ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ สุนัขโบราณที่ขึ้นชื่อว่าสามารถฆ่าหมีได้ 

เป็นเรื่องชวนปวดหัวไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับสายพันธุ์สุนัข บางตัวหน้าตาดูดุร้ายเสียเหลือเกิน แต่ความจริงแล้วเป็นมิตรสุด ๆ ในขณะที่บางสายพันธุ์อย่างทิเบตัน มาสทิฟฟ์ หน้าตาดูเหมือนหมีตัวใหญ่ใจดี แต่ในความจริงแล้วมาพร้อมกับความดุร้ายเต็มพิกัด ขึ้นชื่อว่าสามารถฆ่าหมีได้เลยทีเดียว เพราะอะไรทิเบตัน มาสทิฟฟ์จึงดุร้ายได้ถึงขนาดนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับทิเบตัน มาสทิฟฟ์ สุนัขที่ไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตา 

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอก พวกเขาเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่ดูเหมือนหมี และมีหน้าตาที่ดูใจดีไม่น้อยเลยทีเดียว น่ากอดน่าฟัดแบบสุด ๆ แต่หากคุณบังเอิญได้พบพวกเขาตามธรรมชาติ เราขอแนะนำว่าให้รีบหนีโดยเร็วจะดีกว่า 

เพราะความจริงแล้วทิเบตัน มาสทิฟฟ์ นั้น ดุร้ายแบบสุด ๆ เหมือนกัน ดุมากพอที่จะฆ่าหมีหรือต่อสู้กับเสือได้เลยทีเดียว พวกเขาจัดเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก มีส่วนสูงถึง 60 เซนติเมตร และสามารถมีน้ำหนักตัวได้สูงสุดถึง 110 กิโลกรัม 

พวกเขาเป็นสุนัขขนยาวที่มีขน 2 ชั้นสำหรับการป้องกันความหนาวเย็น เนื่องจากถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ขนเหล่านี้จะช่วยป้องกันให้ร่างกายยังคงอบอุ่น ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย มีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-12 ปี 

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จัดเป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณ สามารถพบได้ตามธรรมชาติแถบประเทศทิเบต ทวีปเอเชียกลาง ลากยาวมาจนถึงประเทศอินเดีย ดังนั้นเราจึงสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า พวกเขาเป็นสัตว์ป่าอย่างแท้จริง ไม่ใช่สัตว์ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสักเท่าไหร่ 

คนท้องถิ่นตั้งชื่อให้สุนัขสายพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ว่า โทชี ซึ่งมีความหมายว่า สุนัขที่ต้องล่ามเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ เพราะพวกเขาหวงถิ่นฐานเป็นอย่างมาก ถึงอย่างนั้นในประเทศจีนก็ยังคงนิยมเลี้ยงพวกเขาอยู่ดี เพราะพวกเขาสามารถบ่งบอกฐานะของคนเลี้ยงได้ 

นอกจากนี้ยังมีการประกาศให้เป็นสัตว์สงวนของประเทศจีน ห้ามทำการส่งออกโดยเด็ดขาดอีกด้วย ในต่างประเทศจึงพบพวกเขาได้น้อย ในประเทศอังกฤษมีพวกเขาอยู่เพียงแค่ 300 ตัวเท่านั้น ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาท ขึ้นไป 

ลักษณะนิสัย 

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีนิสัยที่ทั้งน่ากลัวและดุร้ายเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ หากมองดูจากภาพลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว พวกเขามีสัญชาตญาณสัตว์ป่าอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขาทั้งกล้าหาญ มีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันหากเราเลี้ยงพวกเขาตั้งแต่ยังแบเบาะ พวกเขาก็จะรักครอบครัวและจงรักภักดีเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขที่ค่อนข้างเงียบ ไม่เห่าพร่ำเพรื่อสักเท่าไหร่ ดังนั้นเวลาเลี้ยงจึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาเสียงรบกวน นั่นเอง 

การดูแล 

การจะเลี้ยงทิเบตัน มาสทิฟฟ์ต้องอาศัยความพร้อมแบบสุด ๆ เพราะเราต้องใส่ใจดูแลพวกเขาไม่ต่างอะไรจากการเลี้ยงเด็กเกเรคนหนึ่งเลยทีเดียว เราต้องมีเวลาพาพวกเขาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คอยใส่ใจอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความเครียด ที่จะก่อให้เกิดความก้าวร้าวตามมาได้ 

ขนยาว ๆ ของพวกเขาจะผลัดเป็นประจำ เราจึงต้องหมั่นทำความสะอาดทั้งบ้านและหวีขนให้พวกเขาด้วย นอกจากนี้การอาบน้ำยังเหมือนกับฝันร้าย เพราะมีขนาดตัวที่ใหญ่โตแถมยังขนเยอะ เป่าขนกันทีหมดไปครึ่งวันแน่นอน แต่ข้อดีก็คือ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ไม่น้ำลายไหลเยิ้มเหมือนกับสุนัขที่หน้าตาคล้ายกันอย่าง เซนต์เบอร์นาร์ด แต่อย่างใด 

ส่วนอาหารไม่ต้องพูดถึง น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ย่อมตามมาพร้อมกับความอยากอาหารที่มากขึ้นไปด้วย เงินจึงเป็นทรัพยากรสำคัญที่เราต้องเตรียมพร้อมไว้ให้ดี แต่สิ่งที่ต้องเตรียมมากที่สุดก็คือ การเตรียมใจ 

การเลี้ยงพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย และการเลี้ยงทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ พอพวกเขาเริ่มกลายเป็นหมาดุแล้วก็เอาไปปล่อยให้กลายเป็นสุนัขจรจัด เป็นพฤติกรรมของคนเลี้ยงสัตว์ที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย แถมมันยังทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายเป็นห่วงโซ่ไม่รู้จบอีกด้วย 

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จากสุนัขหลักล้านสู่ปัญหาสุนัขจรจัดในทิเบต 

ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ในอดีตเคยเป็นสุนัขที่มีราคาสูงถึงหลักล้าน เป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยเงินทอง ผู้คนนิยมเลี้ยงพวกเขาไว้เพื่อบ่งบอกฐานะอันมีจะกินของตัวเอง แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือ พวกเขาอาจจะไม่รู้วิธีเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้สักเท่าไหร่ 

เพราะสุนัขโตขึ้นจนออกแววความดุร้าย หลายคนก็ทิ้งขว้าง ความนิยมในการเลี้ยงก็เสื่อมลงไปทุกวัน จากสุนัขที่เคยมีมูลค่าสูงพอจะซื้อบ้านหลังหนึ่งได้ ตอนนี้กลับกลายเป็นสุนัขจรจัดที่ถูกทอดทิ้งไว้บนทิเบตนับพันตัว ก่อให้เกิดปัญหากับผู้คนท้องถิ่นเป็นอย่างมาก ส่งผลต่อสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นโดยตรง 

เคยมีข่าวว่าสุนัขสายพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์หลายตัวไปล้อมเสือดาวเพื่อขโมยเหยื่อ จนเสือดาวต้องยอมทิ้งเหยื่อแล้วหนีไป ถือว่าเป็นปัญหาที่มนุษย์ก่อขึ้นแต่ไม่แก้ไขอย่างแท้จริง แม้ว่าองค์การสหประชาชาติจะได้จัดการประชุมเกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อตรวจสอบปัญหานี้อย่างใกล้ชิดแล้วก็ตาม เราคงต้องดูกันต่อไปว่า จะมีมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไรกันบ้าง 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่น่าสนใจอื่น ๆ