกับเจ้าชายอังกฤษ และในเวลาต่อมาเจ้าชายผู้ก็ได้รับการสถาปนาให้เป็นพระเจ้าจอร์จที่ 3 

ว่ากันว่าในภายหลัง ราชินีวิคตอเรียเป็นผู้ผสมพันธุ์สุนัขจนออกมามีความแตกต่างกันถึง 15 สายพันธุ์ และหนึ่งในสายพันธุ์โปรดก็คือเจ้าขนฟูสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนนั้นเอง

เข้าสู่ปี 1888 ระหว่างที่พระราชินีวิคตอเรียเดินทางไปยังอิตาลีก็ได้พบเข้ากับเจ้าสุนัขสายพันธุ์นี้ที่มีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 12 ปอนด์เท่านั้น ความตัวเล็กหน้าอุ้มทำให้พระราชินีตกหลุมรักในทันที เมื่อเดินทางกลับจึงมีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้พวกเขาขนาดเล็กลงกว่าเดิม

ทำความรู้จักกับปอมเมอเรเนียน เจ้าขนฟูตัวน้อย

ปอมเมอเรเนียน

จากขนาดตัวที่เล็กจิ๋ว ทำให้หลายคนคิดว่าปอมเมอเรเนียนนั้นเลี้ยงง่าย แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจรับมาเลี้ยง โดยปกติแล้วพวกเขาจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 3.5 กิโลกรัม และไม่ต่ำกว่า 1.9 กิโลกรัม ความสูงตั้งแต่ 13 เซนติเมตร ถึง 28 เซนติเมตร

ถึงตัวเล็กแต่ก็มีความแข็งแรง ขนหนาและยาว มีขน 2 ชั้น ภายในจะนุ่มฟูเหมือนสำลี ภายนอกจะสากเล็กน้อย ทำให้เราต้องหมั่นแปรงขนอยู่เป็นประจำทุกวัน ไม่เช่นนั้นจะพันกันกลายเป็นสังกะตังแน่นอน นอกจากนี้พวกเขายังผลัดขนปีละ 2 ครั้ง ใครเป็นภูมิแพ้อาจต้องโบกมือลากันไปก่อน นอกจากนี้ยังต้องอาบน้ำให้พวกมันสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องใช้เวลาเป่าขนกันเป็นชั่วโมง กว่าขนจะแห้งสนิท

ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่เป็นมิตร พวกเขาชื่นชอบการพบเจอผู้คนหรือสุนัขตัวใหม่ ๆ แต่บางครั้งก็ห้าวเกินขนาดตัวไปมาก มักจะไปยั่วยวนสุนัขตัวใหญ่ให้โมโหอยู่เสมอ เพราะพวกเขาคิดว่าตัวเองสามารถมีเรื่องกับอีกฝ่ายได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่สามารถเป็นไปได้

การฝึกให้พวกเขารู้จักว่าอะไรควรและไม่ควร จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เลี้ยง นอกจากนี้ยังไม่ค่อยเหมาะกับเด็กสักเท่าไหร่ เพราะถึงจะขี้เล่น แต่ก็ไม่ได้มีความอดทนมากมายนัก และเด็กยังอาจทำอันตรายต่อพวกเขาได้ด้วย

เรื่องราวน่ารู้อื่น ๆ เกี่ยวกับปอมเมอเรเนียน อาหาร การเลี้ยงดู

ปอมเมอเรเนียน

ใครคิดจะเลี้ยงปอมเมอเรเนียนต้องทำใจว่า คุณอาจจะต้องดูแลหมาสายพันธุ์นี้ให้หนักหน่อย เพราะถึงพวกเขาอาจไม่ได้ต้องการการไปวิ่งเล่นรอบหมู่บ้าน แต่เราก็ต้องมีพื้นที่ให้พวกเขาได้ออกกำลังกายภายในบ้านเช่นกัน 

ในขณะเดียวกัน พื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขาก็ควรที่จะมีอากาศปลอดโปร่ง เย็นสบาย ไม่เช่นนั้นพวกมันก็จะเป็นโรคลมแดดได้อย่างง่ายดายและอาจกลับดาวหมาได้โดยที่คุณไม่ทันรู้ตัว

สำหรับอาหาร เจ้าปอมเมอเรเนียนต้องการอาหารประมาณครึ่งถ้วยตวงในแต่ละวัน เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 มื้อ เช้าและเย็น สามารถปรับปริมาณให้เหมาะสมกับขนาดตัวได้ แต่ไม่ควรให้เยอะจนเกินไป เพราะพวกเขาเป็นสุนัขที่ค่อนข้างอ้วนง่าย 

แถมเรายังไม่ค่อยรู้ด้วยว่าพวกเขาอ้วนหรือแค่ขนเยอะกันแน่จนกว่าจะอาบน้ำ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืช ข้าวโพด ข้าวสาลี หรือข้าวธรรมดา เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะแพ้ง่าย ให้เน้นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุเป็นหลักดีกว่า 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment