นาก สัตว์ที่ทั้งฉลาดและน่ารักจนหลายคนอยากจะเลี้ยงเอาไว้เอง 

บนโลกอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน เวลาเราดูคลิปก็มักจะมีคลิปสัตว์น่ารัก ๆ ให้เราได้เห็นอยู่เสมอ และหนึ่งในสัตว์ที่หลายคนชื่นชอบก็คือ นาก พวกเขาไม่ได้มีดีเพียงแค่ความน่ารักเท่านั้น แต่ยังฉลาดหลักแหลมเป็นอย่างมากอีกต่างหาก ซึ่งพฤติกรรมของนากสามารถทำให้มนุษย์อย่างเราใจละลายได้เลยทีเดียว สำหรับใครที่ชื่นชอบพวกเขา Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับนาก สิ่งมีชีวิตที่ทั้งน่ารักและฉลาดจนโด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ต

นาก จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมวงศ์เดียวกับเพียงพอนและวีเซล ที่ได้รับความนิยมบนโลกอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน เพราะพวกเขามีหน้าตาที่น่ารักแถมยังมีความฉลาดหลักแหลมอีกต่างหาก ในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทั้งหมด 4 ชนิด ประกอบไปด้วย สายพันธุ์เล็กเล็บสั้น สายพันธุ์ใหญ่ขนเรียบ สายพันธุ์ใหญ่ธรรมดา และสายพันธุ์จมูกขน 

ซึ่งทุกสายพันธุ์จัดว่าเป็นสัตว์คุ้มครองทั้งหมด เราสามารถพบนากได้ทั่วไปตามธรรมชาติโดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้แหล่งน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน แม่น้ำ ลำคลอง บึง ห้วย รวมไปถึงทะเลสาบ ไปจนถึงพื้นที่ในการทำเกษตรกรรมของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็น นาข้าว สวนผลไม้ หรือแม้แต่นากุ้ง และยังสามารถพบได้ทั่วไปทุกพื้นที่ทั่วโลก 

สำหรับสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดคือ สายพันธุ์ยักษ์ ซึ่งอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้บริเวณลุ่มแม่น้ำอเมซอน และยังมีบางสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในทะเลอีกด้วยอย่างเช่น สายพันธุ์ทะเล ที่ได้รับความนิยมบนโลกอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก เราจะเห็นคลิปพวกเขานอนหงายท้องแล้วเอาหินทุบเปลือกหอยเพื่อกินเป็นอาหาร ซึ่งพวกเขาที่อยู่ในคลิปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

นากแต่ละสายพันธุ์จะมีขนาดตัวที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีขนาดตัวที่ใหญ่ไม่เกินแมวตัวโตเต็มวัย มีขนปกคลุมทั่วทั้งลำตัวเป็นสีน้ำตาลอมเทา เป็นขน 2 ชั้นโดยชั้นในจะเป็นขนที่ละเอียดและนุ่ม ส่วนชั้นนอกจะเป็นขนที่หยาบกระด้างเพื่อช่วยให้พวกเขาแห้งเร็วขึ้นเมื่อขึ้นมาจากน้ำ 

พวกเขาเป็นสัตว์สี่เท้าแต่สามารถยืน 2 ขาได้ ขาหน้าของพวกเขานั้นจะมีนิ้วเหมือนกับมือของมนุษย์เลยทีเดียว ส่วนขาหลังนั้นระหว่างนิ้วของพวกเขาจะมีพังผืดที่มีลักษณะคล้ายกับเป็ด สาเหตุก็เป็นเพราะว่าถึงจะเป็นสัตว์บกแต่พวกเขานั้นก็เป็นสัตว์ที่สามารถว่ายน้ำได้แถมยังว่ายได้ดีอีกด้วย 

เนื่องจากพวกเขาต้องหากินในน้ำ ดังนั้นจึงต้องว่ายน้ำให้มีความคล่องแคล่ว อาหารส่วนใหญ่ของนากจะเป็นปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็ก แต่บางสายพันธุ์ก็อาจจะกินสัตว์สายพันธุ์อื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองก็ได้เช่นเดียวกัน 

ด้วยความที่เป็นสัตว์กินเนื้อ พวกเขาจะมีฟันที่ทั้งแข็งแรงและแหลมคมเป็นอย่างมาก หนวดยังสามารถใช้ในการจับความเคลื่อนไหวของสิ่งต่าง ๆ เมื่ออยู่ใต้น้ำได้อีกด้วย โดยปกติแล้วพวกเขาจะหากินทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน มีพฤติกรรมอยู่รวมตัวกันเป็นฝูงขนาดเล็ก โดยจะขุดรูอยู่ใกล้กับริมตลิ่งเพื่อใช้เป็นรังในการอยู่อาศัยรวมไปถึงการเลี้ยงลูก

นากเป็นสัตว์ที่ทั้งคล่องแคล่วว่องไวไม่ว่าจะบนบกหรือในน้ำก็ตาม เวลาที่ดำน้ำพวกเขาสามารถปิดจมูกเอาไว้ได้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า และเห็นตัวเล็กแบบนี้พวกเขาสามารถดำน้ำได้ลึกกว่า 60 ฟุต แถมยังกลั้นหายใจได้กว่า 4 นาทีอีกด้วย 

การว่ายน้ำของนากนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด เพราะจะใช้การเคลื่อนที่ด้วยการบิดตัวไปมา โดยพวกเขาสามารถออกเดินทางล่าเหยื่อได้ไกลกว่า 20 กิโลเมตรเลยทีเดียว พวกเขาสามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกได้ตลอดทั้งปี 

ลูกแต่ละครอกนั้นจะมีประมาณ 3 ตัว หลังจากคลอดแล้วพวกเขาก็จะอาศัยอยู่ภายในรังถึง 5 สัปดาห์ โดยตัวแม่จะนอนกกลูกเอาไว้เพื่อให้ความอบอุ่น ส่วนตัวพ่อนั้นก็จะทำหน้าที่ออกไปหาอาหารและดูแลเรื่องความปลอดภัย จนเมื่อลูกอายุครบ 7 สัปดาห์จึงออกจากรัง แต่ก็ยังคงอยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่ตามเดิม 

รู้หรือไม่ นากเป็นสัตว์คุ้มครองที่ไม่สามารถครอบครองได้แถมยังเคยเกือบสูญพันธุ์มาแล้ว 

ด้วยความที่นากเป็นสัตว์ที่มีความน่ารักน่าชังเป็นอย่างมากแถมยังชาญฉลาดอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นในอดีตพวกเขาจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จากน้ำมือมนุษย์เลยทีเดียว ผู้คนล่าพวกเขาเพื่อเอาทั้งขนและหนังมาทำเป็นเสื้อขนสัตว์ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปยุโรปที่มีการล่ากันอย่างหนัก จนทำให้หลายสายพันธุ์ต้องเกือบสูญพันธุ์ เพราะเสื้อขนสัตว์เพียงแค่ 1 ตัวต้องใช้นากจำนวนกว่า 40 ตัวเลยทีเดียว จนกระทั่งในปี 1975 กองทุนสัตว์ป่าโลกก็ได้เรียกร้องให้รัฐบาลในแต่ละประเทศ ทำการยกเลิกการค้าหนังของพวกเขา 

ซึ่งกองทุนก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จนทำให้พวกเขาได้รับความคุ้มครองมาจนถึงในปัจจุบัน แม้ว่าในบางพื้นที่จะยังคงมีการลักลอบล่าและครอบครองพวกเขาอยู่ก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการศึกษาพบว่า พวกเขานั้นยังคงมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ เนื่องจากพวกเขาถูกจับจากธรรมชาติมาเป็นสัตว์เลี้ยง 

โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่ในประเทศไทย ยิ่งเป็นประเทศไทยยิ่งพบว่า มีการขายพวกเขาในตลาดมืดสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 รองมาจากประเทศอินโดนีเซียเลยทีเดียว และประเทศของเรายังนับเป็นประเทศต้นทางที่มีการลักลอบค้าพวกเขาทั้งในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย 

ดังนั้น ถึงแม้ว่านากจะน่ารักมากแค่ไหนก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถเลี้ยงพวกเขาได้แต่อย่างใด พวกเขาเป็นสัตว์นักล่าที่เมื่อโตขึ้นมาก็จะมีพฤติกรรมก้าวร้าวฉุนเฉียว แต่เมื่อคุณนำมาพวกเขากลับไปปล่อยตามธรรมชาติตามเดิม พวกเขาก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะไม่เคยอยู่แบบนั้นมาก่อน 

มันไม่ต่างอะไรจากการฆ่าพวกเขาให้ตายทั้งเป็น และที่สำคัญก็คือในประเทศไทยพวกเขาจัดเป็นสัตว์คุ้มครองที่มีการกำหนดโทษทางกฎหมาย ในกรณีเลี้ยงจะถูกจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ค้าขายไม่ว่าจะเป็นตัวหรือเป็นชิ้นส่วนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับเลยทีเดียว