ในปัจจุบันสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีให้คุณเลือกเพียงแค่สุนัขและแมวเหมือนกับในอดีตอีกต่อไป มีสัตว์น่ารักมากมายที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้ อย่างเช่น ชินชิล่า สัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาดูแปลกประหลาดแต่ก็น่ารักเป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขานำเอาส่วนผสมความน่ารักของสัตว์แต่ละชนิดมาผสมผสานอยู่ในพวกเขาสายพันธุ์เดียว สำหรับใครที่สนใจอยากจะลองเลี้ยงพวกเขา เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับชินชิล่า สัตว์ขนปุกปุยที่หลายคนอยากลองเลี้ยงดูสักครั้ง
ชินชิล่า จัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงสัตว์ฟันแทะที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเขามีรูปลักษณ์ที่น่ารักน่าชัง มีขนาดตัวที่เล็กทำให้ไม่มีอุปสรรคเรื่องพื้นที่ในการเลี้ยงแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังไม่ส่งเสียงรบกวนมากมายเหมือนกับการเลี้ยงสุนัข ไม่มีกลิ่นกวนใจเหมือนกับการเลี้ยงแมว พวกเขาเป็นใครมาจากไหน ไปดูกันเลย
ลักษณะภายนอก
ชินชิล่า เป็นสัตว์ตัวเล็กที่ผสมผสานกันระหว่างหนูแกสบี้ กระต่าย และกระรอก ลักษณะภายนอกของพวกเขานั้นจะมีกะโหลกขนาดใหญ่ ลำตัวอ้วนกลม มีหู 2 ข้างที่ตั้งขึ้นเป็นทรงกลมน่ารัก แถมยังสามารถฟังเสียงได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย มีหางยาวเป็นพวงคล้ายกับกระรอก
ขนของพวกเขานุ่มฟูเหมือนกับกำมะหยี่ ที่สำคัญยังเป็นขนที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้อีกด้วย มีให้เลือกหลากหลายสีสัน อย่างเช่น สีขาว สีดำ หรือสีเทา เมื่อโตเต็มที่ความยาวลำตัวของพวกเขาจะไม่เกิน 20 เซนติเมตรแบบไม่รวมหาง น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 550 กรัมไปจนถึง 700 กรัม
ความโดดเด่นของชินชิล่าก็คือดวงตาที่กลมโต มันสามารถใช้รับภาพได้อย่างชัดเจนในวงกว้าง แต่ปัญหาก็คือพวกเขาไม่สามารถใช้ดวงตาในการกะระยะความสูงต่ำได้ ถึงอย่างนั้นก็มีประสิทธิภาพในการมองเห็นตอนกลางคืน เพราะพวกเขาเป็นสัตว์ที่หากินในตอนกลางคืน
ลักษณะนิสัย
ชินชิล่า เป็นสัตว์ Exotic ที่นิสัยน่ารักเป็นอย่างมาก พวกเขาเหมือนกับเด็กขี้อ้อน ชอบอยู่กับเจ้าของและชอบโดนอุ้ม แต่ปัญหาก็คือ พวกเขาเป็นสัตว์หากินตอนกลางคืน ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เวลาในช่วงกลางวันไปกับการนอนหลับและตื่นขึ้นมาเล่นซนในตอนกลางคืน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงอาจสร้างเสียงรบกวนในยามวิกาลได้
พวกเขาชื่นชอบการวิ่งเล่น ไม่ดุและไม่กัดหากไม่รู้สึกโกรธจริง ๆ หากเจอคนแปลกหน้าพวกเขาจะส่งเสียงเห่าแบบเบา ๆ เพื่อเป็นการขู่ว่าพวกเขากลัว หากเราไม่ทำให้พวกเขาเครียดพวกเขาก็จะไม่โจมตีเราอย่างแน่นอน
เวลามีความสุขพวกเขาจะกระโดดไปมาเหมือนกับนักกายกรรม มีความสุภาพแถมยังฉลาดอีกด้วย ชินชิล่าเป็นสัตว์สังคมที่ชื่นชอบการอยู่รวมกันเป็นฝูง ดังนั้นหากคุณต้องการจะเลี้ยงพวกเขาก็ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป หรือไม่ก็หาเวลาเล่นกับพวกเขาบ่อย ๆ
ถิ่นกำเนิด
ชินชิล่า เป็นสัตว์แปลกที่ก่อนจะถูกนำเอามาเลี้ยง เคยมีถิ่นอาศัยอยู่บนเทือกเขาแอนดีสของประเทศเปรู ชิลี และโบลิเวียในอเมริกาใต้เลยทีเดียว ต้นตระกูลของพวกเขานั้นถือกำเนิดขึ้นบนพื้นที่ที่มีความสูงตั้งแต่ 3,000 ฟุตไปจนถึง 12,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องมีขนปุกปุยที่จะช่วยให้ร่างกายของพวกเขาอบอุ่นอยู่เสมอ แม้อยู่ในสภาพอากาศที่เย็นจัดก็ตาม นอกจากนี้ขนของพวกเขายังช่วยให้ไม่มีปัญหาเรื่องปรสิตอีกด้วย เพราะขนที่อัดกันแน่นทำให้ปรสิตไม่สามารถเข้าไปสร้างความรำคาญให้กับพวกเขาได้
ในตอนที่ชาวสเปนเข้าไปยึดครองพื้นที่ของชาวเผ่าอินคา พวกเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในยุโรปมากขึ้น เนื่องจากชาวอินคามักสวมใส่เสื้อคลุมที่ทำมาจากขนสัตว์นุ่มๆ ชาวยุโรปจึงสงสัยว่ามันเป็นขนของตัวอะไร จนได้พบกับชินชิล่าในที่สุด
ด้วยเหตุนี้มันจึงมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ชินชิล่า ถูกล่าอย่างหนักจนอยู่ในสถานะเกือบสูญพันธุ์กันเลยทีเดียว โชคดีที่รัฐบาลในประเทศถิ่นกำเนิดของพวกเขา พยายามอนุรักษ์ด้วยการออกกฎห้ามซื้อขายและจับตัวพวกเขาโดยเด็ดขาด
ถึงจะใช้เวลานานแต่มันก็ช่วยให้พวกเขาสามารถฟื้นคืนจำนวนประชากรจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้สำเร็จ จนกระทั่งในปี 1922 พวกเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะของสัตว์เลี้ยงและถูกขยายพันธุ์จนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในยุคปัจจุบัน
รวมสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงชินชิล่า
ความจริงแล้ว ชินชิล่า เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้เลี้ยงยากแต่อย่างใด วิธีเลี้ยงสัตว์สายพันธุ์นี้ค่อนข้างง่าย เพียงแต่คุณต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมและลักษณะนิสัยของพวกเขาเสียก่อน พวกเขากินอาหารไม่เยอะ อาหารของพวกเขาจะมีทั้งแบบสำเร็จรูปอย่างเช่น ผลไม้อบแห้ง หญ้าอัลฟาฟ่า หญ้าทิโมธี
โดยอาหารหลักของพวกเขาจะเป็นหญ้า ส่วนอาหารเม็ดสามารถให้ได้ในปริมาณที่จำกัด เพื่อป้องกันปัญหาโรคท้องอืดหรือท้องเสีย สำหรับผลไม้สดสามารถให้ได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ครั้ง อย่างเช่น แอปเปิลหั่นเป็นชิ้นแบบพอดีคำ
พวกเขาค่อนข้างสะอาดแต่เราก็สามารถทำความสะอาดพวกเขาได้ ด้วยการนำเอาฝุ่นภูเขาไฟใส่กล่องให้พวกเขาลงไปคลุกทำความสะอาดตัว กรงที่เลี้ยงควรมีขนาดตั้งแต่ 45 X 60 X 80 เซนติเมตรขึ้นไป หรือจะใหญ่กว่านี้ก็ได้เช่นเดียวกัน
มีพื้นที่พอให้พวกเขาได้วิ่งเล่นปีนป่าย มีกรงจักรเอาไว้ให้พวกเขาสามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้ มีขวดน้ำ ถ้วยอาหาร บ้านสำหรับหลบภัย เพียงเท่านี้ก็จะทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีและมีอายุยืนยาวอยู่กับเราไปได้นาน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me
