ปลาทู มากกว่าแค่เมนูกับข้าว สัตว์สร้างรายได้ รสชาติดี

by animalkingdom
118 views
ปลาทู

“หน้างอ คอหัก” คือคำพูดที่มันใช้เพื่อกล่าวถึง ปลาทู คุณภาพดีจากแม่กลอง ปลาที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสัตว์เศรษฐกิจของไทย และไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน ปลาชนิดนี้ก็ยังเป็นปลายอดนิยมที่ผู้คนมันนำมาประกอบอาหาร ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ราคาไม่แพง และยังสามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับปลาสายพันธุ์นี้กัน พวกมันเป็นใคร มาจากไหน และจะน่าสนใจอย่างไร ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จักกับปลาทูในฐานะของสัตว์น้ำ

ปลาทู

ปลาทู ปลาทะเลที่จัดอยู่ในวงศ์ของปลาอินทรี เพราะฉะนั้น ถึงจะตัวเล็กกว่าเพื่อน แต่พวกมันก็เป็นญาติห่าง ๆ ของปลาอินทรี ปลาทูน่า และปลาโอเช่นกัน ปัจจุบันค้นพบทั้งหมด 3 ชนิดประกอบไปด้วย สายพันธุ์สั้น สายพันธุ์จิ้งจก สายพันธุ์โม่งหรือปลาลัง 

โดยสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการบริโภคในประเทศไทยมากที่สุดก็คือ สายพันธุ์สั้น ไม่เพียงเท่านั้นคนไทยยังเชื่ออีกด้วยว่า ปลาทู เป็นสัญลักษณ์ของการมีคู่ ตามความเชื่อของชาวพื้นเมืองในจังหวัดจันทบุรี

ปลาทูเป็นปลาที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสำหรับชาวประมง เนื่องจากพวกมันสามารถสร้างรายได้ได้มหาศาล มันจึงไม่น่าแปลกใจหากเราจะเห็นพวกมันสอดแทรกอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถเลี้ยงปลาสายพันธุ์นี้ได้สำเร็จ

ลักษณะลำตัวของปลาทูจะมีความเรียวยาว ด้านข้างแบน ดวงตากลมโตเป็นสีเหลือง มีปากทรงสามเหลี่ยมที่กว้าง จะงอยปากมีความแหลมคม มีเกล็ดสีเงินตามลำตัว แต่เล็กและละเอียดเป็นอย่างมาก โหนกหลังด้านบนเป็นสีเหลืองทองเช่นเดียวกับครีบ

ประวัติความเป็นมา

ปลาทู

ปลาทูเป็นปลาสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในทะเลไทยตั้งแต่แรก แต่กว่าที่เราจะค้นพบและทำความรู้จักพวกมันก็ปาเข้าไปในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 ช่วงเวลานั้นรัชกาลที่ 6 ได้มีการจ้างนักมันวิทยาชาวอเมริกันผู้หนึ่งที่มีชื่อว่า ดร.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ ให้มาเป็นที่ปรึกษาในกรมรักษาสัตว์น้ำหรือกรมประมงในปัจจุบัน

เพื่อช่วยสำรวจว่า ในประเทศไทยมีปลาสายพันธุ์ใดบ้าง โดยมี หลวงมัศยจิตรการ เป็นผู้ทำหน้าที่คอยวาดภาพปลาที่ค้นพบ ทำให้ท่านผู้นี้กลายเป็นบุคคลแรกที่ได้วาดภาพปลาสายพันธุ์ดังกล่าวในปี 2468 

ช่วงเวลานั้นชาวประมงไทยนิยมนำเอาเรืออวนตังเกจากประเทศจีน มาใช้เป็นเรือสำหรับการจับปลาทู เนื่องจากสะดวกและจับปลาได้เป็นจำนวนมาก เมื่อมีปลาเหลือก็ทำเป็นปลาเค็มส่งออกไปขายในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในอินโดนีเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ 

เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2503 รัฐบาลมีการนำเอาเครื่องมืออวนปลาจากเยอรมนีตะวันตกเข้ามาใช้ในประเทศไทย พร้อมกับประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นฉบับแรก ทำให้ช่วงเวลานั้นการประมงในประเทศไทยมีการขยายตัวมากขึ้น

การกระจายพันธุ์และที่อยู่อาศัย

ปลาทู

ปลาทูในปัจจุบันเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีความสำคัญกับการประมงไทย แต่ที่น่าเหลือเชื่อเลยก็คือ ประเทศไทยของเรายังไม่สามารถเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์นี้เพื่อเลี้ยงได้ เจ้าหน้าที่กรมประมงจากจังหวัดสมุทรสงครามเคยออกมาเผยแพร่ข้อมูลว่า การเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ก็มีนักวิจัยที่สามารถฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการวางไข่ของพวกมันได้สำเร็จเช่นกัน

ในปี 2555 กรมประมงออกมาประกาศว่า พวกเขาสามารถขยายพันธุ์ปลาทูในระบบปิดได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก สาเหตุที่กรมประมงและชาวประมงพยายามเพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์นี้เป็นเพราะว่า 

ปัจจุบันยังไม่มีการเลี้ยงพวกมันอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันก็มีความต้องการในการบริโภคเพิ่มขึ้นทุกปี หลายฝ่ายจึงกังวลว่า ปลาทูอาจสูญพันธุ์ลงได้ แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกมันจะสามารถวางไข่ได้ตั้งแต่ 15,000 ฟองไปจนถึง 30,000 ฟองเลยก็ตาม

ว่ากันว่าปลาที่สามารถจับได้ในอ่าวไทยนั้นอพยพมาจากทางเกาะไหหลำ หลังจากนั้นก็มีการลงหลักปักฐานอาศัยอยู่ในทะเลไทย พวกมันมักจะอยู่รวมตัวกันเป็นฝูงไม่ไกลจากชายฝั่ง อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมคือตั้งแต่ 17 องศาเซลเซียสเป็นต้นไป และต้องมีความเค็มไม่เกินไปกว่า 35.2%

เราสามารถพบปลาทูได้ทั่วไปทั้งในอ่าวไทย อำเภอเมืองสมุทรสงคราม โดยเฉพาะปลาที่มาจากอำเภอแม่กลอง เป็นปลาที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอร่อยและขนาดตัวที่ใหญ่โตเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกมันยังอาศัยอยู่ทั่วไปในน่านน้ำทะเลปิด ไม่ว่าจะเป็นทะเลญี่ปุ่น ทะเลจีนใต้ และทะเลอันดามันอีกด้วย

ปลาทู อาหารรสชาติอร่อยที่มาพร้อมโภชนาการมากมาย

ปลาทู

ปลาทูเป็นปลาที่เราสามารถทานกินได้ตลอดทั้งปี นอกจากพวกมันจะมีรสชาติที่อร่อยและสามารถปรุงได้หลายเมนูแล้ว ยังสามารถนำเอามาประกอบอาหารได้หลากหลายทั้งการทอด นึ่ง ยำ หรือทำน้ำพริก ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติอร่อยเท่านั้น 

แต่ยังมาพร้อมกับคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ วิตามิน กรดไขมันโอเมก้า รวมถึงกรดไลโนเลอิก ซึ่งเป็นสารที่ช่วยควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แถมยังมีกรดโคโคซาเฮ็กซิโนอิค ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สมองของเราอีกด้วย

ที่สำคัญคือปลาทูเป็นสัตว์ทะเล เพราะฉะนั้น พวกมันจึงมีไอโอดีนและกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหรือไขมันโอเมก้า 3 จำนวนมาก มีงานวิจัยรองรับว่า กรดไขมันดังกล่าวมีความจำเป็นในการทำงานของระบบประสาทและสมอง หากเราขาดกรดไขมันดังกล่าวก็จะก่อให้เกิดปัญหาโรคสมาธิสั้นและโรคซึมเศร้าได้

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเหล่าสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment