วาฬโอมูระ วาฬชื่อญี่ปุ่นสายพันธุ์หายากที่สามารถพบได้ในไทย

by animalkingdom
210 views
วาฬโอมูระ

ความจริงแล้วในประเทศไทยของเรานั้นถือว่ามีธรรมชาติที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว เป็นประเทศที่มีพื้นที่ธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ทำให้สัตว์ที่พบได้ยากอย่าง วาฬโอมูระ วาฬชื่อญี่ปุ่นสายพันธุ์ที่สามารถพบเห็นได้ในประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขานั้นกำลังอยู่ในสถานะที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างมาก แต่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักพวกเขาและไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญสักเท่าไหร่ เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับลักษณะเด่นของวาฬโอมูระ 

วาฬโอมูระ

วาฬโอมูระ เป็นชื่อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกตั้งขึ้นมาตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลที่มีชื่อว่า “ฮิเดโอะ โอมูระ” เขาได้ค้นพบซากวาฬสายพันธุ์นี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมานี่เอง พวกเขาอาศัยอยู่ในทะเลและเมื่อโตเต็มวัยจะสามารถมีขนาดความยาวได้ตั้งแต่ 10 เมตรไปจนถึง 11.5 เมตรกันเลยทีเดียวแถมน้ำหนักก็ยังสูงถึง 20 ตันได้อีกด้วย 

พวกเขาจัดเป็นสัตว์หายากที่มีความใกล้เคียงกับสายพันธุ์บรูด้า แต่มีขนาดเล็กกว่า รอยจีบใต้ลำคอก็มีมากกว่า โดยเริ่มต้นที่ 80 รอยจีบไปจนถึง 90 รอยจีบได้เลยทีเดียว ครีบหลังของพวกเขาก็สูงกว่าและโค้งน้อยกว่า นอกจากนี้พวกเขายังมีสันขึ้นมาบริเวณกลางหัวอีก 1 สันด้วย 

ผิวหนังของวาฬโอมูระจะเป็นสีเทาอ่อนไปจนถึงสีเทาเข้ม สีบริเวณขากรรไกรทั้ง 2 ฝั่งก็แตกต่างกัน ข้างลำตัวจะมีรอยเป็นรูปตัววีทั้งสองด้าน จะเข้าสู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ตั้งแต่อายุ 8 ปีไปจนถึง 13 ปี ใช้เวลาในการตั้งท้องยาวนานประมาณ 11 เดือนไปจนถึง 12 เดือน 

สามารถตกลูกได้ 2 ปีต่อครั้ง จำนวนครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมีการขยายพันธุ์ที่ค่อนข้างช้าและทำให้พวกเขายิ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มากขึ้นกว่าเดิม 

วาฬโอมูระ

ถึงแม้ว่าจะตัวใหญ่ แต่อาหารของวาฬโอมูระส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกปลาเล็กปลาน้อย ตัวเคย หรือแพลงก์ตอน สำหรับมนุษย์แล้วพวกเขาจึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด นอกจากนี้พวกเขายังมีประโยชน์อีกด้วย หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้วร่างของพวกเขาจะกลายเป็นอาหารให้กับสัตว์ที่อยู่ก้นทะเล 

เป็นตัวผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนกว่า 190,000 ตัน ซึ่งจะถูกเก็บไว้ใต้ทะเลโดยไม่ถูกปล่อยออกมาบนชั้นบรรยากาศแต่อย่างใด มันจึงสามารถเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกินบนบกได้และช่วยชะลอภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการมีวาฬโอมูระอยู่จึงสำคัญต่อโลกใบนี้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว 

บริเวณที่เราสามารถพบวาฬโอมูระและพฤติกรรมการอยู่อาศัย

วาฬโอมูระ

วาฬโอมูระเป็นสัตว์น้ำที่มักหากินบริเวณไม่ไกลจากชายฝั่งทะเล บริเวณเขตร้อนไปจนถึงเขตอบอุ่น พวกเขามีนิสัยแตกต่างจากญาติส่วนใหญ่ที่มักจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง เพราะพวกเขามักจะแยกตัวออกมาจากฝูง แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่แยกขาดเป็นเอกเทศ ออกหากินตัวเดียวตามลำพัง 

พวกเขาจะรวมกลุ่มกันแบบไกลๆ กลุ่มหนึ่งจะมีจำนวนประมาณ 6 ตัว อยู่ในระยะที่สามารถส่งเสียงสื่อสารถึงกันได้ แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวให้แก่กันและกัน นอกจากนี้วาฬโอมูระยังมีที่อยู่เพียงที่เดียว เกิดที่ไหนก็อยู่ที่นั่นตั้งแต่เล็กจนโต ไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐานตามฤดูกาลเหมือนกับญาติชนิดอื่น 

มีรายงานระบุว่าเราสามารถพบพวกเขาได้ทั่วทั้งโลก แต่ส่วนใหญ่จะพบพวกเขาในเขตน้ำตื้นไม่ไกลจากชายฝั่ง โดยเฉพาะแถบอินโด – แปซิฟิกตะวันออก ในประเทศไทยของเราก็สามารถพบเห็นพวกเขาได้ไม่ว่าจะในทะเลอ่าวไทยหรือทะเลอันดามัน  

ความเสี่ยงในการสูญพันธุ์วาฬโอมูระและการระบุให้เป็นสัตว์ป่าสงวน 

วาฬโอมูระ

วาฬโอมูระ กำลังมีภัยคุกคามอย่างหนักจนทำให้จำนวนประชากรของพวกเขาลดลงอย่างน่าใจหาย ไม่ว่าจะเป็นเรือยนต์ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงในทะเล การเกิดอุบัติเหตุชนสัตว์ทะเลขนาดใหญ่อยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้พวกเขายังสามารถไปติดอวนของเรือประมงได้อีกด้วย 

ดังนั้นในประเทศไทยที่สามารถพบพวกเขาได้ก็จริง แต่เราก็ค้นพบพวกเขาอยู่เพียงแค่ 15 ตัวเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าอาจจะมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย พวกเขายังไม่ได้รับการอนุรักษ์อย่างจริงจังและมีมาตรการเข้มข้นมากพอ 

และนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดประเภทสัตว์ที่หาได้ยากในท้องทะเลจำนวน 4 ชนิดให้กลายเป็นสัตว์คุ้มครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้วาฬโอมูระจึงกลายเป็นสัตว์ที่มีกฎหมายคอยคุ้มครอง ช่วยให้การอนุรักษ์พวกเขามีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม 

เนื่องจากพวกเขามีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารที่สามารถรักษาความสมดุลให้เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศทางทะเลได้อีกด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับความสำคัญในระดับนานาชาติ 

อย่างไรก็ตามหากเราต้องการที่จะให้พวกเขายังคงสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ไปได้ ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายเหมือนในทุกวันนี้ ก็ต้องมีโครงการที่ช่วยให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดภัยคุกคามทางทะเลบริเวณใกล้ชายฝั่ง เพื่อลดการรบกวนสัตว์ที่อาศัยอยู่ในท้องทะเล 

การติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิดว่าแต่ละตัวมีความเป็นอยู่อย่างไร และที่สำคัญคือการทำโครงการที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถเพิ่มจำนวนประชากรได้มากขึ้นกว่าเดิม 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment