เป็ด สัตว์ผู้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความสามารถที่หลากหลาย

by animalkingdom
76 views
เป็ด

เวลาที่เราเห็นคนมีความสามารถที่หลากหลาย แต่ไปไม่สุดสักทาง เราก็มักจะเปรียบเปรยคนคนนั้นว่าเป็น “เป็ด” เพราะสัตว์สายพันธุ์นี้ถึงจะบินได้ แต่ก็ไม่เก่งเท่านก ถึงจะว่ายน้ำได้ ก็ไม่เก่งเท่าปลา ทำให้พวกมันกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีความสามารถหลากหลายแต่ไม่เชี่ยวชาญสักอย่างนั้นเอง แต่ที่สำคัญคือ พวกมันสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นการขายเนื้อหรือขายไข่ก็ตาม วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสัตว์สายพันธุ์นี้ให้มากขึ้น พวกมันจะมีลักษณะเป็นอย่างไรและจะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จักกับเป็ด บินก็ได้ ว่ายน้ำก็ดี สัตว์ที่มีความน่าสนใจกว่าที่คุณคิด

เป็ด

เป็ด เป็นสัตว์ปีกก็จริง แต่ในภาพจำเรามักเห็นพวกมันว่ายน้ำอยู่ตามห้วยหนองคลองบึงมากกว่าเห็นพวกมันบิน เพราะพวกมันอยู่ในวงศ์นกเป็ดน้ำ ทำให้ถึงแม้ว่าจะมีปีก แต่ก็สามารถว่ายน้ำได้ดีนั่นเอง ลักษณะที่โดดเด่นของพวกมันก็คือ มีจะงอยปากแบน ๆ เท้าแบน ๆ เป็นพังผืด เพื่อให้การว่ายน้ำสะดวกขึ้น ตามลำตัวปกคลุมด้วยขนหลากหลายสีสันทั้งสีขาว สีน้ำตาล สีม่วง สีเขียว และสีชมพู

เทียบกับขนาดตัวแล้วเป็ดถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่าห่าน ตามธรรมชาติมักกินสัตว์ตัวเล็ก ปลา และพืชน้ำเป็นอาหารหลัก ที่สำคัญคือสามารถพบได้ทั้งในบริเวณน้ำจืดและน้ำเค็ม นิยมเลี้ยงอยู่ 2 รูปแบบ ประกอบไปด้วยการเลี้ยงเพื่อนำไปขาย และการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม

อยากเลี้ยงเป็ดต้องให้กินอะไรเป็นอาหารบ้าง

เป็ด

เป็ดเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในการเลี้ยงสัตว์และการทำปศุสัตว์ สำหรับใครที่สนใจอยากเลี้ยง อาหารจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ขึ้นอยู่กับว่าเลี้ยงในรูปแบบไหน ดังนี้ 

  1. อาหารอัดเม็ดสำเร็จรูป เป็นอาหารที่สะดวกและอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ได้รับการคำนวณมาเป็นอย่างดีแล้วว่า ในอาหารจะต้องมีสารอาหารอะไรบ้างเพื่อให้เป็ดสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่ก็นับว่าเป็นอาหารที่มีราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน
  2. อาหารตามธรรมชาติ เป็นอาหารที่เราไปหาให้พวกมันเองตามธรรมชาติ ก่อนจะนำมาผสมกันเพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพด รำข้าว หรือข้าวเปลือก ค่อนข้างหาง่ายสำหรับเกษตรกร แถมยังราคาถูก ช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงได้เป็นอย่างดี โดยมี 2 สูตรดังนี้
  • สูตรอาหารธรรมดา ให้นำเอารำข้าวจำนวน 20 กิโลกรัม ผสมกับข้าวโพดเม็ดจำนวน 5 กิโลกรัม ข้าวโพดปั่นต้นจำนวน 5 กิโลกรัม และอาหารเป็ด 10 กิโลกรัม รวมเข้ากับน้ำจำนวน 1 ถังสี คลุกให้เข้ากันแล้วใส่ข้าวเปลือกตามลงไป
  • สูตรเร่งการเจริญเติบโต ให้นำเอาอาหารสำเร็จรูป 30 กิโลกรัม ผสมเข้ากับรำข้าวประมาณ 30-40 กิโลกรัม ปลายข้าวจำนวน 10 กิโลกรัม กากมะพร้าวตากแห้งอีก 10 กิโลกรัม จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วสามารถให้เป็ดของคุณกินได้เลย

แนะนำสายพันธุ์เป็ด สายพันธุ์ไหนให้ไข่ ให้เนื้อ เลือกเลี้ยงยังไงให้ตรงตามความต้องการ

เป็ด

เป็ดเป็นสัตว์ที่เราสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพได้ เพราะเราสามารถขายได้ทั้งเนื้อและไข่ สร้างรายได้จนกลายเป็นอีกหนึ่งสัตว์เศรษฐกิจที่มีความสำคัญของประเทศไทย สำหรับใครที่สงสัยว่าสายพันธุ์ไหนให้ไข่ สายพันธุ์ไหนให้เนื้อ วันนี้เรามีมาแนะนำ ดังต่อไปนี้ 

สายพันธุ์ไข่ 

  • สายพันธุ์กากีแคมเบลล์ เป็นสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศอังกฤษ ได้รับการยกย่องว่าสามารถให้ไข่ได้มากที่สุดในทุกสายพันธุ์ ใน 1 ปีสามารถออกไข่ได้มากกว่า 300 ฟอง ตัวผู้มักมีขนตามลำตัวเป็นสีน้ำตาล บริเวณหน้าอกจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ส่วนหัวเป็นสีเขียว ส่วนตัวเมียจะมีขนสีน้ำตาลปกคลุมตลอดทั้งลำตัว สามารถเริ่มให้ไข่ได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือนขึ้นไป 
  • สายพันธุ์อินเดียนรันเนอร์ เป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะโดดเด่นตรงขาที่ตั้งตรงมากกว่าสายพันธุ์อื่น ลักษณะดูใกล้เคียงกับนกเพนกวิน มีความสามารถในการวิ่งอย่างรวดเร็ว ขนาดตัวค่อนข้างเล็ก น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น มีทั้งหมด 3 ชนิด ประกอบไปด้วยขนสีขาว ขนสีเทา และขนลาย สามารถออกไข่ได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือนครึ่ง ใน 1 ปีจะออกไข่กว่า 356 ฟอง 
  • สายพันธุ์นครปฐม เป็นสายพันธุ์พื้นบ้านในประเทศไทย ลำตัวปกคลุมไปด้วยขนสีน้ำตาล ส่วนหน้าอกและหน้าท้องจะถูกปกคลุมด้วยขนสีขาว บริเวณหัวขนจะเป็นสีดำอมเขียว เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น
  • เป็ดปากน้ำ เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์พื้นเมืองในประเทศไทยที่ตัวเล็กมาก แต่กลับสามารถให้ไข่ได้เยอะสุด ๆ ข้อเสียคือ กว่าจะเริ่มให้ไข่ได้ต้องรออายุประมาณ 5-6 เดือนขึ้นไป แต่สามารถผลิตไข่ได้ถึงปีละ 300 ฟองเลยทีเดียว
เป็ด

สายพันธุ์เนื้อ

  • สายพันธุ์ปักกิ่ง พวกมันถือกำเนิดขึ้นในประเทศจีน ลักษณะรูปร่างใหญ่โต ตามลำตัวเป็นขนสีขาวล้วน จะงอยปากเป็นสีเหลืองอมส้ม เลี้ยงง่าย แต่ให้ไข่น้อย ออกไข่เพียงปีละ 160 ฟองเท่านั้น จึงได้รับความนิยมในการขายเนื้อและขนมากกว่า
  • สายพันธุ์ปั๊วฉ่าย เป็นสายพันธุ์ที่ถือกำเนิดจากประเทศจีนอีกสายพันธุ์หนึ่ง สายพันธุ์นี้เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ทำให้ลูกทุกตัวเป็นหมันทั้งหมด แต่ข้อดีก็คือมีโครงสร้างลำตัวที่ใหญ่ โตเร็ว กินง่าย ไม่ส่งเสียงร้องดังน่ารำคาญ คุณภาพเนื้อก็ยอดเยี่ยมกว่าสายพันธุ์อื่น
  • เป็ดเทศ เป็นสายพันธุ์ที่เราอาจคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อเสียคือหากผสมข้ามสายพันธุ์ก็จะทำให้ลูกที่ออกมากลายเป็นหมัน แต่พวกมันมีขนาดตัวที่ใหญ่โต สามารถมีน้ำหนักตัวได้มากกว่า 4.5 กิโลกรัม มี 2 ชนิด ประกอบไปด้วยขนสีขาวและขนสีดำ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเหล่าสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment