“จิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์” สัตว์ป่าตัวเล็กน่ารักที่หลายคนคงสงสัยกันว่า เราจะสามารถนำพวกมันมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ และถ้าได้เราจะมีวิธีการดูแลพวกมันอย่างไร วันนี้ Animal kingdom มีคำตอบมาให้กับทุกคนค่ะ รับรองว่าถูกใจคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แปลกอย่างแน่นอน ไปติดตามกันได้เลย
ข้อมูลทั่วไปจิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์
“จิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์ หรือ จิ้งจอกทะเลทราย” เป็นสุนัขจิ้งจอกขนาดเล็ก และยังเป็นสัตว์ที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับสุนัขที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย หากเทียบน้ำหนักตัวแล้วจะมีน้ำหนักตัวที่ใกล้เคียงกับสุนัขสายพันธุ์ชิวาวา ที่เป็นสุนัขขนาดเล็ก
ลักษณะรูปร่าง
จิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่แล้วน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ประมาณ 1.75 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะหนักราว 1.25 กิโลกรัม และมีขนาดความยาวของลำตัวอยู่ที่ 24-40 เซนติเมตร ส่วนความยาวหางจะยาวประมาณ 8 นิ้ว ซึ่งจะมีสีขนเป็นสีน้ำตาลเหลืองตลอดทั้งตัว ดวงตาจะมีสีดำ โดยจะมีจุดเด่นเฉพาะคือใบหูที่ยาวและใหญ่อย่างเห็นได้ชัดเจน บางตัวมีใบหูยาวถึง 15 เซนติเมตร มีลักษณะคล้าย ๆ กับจิ้งจอกหูค้างคาว ปัจจุบันได้ถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะต้องทำเอกสารสำหรับการเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้ที่ค่อนข้างวุ่นวาย
แหล่งที่พบหรือถิ่นกำเนิด
ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของจิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์นั้น อยู่ที่ทะเลทรายซาฮาร่า จะกระจายพันธุ์อยู่ตามทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาในเขตทะเลทราย
พฤติกรรม
โดยตามธรรมชาติแล้วสัตว์ชนิดนี้จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งจะมีพฤติกรรมที่คล้ายกับสุนัขหรือแม้แต่สุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไป อย่างเช่น การใช้ฉี่ในการแบ่งอาณาเขต และมีพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อเข้าสู่ช่วงผสมพันธุ์ พวกมันสามารถกินได้ทั้งสัตว์และพืช สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้แม้จะไม่ดื่มน้ำเป็นเวลานาน ๆ แต่ถ้าหากเปรียบกับสัตว์เลี้ยงทั่วไปมันจะมีนิสัยคล้ายกับสุนัขผสมแมว เพราะในบางครั้งจะชอบอยู่ตัวเดียวลำพัง แต่ก็จะมีความกระตือรือร้นอยู่พอตัว และยังมีความซุกซนอีกด้วย
วิธีการเลี้ยง
ถึงแม้สัตว์ชนิดนี้จะเป็นสายพันธุ์จิ้งจอกแท้ แต่ปัจจุบันมีการออกใบอนุญาตในการเลี้ยง และกำจัดโควตาสำหรับการส่งออกไปเพาะพันธุ์ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงสามารถหาซื้อได้ ตามฟาร์มหรือร้านที่มีการเพาะเลี้ยงอย่างถูกกฎหมายค่ะ การเลี้ยงจิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์นั้น คล้ายกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทั่วไปของเรา แต่ถึงแม้จิ้งจอกสายพันธุ์นี้จะรักสันโดษ เมื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงก็ต้องการเวลาให้ได้อยู่ร่วมกับเจ้าของบ้าง เพราะถ้าหากไม่ใส่ใจจะทำให้พวกมันมีนิสัยที่ก้าวร้าว หรือไม่เชื่องได้ นอกจากนี้พวกมันยังชอบเห่าเวลากลางคืนอยู่บ่อย ๆ ซึ่งควรจะเลี้ยงในกรงหรือซื้อมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก และฝึกฝนพฤติกรรมให้เหมาะสม ส่วนอาหารควรจะให้เป็นอาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัข และเสริมด้วยพืชกับแมลงต่าง ๆ และอย่าลืมพาไปพบสัตวแพทย์บ่อย ๆ เพื่อตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน พร้อมกับการขอคำแนะนำในการเลี้ยงและการป้องกันโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้