ช่วงหลังมานี้เราจะได้เห็นสุนัขรูปหล่อหลากหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว โดยเฉพาะนับตั้งแต่ที่ TikTokได้รับความนิยม และเราเชื่อว่าหากคุณได้รู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ โดเบอร์แมน พินสเชอร์ คุณจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน เห็นพวกเขารูปหล่อแบบนี้ แต่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น เพราะพวกเขาคือสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มาพร้อมความเฉลียวฉลาดมากพอที่จะฝึกใช้งานในสงครามได้เลย พวกเขาเป็นใครมาจากไหน วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับสายพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ สุนัขตำรวจที่มีชื่อเสียงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
โดเบอร์แมน พินสเชอร์ สำหรับหลายคนแล้วอาจเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ แต่หากจัดอันดับจริง ๆ แล้ว พวกเขาถือว่าเป็นสุนัขขนาดกลาง มีน้ำหนักตัวเพียง 27 กิโลกรัมไม่เกิน 45 กิโลกรัมเท่านั้น แต่พวกเขาเป็นสุนัขที่ร่างกายสูงใหญ่เป็นอย่างมาก
วัดส่วนสูงจากไหล่ถึงพื้นเมื่อโตเต็มวัยแล้วสามารถสูงได้ถึง 70 เซนติเมตรหรือมากกว่านั้น เวลายืนพวกเขาจึงมีส่วนสูงเกือบครึ่งหนึ่งของมนุษย์เลยทีเดียว ไม่ต้องพูดถึงเวลายืน 2 ขา รับรองว่าสูงกว่าเราแน่นอน ลักษณะที่โดดเด่นของพวกเขาก็คือ
หัวจะมีความเรียวยาว ทั้งปากและจมูกยื่นยาวออกมาข้างหน้า หูเป็นทรงสามเหลี่ยมแคบ ๆ ที่ตั้งตรงขนานไปกับกะโหลกศีรษะ ดวงตาทรงอัลมอนด์กลมโตขนาดใหญ่สีเข้ม เวลามองตอนกลางคืนเหมือนกับได้เห็น Batman ยังไงอย่างนั้น
ถึงแม้ว่าโดเบอร์แมน พินสเชอร์ จะดูเพรียวบางมากแค่ไหน แต่ความจริงแล้วพวกเขามีกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย ดังนั้นจึงปราดเปรียวและคล่องแคล่วว่องไวเป็นอย่างมาก จัดเป็นลักษณะพิเศษของเหล่าสุนัขใช้งานทั้งหลายเลยทีเดียว
โดเบอร์แมน พินสเชอร์ เป็นสุนัขขนสั้นที่ลักษณะจะดูนุ่ม และมันวาวตลอดทั้งตัว เส้นขนเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีหลากหลายสีสันทั้งสีดำ น้ำตาลเหลือง หรือสีแดง มีรอยแต้มเป็นสีสนิมบริเวณริมฝีปาก เหนือดวงตา หน้าอกส่วนหน้า และลำคอ
หางพวกเขาทั้งยาวและเรียวเหมือนกับดาบ แต่เราไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นสักเท่าไหร่ เนื่องจากผู้คนนิยมตัดหางพวกเขาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก ก่อนที่หูของพวกเขาจะตั้งตรงได้เหมือนกับที่เราเห็นในทุกวันนี้ จำเป็นที่จะต้องตัดแต่งและดัดให้ตั้งตรงขึ้นมา
ดังนั้นการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์โดเบอร์แมน พินสเชอร์ จึงต้องอาศัยความอดทนและความรู้ความชำนาญสักเล็กน้อย พวกเขาจึงจะมีลักษณะออกมาออกมาเหมือนกับที่เราได้เห็นกันทุกวันนี้ สวนอายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10 ปีถึง 12 ปี เท่านั้น
ประวัติความเป็นมา
โดเบอร์แมน พินสเชอร์ มีต้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมันเจ้าเก่าเจ้าเดิม ในยุคนั้นมีนักพัฒนาสายพันธุ์สุนัขที่มีชื่อว่าหลุยซ์ โดเบอร์แมน ที่ความจริงแล้วอาชีพของเขาคือพนักงานเก็บภาษี หน้าที่ของเขาจำเป็นจะต้องเดินทางไปหลาย ๆ ที่ในวันเดียว
การเดินทางในยุคนั้นไม่ค่อยสะดวกสบายสักเท่าไหร่ เขาจึงต้องพยายามเฟ้นหาสุนัขมาเลี้ยงไว้เพื่อช่วยอารักขาและเป็นเพื่อนขณะที่กำลังเดินทาง ถึงอย่างนั้นก็ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเขาทำการเพาะพันธุ์สุนัขตัวนี้มาได้อย่างไร แต่คาดการณ์ว่าเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างเยอรมัน ฟินสเชอร์ แมนเชสเตอร์ เทอร์เรียร์ และร็อตไวเลอร์
ในช่วงแรกลักษณะใบหน้าของโดเบอร์แมน พินสเชอร์ จะกว้างกว่านี้ มวลกระดูกก็เยอะกว่า แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปพวกเขาก็ได้รับการพัฒนาโครงสร้างให้มีความทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม จนพวกเขากลายเป็นที่นิยมตั้งแต่ปี 1899 และถูกนำเข้าสู่สหรัฐอเมริกาต่อมาในปี 1908
เข้าสู่ศตวรรษที่ 20 โดเบอร์แมน พินสเชอร์ ก็กลายมาเป็นสุนัขทหาร ถูกพาไปรบในสมรภูมิกับเหล่านาวิกโยธินช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มมีภาพจำว่า เป็นสหายคู่ใจของเหล่าทหารที่ทั้งกล้าหาญและแน่วแน่ เคยเข้าร่วมสงครามบนเกาะกวมมาก่อนจนได้รับฉายาว่าเป็น Devil Dog เลยทีเดียว
ทั้งยังมีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นมาเพื่อระลึกถึงความซื่อสัตย์ ความเสียสละ และความกล้าหาญของพวกเขาอีกด้วย ปัจจุบันพวกเขาได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้นกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นสุนัขบำบัดและสุนัขกู้ภัยอยู่เช่นเดียวกัน
ลักษณะนิสัย
โดเบอร์แมน พินสเชอร์ มีนิสัยที่มั่นใจในตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ทั้งรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของเป็นอย่างมาก ใครที่ได้สนิทกับพวกเขา ถึงจะไม่ใช่ครอบครัวแต่พวกเขาก็จะรักใคร่เป็นอย่างดี มีความน่าเกรงขาม ชื่นชอบการผจญภัย กล้าหาญชาญชัย และมีความกระตือรือร้น
นอกจากนี้ยังเป็นผู้พิทักษ์ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ฝึกให้เฝ้าบ้านก็ได้ ใช้งานลาดตระเวนก็ดี เพราะพวกเขามีสัญชาตญาณที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยก่อน เวลามีคนแปลกหน้าเข้ามาพวกเขาก็จะเห่าเตือนให้เรารู้ เมื่อไหร่ที่เราตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะพุ่งตัวเข้าไปสู้ในทันทีแบบไม่มีลังเล
ถึงโดเบอร์แมน พินสเชอร์ จะชอบการเป็นที่รักมากแค่ไหน แต่ความจริงแล้วพวกเขามีโลกส่วนตัวสูงมาก หากต้องการเลี้ยงกับเด็ก เราต้องสอนเด็กให้รู้วิธีการเล่นกับสุนัขอย่างถูกต้อง ฝึกสอนทั้งเด็กและสุนัขให้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ก็ยังถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่สามารถเลี้ยงร่วมกับเด็กได้ เพียงแต่เราต้องใส่ใจและดูแลเป็นพิเศษ
รวมเรื่องน่ารู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงโดเบอร์แมน พินสเชอร์
โดเบอร์แมน พินสเชอร์ เป็นสุนัขที่อาจจะน้ำหนักไม่ได้เยอะเท่าไหร่ แต่รูปร่างก็ใหญ่โตใช่เล่น พวกเขาจึงอาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่มีเวลา เพราะหากศึกษาวิธีเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ให้ดี เราจะทราบได้ว่าพวกเขาต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก แถมยังต้องฝึกฝนเพื่อลดพฤติกรรมก้าวร้าวอีกด้วย ซึ่งก่อนจะทำการเลี้ยงพวกเขาจะมีอะไรบ้างที่เราต้องทำความเข้าใจก่อนเลี้ยงอยู่บ้าง ไปดูกันเลย
การออกกำลังกาย
โดเบอร์แมน พินสเชอร์ เป็นสุนัขที่ถูกใช้งานมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มไปด้วยพละกำลังจนล้นออกมาหากไม่ได้ออกกำลังกาย และมันยังอาจส่งผลเสียต่อพฤติกรรมสัตว์ ทำให้พวกเขามีนิสัยก้าวร้าวรุนแรงได้ หากไม่ได้ออกแรงอย่างเพียงพอ
ดังนั้นเราจึงต้องมีเวลาพาพวกเขาไปวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายตั้งแต่ 40 นาทีขึ้นไปต่อวัน จะเล่นหรือวิ่งก็ได้ หรือใช้เวลาในช่วงนี้ฝึกฝนพวกเขาเพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสมก็ได้เช่นเดียวกัน การเลี้ยงโดเบอร์แมน พินสเชอร์ จึงต้องการพื้นที่ที่กว้างมากพอ
หากเลี้ยงพวกเขาอยู่ในห้องแคบ ๆ อาจทำให้พวกเขาเกิดความเครียดตามมาได้ ใครที่เป็นสายเดินป่าเราขอแนะนำเลย พวกเขาชื่นชอบการเดินทางผจญภัย มีความอดทนเป็นอย่างมาก ทำให้เราสามารถพาพวกเขาไปเดินป่าติดต่อกันหลายชั่วโมงได้เลย
การให้อาหาร
การให้อาหารโดเบอร์แมน พินสเชอร์ ควรให้เป็นอาหารเม็ดที่มีสารอาหารครบถ้วน สำหรับคนที่ไม่มีเวลา ห้ามให้อาหารมนุษย์หรืออาหารปรุงสุกที่ผ่านการปรุงรสมาแล้วโดยเด็ดขาด ควรมีครบทั้งโปรตีนและผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของข้าวสาลี ถั่วเหลือง และข้าวโพด
เนื่องจากอาหารเหล่านี้ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ หากคุณมีเวลาและอยากเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้พวกเขา จะให้เป็นอาหารสดอย่างบาร์ฟก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องรักษาความสะอาดให้ดี ส่วนปริมาณขึ้นอยู่กับอายุ ขนาดตัว และการเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วตัวโตเต็มวัยจะให้อาหารจำนวน 4 ถ้วยครึ่งในแต่ละวัน แบ่งออกเป็นวันละ 2 มื้อเท่า ๆ กัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me
สุนัขพันธุ์ใหญ่ที่น่าสนใจอื่น ๆ