ในช่วงเวลานี้มีสัตว์เลี้ยงเป็นจำนวนมากที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาจากการที่มีคลิปวิดีโอไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ต และเชื่อว่าหลายคนนั้นก็น่าจะรู้จักกับ “นกค็อกคาเทล” ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ความน่ารักของเจ้าจินเจอร์เจ้าของเพลงคุกกี้นั้น อาจทำให้หลายคนตกหลุมรักนกสายพันธุ์ดังกล่าวและต้องการที่จะซื้อหามาเลี้ยงเป็นของตนเองบ้าง แต่ความเป็นจริงแล้วนกแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้เลี้ยงจะต้องศึกษาก่อนที่จะรับพวกเขามาเลี้ยงเพื่อให้เราสามารถดูแลพวกเขาได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องมากที่สุด สำหรับใครที่สนใจนกสายพันธุ์นี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปดูกันว่ามีอะไรที่คุณควรรู้บ้าง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รวมเรื่องที่คุณควรรู้หากต้องการเลี้ยงค็อกคาเทล
หากคุณนั้นชื่นชอบนกสายพันธุ์ค็อกคาเทลเป็นอย่างมากและต้องการที่จะรับพวกเขามาเลี้ยง สิ่งแรกที่คุณควรรู้ก่อนเลี้ยงนกดังกล่าวก็คือ นกสายพันธุ์ดังกล่าวนั้นเป็นนกแก้วสายพันธุ์เล็กที่มีลักษณะโดดเด่นตรงหงอนบนหัวของพวกเขาที่สามารถใช้บ่งบอกอารมณ์ของพวกเขาได้อย่างเช่น รู้สึกสนใจ แปลกใจ หรือดีใจ เป็นต้น พวกเขามีถิ่นกำเนิดในประเทศออสเตรเลีย เป็นนกที่ดีสำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงนกที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเนื่องจากพวกเขานั้นค่อนข้างรักสงบและเรียบร้อย ค่อนข้างเลี้ยงง่าย ไม่มีการส่งเสียงโวยวายสักเท่าไหร่ แถมยังเป็นนกที่ร้องเสียงค่อนข้างเบาอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงนกในห้องพัก อย่างเช่น อพาร์ทเม้นท์ หรือคอนโดมิเนียม
ความพิเศษของนกสายพันธุ์นี้ก็คือหากเป็นตัวผู้พวกเขาจะสามารถร้องเพลงหรือเลียนเสียงมนุษย์ได้ แต่จะทำออกมาในลักษณะของโน้ตเสียงเท่านั้น ไม่สามารถพูดเลียนเสียงออกมาได้อย่างชัดเจนเหมือนกับนกสายพันธุ์อื่นแต่อย่างใด ความจริงแล้วนกสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีเพียงแค่สีเหลืองแก้มแดงเท่านั้น พวกเขานั้นมีหลากหลายสีสันให้เราได้เลือกเลี้ยงตามความชื่นชอบ ก่อนเลี้ยงเราจึงต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าเราชอบสีสันและลวดลายแบบไหน เพื่อที่จะได้ซื้อได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามความต้องการของตนเอง พวกเขามีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 ปีไปจนถึง 15 ปี ดังนั้น ใครที่ต้องการเลี้ยงพวกเขาเราจึงต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า ให้เตรียมใจเลี้ยงพวกเขาในระยะยาวเพราะพวกเขามีอายุที่ยืนยาวไม่แตกต่างจากสุนัขหรือแมวเลยแม้แต่น้อย
ด้วยความที่พวกเขาเป็นนกขนาดเล็กดังนั้นเราจึงควรเลี้ยงในกรงที่มีขนาดตั้งแต่ 2 ฟุตขึ้นไป ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังพอเหมาะพอดีสำหรับนกประมาณ 1-2 ตัว ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรับพวกเขามาเลี้ยงนกมากที่สุดก็คือ ในวัยลูกป้อนที่เริ่มมีขนหนามหรือขนคลุม เป็นช่วงเวลาที่เราอาจจะต้องเอาใจใส่พวกเขาให้มากเสียหน่อย แต่รับรองเลยว่าพวกเขาจะติดเราไม่ต่างจากลูกติดแม่อย่างแน่นอน นอกจากนี้การรับวัยดังกล่าวมาเลี้ยงยังจะช่วยเพิ่มความเชื่องให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษสำหรับนกสายพันธุ์นี้ก็คือ เราจะต้องดูแลเอาใจใส่พวกเขาอย่างสม่ำเสมออยู่ตลอด ควรตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของนกเป็นประจำ
เนื่องจากพวกเขานั้นเป็นนกที่ไม่ค่อยออกอาการสักเท่าไหร่เวลาเกิดอะไรผิดปกติขึ้นหรือมีอาการป่วย เพราะเป็นนกที่มีความอดทนสูงเป็นอย่างมาก จนคนเลี้ยงนกอาจไม่ทันสังเกตได้ว่าพวกเขากำลังมีอาการป่วยอยู่ หากเราสังเกตอยู่เป็นประจำก็จะช่วยให้เราสามารถพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์ได้ทันเมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น
สำหรับอาหารของพวกเขานั้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ประกอบไปด้วย เมล็ดพืช ตั้งแต่เมล็ดข้าวโอ๊ต เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน สำหรับใครที่ไม่รู้ว่านกตัวเองชอบกินอะไรตอนแรกกะจะซื้อแบบเมล็ดพืชรวมขนาดเล็กสำหรับนกสายพันธุ์เล็กไปก่อนก็ได้ รวมไปถึงผักผลไม้ทั้งหลาย อย่างเช่น องุ่น แอปเปิล ฝรั่ง แครอท ผักกาดหอม และผักโขม เป็นต้น จะให้แยกหรือหั่นเป็นลูกเต๋าผสมกับเมล็ดพืชให้กับพวกเขาก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรให้ในช่วงเวลาบ่ายมากกว่าในตอนเช้า
ส่วนที่สองก็คือ อาหารเม็ด ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อได้ตามสายพันธุ์ของพวกเขา สำหรับมือใหม่ขอแนะนำให้ลองอ่านฉลากข้างถุงอาหารสัตว์ ก็จะช่วยให้เราสามารถซื้ออาหารได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมากขึ้นกว่าเดิม สวนน้ำนั้นเราควรเปลี่ยนทุกวันเพื่อให้น้ำสะอาดอยู่เสมอและต้องไม่ลืมเติมน้ำให้พวกเขาอยู่เสมอ เพราะนอกจากพวกเขาจะดื่มน้ำแล้ว บางครั้งอะไรที่แข็งจนเกินไปจนพวกเขาไม่สามารถจะกัดให้แตกได้ด้วยตัวเอง พวกเขาก็จะนำไปแช่น้ำก่อนที่จะกิน ถ้วยน้ำนกจึงมักจะสกปรกอยู่เสมอ
รวมโรคที่ควรระวังสำหรับคนอยากเลี้ยงค็อกคาเทล
ค็อกคาเทล เป็นนกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในกลุ่มคนเลี้ยงนกหรือแม้แต่กลุ่มคนที่สนใจสัตว์เลี้ยง EXOTIC เนื่องจากพวกเขานั้นเป็นนกที่มีความน่ารัก เรียบร้อย นิสัยดี แถมยังมีขนาดตัวที่เล็ก ไม่เสียงดัง แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังคงมีโรคที่ต้องระวังด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น โรคไข่ติดหรือโรคไข่ยาก เกิดจากการที่การสร้างไข่ของนกนั้นไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีโรคติดเชื้อเอเวียนโปลิโอ ซึ่งจะทำให้นกไม่กินอาหาร มีอาการซึม ท้องโต และเสียชีวิตในที่สุด และยังต้องระมัดระวังเรื่องยุงให้ดีเพราะหากพวกเขาถูกกัดก็อาจจะติดเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะได้ โดยอาการส่วนใหญ่จะมีตุ่มแผลและเป็นหนองบริเวณจมูก เท้า และดวงตา
