ห่าน สัตว์มีปีกที่บินไม่เก่ง แต่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

by animalkingdom
412 views
ห่าน

ประเทศไทยของเราบริโภคเนื้อสัตว์มีปีกเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเป็ดและไก่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่หากพูดถึงห่านกลับไม่ค่อยมีใครบริโภคเนื้อของพวกมันสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ดูถูกไม่ได้เหมือนกัน เพราะพวกมันให้ไข่ขนาดใหญ่ที่มีรสชาติเข้มข้นและหอมมัน ในประเทศจีนนิยมบริโภคเนื้อของพวกมันเป็นอย่างมาก และขนของพวกมันยังสามารถเอาไปทำหมอนได้อีกด้วย ถือว่าเป็นสัตว์ที่สามารถขายได้แทบจะทุกส่วนเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสัตว์ปีกชนิดนี้ พวกมันจะมีความน่าสนใจอย่างไร ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จักกับห่านในอีกแง่มุมหนึ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้

ห่าน

ห่าน สัตว์ปีกที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในเชิงพาณิชย์ เพราะพวกมันสามารถขายได้แทบทุกส่วนเลยทีเดียว ลักษณะภายนอกจะมีความคล้ายคลึงกับเป็ด นกเป็ดน้ำ และหงส์ แต่ลักษณะที่โดดเด่นของพวกมันก็คือ ตัวผู้ที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้วจะมีโหนกแถวจะงอยปากด้านบนเป็นตุ่มเนื้อแข็ง ๆ นูนขึ้นมา 

ถึงแม้ว่าห่านจะมีปีก แต่พวกมันก็บินไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มักใช้เวลาอยู่บนพื้นหรือในน้ำมากกว่า พวกมันว่ายน้ำเก่งไม่ต่างอะไรจากเป็ดเลยแม้แต่น้อย และยังเรียกได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมสำหรับเกษตรกรไทย เนื่องจากพวกมันให้เนื้อค่อนข้างเยอะ มีขนาดตัวที่ใหญ่โต ปริมาณโปรตีนแทบจะเทียบเท่าเนื้อไก่ แต่ปริมาณไขมันน้อยกว่ากันเยอะ ค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ

สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยได้ระบุวิวัฒนาการและประวัติความเป็นมาการเลี้ยงห่านเอาไว้ว่า เริ่มต้นตั้งแต่ที่ชาวจีนอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ช่วงแรกมักนิยมเลี้ยงอยู่ใกล้กับลำคลอง หนอง บึง ส่วนใหญ่มักเลี้ยงตามจังหวัดปริมณฑลไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ช่วงเวลานั้นมันจึงเป็นธุรกิจผูกขาดเฉพาะของชาวจีน เนื่องจากคนที่บริโภคเนื้อส่วนใหญ่แล้วก็เป็นชาวจีนด้วยกันเอง

แนะนำสายพันธุ์ห่านที่ได้รับความนิยมในการทำฟาร์มในประเทศไทย

ห่าน

ห่านเป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมในการทำปศุสัตว์ ถึงแม้ว่าคนไทยจะไม่ค่อยนิยมบริโภคสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นสัตว์ที่แทบจะไม่ค่อยมีคู่แข่งจากประเทศอื่น ๆ ในการส่งออกเลย ปัจจุบันธุรกิจการทำฟาร์มห่านจึงกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เกษตรกรชาวไทยหันมาให้ความสนใจ ทำให้ปัจจุบันมีกว่า 7 สายพันธุ์ที่ถูกเลี้ยงมากที่สุดในไทย ประกอบไปด้วย 

  • สายพันธุ์จีน เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักสูงสุดกว่า 5.5 กิโลกรัม สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือชนิดที่มีขนสีขาวและจะงอยปากสีส้ม มีนิสัยค่อนข้างดุร้ายและราคาสูง ทำให้นิยมเลี้ยงเพื่อเฝ้าบ้านมากกว่า ส่วนอีกชนิดหนึ่งจะมีขนเป็นสีน้ำตาลเทา จะงอยปากเป็นสีดำ มักเลี้ยงเป็นคู่เพื่อบริโภคเนื้อเป็นหลัก ออกไข่ได้เยอะกว่าสายพันธุ์อื่นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
  • สายพันธุ์เอ็มเด็น ห่านสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดจากเยอรมนี ลักษณะที่โดดเด่นคือ มีปากที่แข็งแรงเป็นสีส้ม ตัวเตี้ย ตัวผู้จะไม่มีโหนก ขนตามลำตัวจะเป็นสีเทาเข้มผสมสีขาว แต่ขนาดตัวใหญ่โต เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักได้สูงสุดกว่า 10 กิโลกรัม จัดเป็นสายพันธุ์ที่ให้เนื้อชั้นดีและนิยมเลี้ยงในทั้งทวีปยุโรปและอเมริกา
  • สายพันธุ์ตูลูส มีปากเป็นสีส้มแดงและลักษณะเด่นคือขอบตาสีส้ม ขาสั้นจนเตี้ยม่อต้อ ลำตัวอ้วนกลม มีน้ำหนักสูงสุดกว่า 12 กิโลกรัม ถือกำเนิดจากเมืองตูลูส ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อน สามารถออกไข่ได้เยอะ
ห่าน
  • สายพันธุ์แคนาดา จากหัวจนถึงคอจะมีขนเป็นสีดำ มีแถบสีขาวตรงแก้มทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงท้องด้านล่างขนเป็นสีครีมอ่อน ส่วนด้านบนถูกปกคลุมด้วยขนสีเทาอ่อน น้ำหนักตัวเมื่อโตเต็มวัยจะอยู่ที่ 5.5 กิโลกรัม ข้อเสียคือออกไข่น้อยและออกไข่ค่อนข้างช้า แต่บินเก่งที่สุดในบรรดาทุกสายพันธุ์ มีความสามารถในการกำจัดศัตรูพืชที่ยอดเยี่ยม แถมยังดุร้ายก้าวร้าวอีกต่างหาก
  • สายพันธุ์ฟิลกริม เป็นสายพันธุ์ห่านที่ลักษณะภายนอกดูน่ารัก แถมเรายังสามารถแยกตัวผู้และตัวเมียออกจากกันได้ด้วยสีขน โดยตัวผู้จะมีขนเป็นสีขาวครีม ส่วนตัวเมียจะมีขนเป็นสีน้ำตาลอมเทา ได้รับความนิยมในการบริโภคเนื้อเนื่องจากขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ แต่ปริมาณไข่ที่ได้อาจน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น
  • สายพันธุ์แอฟริกัน เป็นสายพันธุ์ที่ดูสง่างาม ตามลำตัวปกคลุมไปด้วยขนสีขาวสลับกับสีน้ำตาลอมเทา ไม่มีโหนก ใต้คอไม่หย่อนยาน มีแถบสีเข้ม ๆ อยู่บริเวณหลังคอเริ่มตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงไหล่ เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักตัวประมาณ 10 กิโลกรัม
  • สายพันธุ์อียิปต์เชียน เป็นสายพันธุ์ห่านที่ลักษณะแตกต่างจากสายพันธุ์อื่นมากที่สุด หัวของพวกมันมักเป็นสีขาวหรือสีเทา จะงอยปากเป็นสีแดงเข้มอมม่วง ปลายปีกจะเป็นขนสีดำ ตามลำตัวเป็นขนสีน้ำตาล ลักษณะของขนจะคล้ายกับนก เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเพียง 4.5 กิโลกรัม สามารถบริโภคไข่ได้ แต่ออกไข่น้อย คนจึงนิยมเลี้ยงเพื่อความสวยงามมากกว่า

ห่านยอดนิยม 4 สายพันธุ์ในจีนที่สร้างรายได้สูงที่สุด

ห่าน

สำหรับคนที่อยากเลี้ยงห่านเพื่อสร้างรายได้ด้วยการส่งออกไปยังต่างประเทศ ในปี 2563 มณฑลกวางตุ้งบริโภคเนื้อสัตว์สายพันธุ์นี้ไปมากกว่า 170 ล้านตัวเลยทีเดียว พวกมันจึงถือว่าเป็นสัตว์ที่สามารถสร้างรายได้ได้ค่อนข้างสูง และหากคุณต้องการเลี้ยงพวกมันเพื่อส่งออกและสร้างรายได้ให้มากที่สุด เราขอแนะนำ 4 สายพันธุ์นี้เลย

  1. สายพันธุ์ขาวว่านซี เป็นสายพันธุ์ห่านที่นิยมเลี้ยงทางตะวันตกของประเทศจีน มีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วเป็นอย่างมาก สามารถอดทนต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังมีความสามารถในการหาอาหารกินเอง เนื้อและขนก็มีคุณภาพสูง เมื่อโตเต็มวัยสามารถมีน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 6.5 กิโลกรัม เริ่มวางไข่เมื่อมีอายุได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น
  2. สายพันธุ์ป่าจีน นิยมเพาะเลี้ยงกันบริเวณมณฑลอันฮุย มีขนาดปานกลาง แต่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วทันใจ ร่างกายแข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เมื่อโตเต็มวัยจะสามารถมีน้ำหนักสูงสุดได้กว่า 7 กิโลกรัม เริ่มวางไข่ครั้งแรกหลังจากมีอายุ 8 เดือนขึ้นไป
  3. สายพันธุ์ขาวเสฉวน ตัวอาจจะเล็กและดูเพรียวบาง เมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนักได้เพียง 5 กิโลกรัมเท่านั้น แต่พวกมันจัดเป็นสายพันธุ์ห่านที่เนื้อคุณภาพสูงมากที่สุด ทำให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงตามไปด้วย ตัวเมียจะเริ่มวางไข่หลังจากมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
  4. สายพันธุ์ลูกผสม เกิดจากความเพาะเลี้ยงนำเอาสายพันธุ์ขาวว่านซีตัวผู้มาผสมข้ามสายพันธุ์กับตัวเมียพันธุ์ขาวเสฉวน ปริมาณการออกไข่จึงมีความใกล้เคียงกับสายพันธุ์ขาวเสฉวน แต่อัตราการเจริญเติบโตในช่วงแรกจะใกล้เคียงกับสายพันธุ์ขาวว่านซี ค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มเกษตรกร

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเหล่าสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment