สิงโตขาว สัตว์ที่คุณคาดไม่ถึงว่าสามารถเลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมาย

by animalkingdom
460 views
สิงโตขาว

มีสัตว์อยู่หลายสายพันธุ์ที่เราสามารถเลี้ยงได้อยู่ภายในบ้านอย่างเช่น สุนัขหรือแมว และมีอีกหลากหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว ที่หลายคนคาดไม่ถึงว่าสามารถเลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมายอย่างเช่น สิงโตขาว ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ พวกเขานั้นดูดุร้ายและไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงสักเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเราเลี้ยงตั้งแต่เด็กพวกเขาก็จะมีความเชื่องใกล้เคียงกับแมว เพียงแต่อาจจะมีพละกำลังที่ค่อนข้างสูง ที่จะต้องใช้ความระวังในการเลี้ยงสักเล็กน้อย และในวันนี้ Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกันว่า หากเราต้องการเลี้ยงพวกเขานั้นมีอะไรที่เราควรรู้บ้าง

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับสิงโตขาว สัตว์ที่คุณสามารถครอบครองเป็นของตัวเองได้

สิงโตขาว

สิงโตขาวนั้นเป็นสัตว์ป่าที่ดูไม่มีวี่แววเหมือนกับสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์อื่นอย่างแมวหรือสุนัขเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เทียบกับบรรดา Exotic Pet ด้วยกัน พวกเขาก็ยังดูไม่น่าเลี้ยงอยู่ดีสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เชื่อว่า คงมีคนจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน ที่มีพวกเขาเป็นสัตว์ในดวงใจ ความจริงแล้วการที่พวกเขามีขนบนลำตัวเป็นสีขาวนั้น ไม่ได้เกิดจากภาวะผิวเผือกแต่อย่างใด พวกเขานั้นก็เหมือนกับเพื่อนร่วมสายพันธุ์ที่มีขนสีน้ำตาล เนื่องจากพวกเขามีเม็ดสีทั้งบริเวณในดวงตา อุ้งเท้า รวมไปถึงริมฝีปาก แต่พวกเขานั้นมีผิวด่างทำให้ไม่มีเม็ดสีบริเวณขนและผิวหนัง สีของพวกเขาจึงแตกต่างออกไปจากเพื่อนร่วมสายพันธุ์ที่มีสีน้ำตาลหรือสีเหลืองนวล หากเปรียบเทียบให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ พวกเขาเหมือนกับเสือโคร่งขาว นั่นเอง

ดังนั้น พวกเขาจึงจัดเป็นสัตว์หายากที่มีความต้องการไม่น้อย ทั้งในตลาดมืดและแบบถูกกฎหมาย ในตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กนั้น พวกเขาจะมีสีขาวสะอาดเหมือนกับกระดาษเลยทีเดียว แต่เมื่อผ่านไปหลายเดือนพอเติบโตขึ้น สีขนของพวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นสีงาช้าง สีครีม หรือสีขาวนวล จะไม่ได้เป็นสีขาวสะอาดเหมือนกับกระดาษตามที่เราเห็นรูปภาพสวย ๆ บนอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับอยู่ดีว่า พวกเขาเป็นสัตว์ดุร้ายที่มีความสวยงามไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน 

สิงโตขาว

พวกเขานั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณตะวันออกของทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ อาหารตามธรรมชาติของพวกเขานั้นจะเป็นสัตว์ทุกชนิด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย ม้าลาย แรด วิลดีบีส และแอนติโลป ปัจจุบันพวกเขามีสถานภาพเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีแนวโน้มการสูญพันธุ์ ตามสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์และยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกจัดให้อยู่ในอนุสัญญาไซเตสบัญชีหมายเลข 2 อีกด้วย ดังนั้นหากคุณต้องการครอบครองพวกเขาอย่างถูกกฎหมาย คุณก็ต้องทำการขออนุญาตให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการครอบครองเถื่อนที่มีความผิดตามกฎหมาย 

ราคาขายของพวกเขานั้นก็จะแตกต่างกันออกไป เริ่มจากตัวลูกสีขาวที่มีอายุตั้งแต่ 15 วันไปจนถึง 30 วัน ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 5.5 แสนบาทเป็นจนถึง 2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสีและความขาวของพวกเขา หากเป็นสีน้ำตาลธรรมดาทั่วไปราคาจะค่อนข้างถูกอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท หากเป็นลูกผสมระหว่างเสือโคร่งและสิงโต ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2 ล้านบาท หากเป็นแบบสีขาวตาสีฟ้า ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 2 ล้านบาทขึ้นไป อย่างไรก็ตามราคานั้นจะขึ้นอยู่กับฟาร์มแต่ละฟาร์มจะตั้งราคา รวมไปถึงสีและรูปทรงเช่นเดียวกัน 

สิงโตขาว

หากเรานำเอาพวกเขามาเลี้ยงก็จะต้องให้อาหารที่แตกต่างจากในธรรมชาติ เนื่องจากจะช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืนมากขึ้นกว่าเดิม อายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปจนถึง 3 เดือน เราจะต้องให้พวกเขากินนมสำหรับลูกแมวพิเศษที่มีชื่อว่า KMR ราคาอยู่ที่ถุงละ 5,000 บาท ในแต่ละเดือนตัวหนึ่งจะกินประมาณ 4 ถุง ในช่วง 3 เดือนแรกค่าอาหารของพวกเขาจึงตกอยู่ที่ประมาณเดือนละ 20,000 บาท หลังจากอายุ 4 เดือน ก็ให้พวกเขากินเนื้อสุกผสมกับนม พออายุมากกว่า 5 เดือนขึ้นไป เราถึงสามารถให้พวกเขากินเนื้อดิบใกล้เคียงกับธรรมชาติได้ โดยเนื้อที่จะให้พวกเขานั้นขอแนะนำให้เป็นเนื้อแดงอย่างเช่น เนื้อหมูจะดีกว่า เนื่องจากมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพวกเขามากกว่าเนื้อสีขาวอย่างพวกเนื้อไก่ ในวันหนึ่งพวกเขาจะกินประมาณ 4 กิโลกรัมต่อตัว หากเทียบราคาอาหารในตอนเด็กแล้วค่อนข้างถูกกว่า เพราะสามารถผสมโครงกระดูกลงไปปนได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการกินของพวกเขาก็ยังนับว่าแพงอยู่ดีหากเทียบกับสัตว์ชนิดอื่น 

สรุปสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเลี้ยงสิงโตขาว 

สิงโตขาว

หากคุณอยากจะมีสิงโตขาวเป็นของตัวเอง ก่อนเลี้ยงสัตว์สายพันธุ์นี้มีหลายสิ่งเลยทีเดียวที่คุณควรรู้ เนื่องจากพวกเขาเป็น Exotic Pet ที่ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในระดับหนึ่ง จึงจะสามารถเลี้ยงพวกเขาได้อย่างมีคุณภาพ เริ่มต้นจากงบประมาณ เราต้องพิจารณาก่อนว่าเรามีงบประมาณเพียงพอกับการซื้อและการดูแลเขาไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัยหรือไม่ เพราะนอกจากจะมีค่าอาหารที่สูงแล้ว เรายังต้องฉีดวัคซีน พาพวกเขาไปรักษาเมื่อมีอาการเจ็บป่วย พวกเขาเป็น Exotic Pet ที่มีขนาดใหญ่ ต้องพาไปยังโรงพยาบาลสัตว์เฉพาะทางที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสัตว์ธรรมดาทั่วไปตามปกติ ต่อมาก็คือการเตรียมพื้นที่เลี้ยงพวกเขา ซึ่งควรมีพื้นที่เลี้ยงพวกเขาอย่างน้อย 4 X 4 เมตรขึ้นไป 

นอกจากนี้ยังต้องเตรียมพื้นที่เอาไว้พวกเขาได้วิ่งเล่นออกกำลังกาย เพื่อช่วยลดความเครียดอีกด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้พวกเขามีพฤติกรรมที่ดุร้ายก้าวร้าวตามมาได้ ต้องดูว่าความเหมาะสมของสถานที่มีมากน้อยแค่ไหน เป็นเขตชุมชนที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์ขนาดเล็กตัวอื่นที่พวกเขาอาจจะไปทำอันตรายหรือไม่ รวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวของเราที่เป็นเด็กเองก็ตาม และที่สำคัญมากที่สุดก็คือการทำให้ทุกขั้นตอนถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากฟาร์มที่มีใบอนุญาต การฝังไมโครชิพ และการทำใบขอครอบครองอย่างถูกต้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment