เต่าตนุ เป็นเต่าทะเล ซึ่งปัจจุบันแบ่งออกเป็น 7 ชนิด และแบ่งวงศ์ได้เป็น 2 วงศ์ คือ Cheloniidae โดยเต่าทะเลส่วนมากจะอยู่ในวงศ์นี้ และวงศ์ Dermochelyidae จะมีแค่เต่าทะเลชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในวงศ์นี้ วันนี้ Animal kingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการดำรงชีวิต และลักษณะต่าง ๆ ของสัตว์ทะเลชนิดนี้ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ
ข้อมูลทั่วไปของเต่าตนุ
เต่าตนุ หรือ เต่าแสงอาทิตย์ และชาวตะวันตกเรียกว่า เต่าเขียว เนื่องจากสีของกระดองที่เหลือบเขียว เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่จัดอยู่ในวงศ์ Testudines โดยเป็นเต่าทะเลที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Chelonia mydas ซึ่ง อยู่ในวงศ์ Cheloniidae และมีเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Chelonia
ลักษณะทั่วไปของเต่าตนุ
เต่าตนุเป็นสัตว์ทะเลที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และน้ำหนักมากเมื่อช่วงโตเต็มที่ โดยความยาวของสัตว์ทะเลชนิดนี้ตั้งแต่หัวจรดหางมีความยาวประมาณ 1 เมตร น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 130 กิโลกรัม ส่วนหัวจะป้อมสั้นและปากสั้น ส่วนเกล็ดของมันจะเรียงต่อกันแบบไม่ซ้อนทับกัน ซึ่งกระดองหลังของมันจะโค้งนูนเล็กน้อย ช่วงบริเวณกลางหลังจะนูนเกือบเป็นสัน สีของกระดองถ้าดูผ่าน ๆ จะเป็นสีน้ำตาลอมเขียวหรือน้ำตาลแดง ขอบเกล็ดเป็นสีอ่อน จะมีรอยด่างและลายเป็นเส้นกระจายจากจุดสีแดงปนน้ำตาล ดูคล้าย ๆ กับแสงของพระอาทิตย์ที่ส่องผ่านเมฆ จึงเป็นที่มาของอีกชื่อหนึ่งของสัตว์ทะเลชนิดนี้ว่า “เต่าแสงอาทิตย์” ส่วนที่ท้องจะแบนราบและขาทั้ง 4 ข้าง ก็แบนราบคล้ายไม้พาย ส่วนขาคู่หลังจะมีขนาดเล็กกว่าคู่หน้ามาก
การวางไข่
ฤดูกาลวางไข่ของพวกมันจะอยู่ที่ช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ในบริเวณอ่าวไทย และในช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ในบริเวณทะเลอันดามัน จำนวนไข่ที่วางแต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 70-150 ฟอง ส่วนมากสัตว์ทะเลจำพวกนี้ช่วงโตเต็มที่จะว่ายน้ำออกหากินไปเรื่อย ๆ แทบจะอาศัยอยู่ในทะเลตลอดเวลา แต่จะมีเต่าตนุตัวเมียขึ้นมาบนชายฝั่งเฉพาะช่วงที่จะวางไข่เท่านั้น
การกระจายพันธุ์
เราจะพบพวกมันกระจายพันธุ์อยู่แถวมหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรแอตแลนติกและในน่านน้ำไทย ซึ่งจะพบได้ทั้งที่อ่าวไทยและทะเลอันดามัน เป็นเต่าที่พบได้บ่อยสุดในน่านน้ำทะเลของไทย ซึ่งจะพบในเขตน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างอุ่น สูงกว่า 20 องศาเซลเซียสขึ้นไป และเป็นสัตว์ทะเลที่มีอายุยืนถึง 100 ปี เลยทีเดียว
อาหาร
เต่าตนุจะกินทั้งพืชและสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ แต่พวกมันจะกินพืชเป็นหลัก โดยจะกินพวกสาหร่ายทะเลหรือหญ้าทะเล และอาหารรองลงมาจะเป็นพวกสัตว์ทะเลขนาดเล็กอย่างเช่น ปลา และแมงกะพรุน
