หมาป่าไคโยตี สัตว์สุดเท่ที่หลายคนตกหลุมรัก

by animalkingdom
438 views
หมาป่าไคโยตี

สังเกตหรือไม่ว่าบรรดาสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่านั้นมักจะมีความเท่เป็นของตัวเอง ยิ่งหากพวกเขาเป็นนักล่าด้วยแล้วยิ่งดูเท่มากขึ้นไปอีก หมาป่าไคโยตี ก็เห็นหนึ่งในนักล่าแห่งผืนป่าที่มีความเท่ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นสุนัขแต่ก็มีใบหน้าที่ดุดัน มีร่างกายที่แข็งแกร่งใหญ่โตแต่ก็ดูคล่องแคล่วว่องไว เพียงแค่เห็นรูปของพวกเขาในอินเตอร์เน็ต เราก็คงจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก แต่หากเราไปเห็นตัวเป็น ๆ ในธรรมชาติก็คงต้องวิ่งหนีอย่างแน่นอน ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าหมาป่าไคโยตีเป็นสัตว์ที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และในวันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน พวกเขาจะมีลักษณะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

หมาป่าไคโยตี สัตว์สุดแข็งแกร่งในป่าดงพงไพร

หมาป่าไคโยตี

หมาป่าไคโยตี เป็นสัตว์ป่าที่ถูกจัดให้อยู่ในชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นับว่าเป็นหมาป่าชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูลสุนัขใกล้เคียงกับสุนัขบ้านที่เราเลี้ยงกันนั่นเอง พวกเขามีพฤติกรรมการออกล่าเหยื่อตัวเดียวมากกว่าอยู่รวมกันเป็นฝูง 

แต่บางครั้งหลังจากฤดูผสมพันธุ์ เราอาจจะเห็นพวกเขาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะด้วยความที่พวกเขาเลี้ยงลูกด้วยนมทำให้ในช่วงแรกลูกต้องอาศัยอยู่กับแม่ก่อน จนกว่าจะแข็งแรงและพร้อมจะออกล่าเหยื่อตามลำพังต่อไปในอนาคต 

พวกเขาอาศัยอยู่ในเขตทุ่งราบและสามารถพบได้ทั่วไปในแถวทวีปอเมริกาเหนือ แต่สถานที่ที่หมาป่าไคโยตีถูกค้นพบเป็นครั้งแรกนั้นอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในสหรัฐอเมริการวมไปถึงในคอสตาริกา ก่อนที่ภายหลังพวกเขาจะแพร่พันธุ์และขยายถิ่นที่อยู่มาจนถึงแถบอเมริกาเหนือนั่นเอง 

หมาป่าไคโยตี ถูกค้นพบและมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เป็นครั้งแรกในปี 1819 โดยนักธรรมชาติวิทยาที่มีชื่อว่าโทมัส เซย์ ไม่ไกลจากแม่น้ำมิสซูรีระหว่างที่ออกเดินทางสำรวจที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาล ชื่อของพวกเขานั้นมาจากภาษาสเปน โดยมีพื้นฐานมาจากภาษานาวัตล์สามารถแปลได้ว่า สุนัขร้องเพลง 

หมาป่าไคโยตี

ลักษณะทั่วไปของหมาป่าไคโยตีนั้น มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากและมันช่วยให้พวกเขากลายเป็นที่จดจำได้เป็นอย่างดี พวกเขาสามารถมีขนได้หลากหลายสีสันแต่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีขนเป็นสีน้ำตาลอมเทาโดยเฉพาะขนบริเวณด้านหลังจะที่จะมีสีเข้มเป็นพิเศษ ขนบริเวณหน้าท้องจะมีที่สีอ่อนกว่าส่วนอื่นบนร่างกาย 

พวกเขามีต่อมกลิ่นอยู่บริเวณปลายหางและมักจะมีขนเป็นสีดำอยู่เสมอ ผลัดขนปีละครั้งตั้งแต่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม ก่อนที่ขนจะกลับมานุ่มฟูอีกครั้งหนึ่ง พวกเขามีใบหน้าทรงสามเหลี่ยม จมูกและปากจะยื่นยาวออกมา มีดวงตาคมกริบทรงอัลมอนด์

ใบหูเป็นทรงสามเหลี่ยมที่ค่อนข้างใหญ่หากเทียบกับขนาดหัวของพวกเขา และเท้าก็มีขนาดเล็กเป็นพิเศษหากเทียบกับขนาดตัว เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็วสมกับการเป็นสัตว์นักล่า 

ขาของหมาป่าไคโยตีนั้นจะมีขนาดที่เล็ก เรียวยาว แต่มันก็ทรงพลังไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นนักวิทยาศาสตร์ยังสังเกตเห็นอีกด้วยว่า พวกเขานั้นมีกระดูกหุ้มสมองที่มีความใกล้เคียงกับสุนัขบ้านมากกว่าเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของพวกเขาเสียอีก 

พวกเขาสามารถมีลำตัวยาวสูงสุดได้กว่า 86 เซนติเมตรแบบไม่รวมหาง ส่วนความยาวหางนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อยืนขึ้นจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 66 เซนติเมตร วัดจากไหล่ถึงเท้า น้ำหนักสูงสุดไม่เกิน 20.9 กิโลกรัม หากเทียบขนาดให้เห็นได้ชัดก็คงจะเหมือนกับสุนัขบ้านที่มีขนาดตัวใหญ่เป็นพิเศษนั่นเอง 

สายพันธุ์ในที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือมักจะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ทางภาคใต้ โดยสามารถมีน้ำหนักสูงสุดได้กว่า 33.91 กิโลกรัมเลยทีเดียว 

หมาป่าไคโยตี

การรวมฝูงของพวกเขานั้นส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเป็นตัวที่มีอายุใกล้เคียงกันอยู่ร่วมกันหรือตัวที่กำลังเติบโตไม่เกิน 6 ตัวเท่านั้น ที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในฝูงก็ไม่ได้มั่นคงหรือแนบแน่นเท่ากับเพื่อนร่วมสายพันธุ์แต่อย่างใด 

สาเหตุส่วนหนึ่งคงเกิดมาจากการที่พวกเขาชื่นชอบการอยู่ตามลำพังมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงสื่อสารกันโดยการใช้เสียงร้องที่สูงเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเห่าหรือเสียงหอนก็ตาม พวกเขามักใช้เสียงดังกล่าวในการสื่อสารกันในช่วงหัวค่ำไปจนถึงกลางดึก ไม่เพียงเท่านั้น เสียงของหมาป่าไคโยตียังใช้ในการหาคู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ที่จะเกิดขึ้นตอนฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย 

หลังจากที่ตัวแม่คลอดตัวลูกออกมาก็จะเลี้ยงดูไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเป็นช่วงเวลาที่เด็ก ๆ จะบอกลาครอบครัวเพื่อไปใช้ชีวิตของตนเอง ปัจจุบันพวกเขานับว่าเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงในการสูญพันธุ์ค่อนข้างต่ำถึงแม้ว่าจะพบได้ในบริเวณในบางบริเวณที่ค่อนข้างแคบก็ตามหากเทียบกับพื้นที่ทั่วโลก 

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าธรรมชาตินั้นจะโหดร้ายไม่น้อยเช่นเดียวกัน เพราะพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติได้เพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น 

หมาป่าไคโยตี คู่หูข้ามสายพันธุ์กับตัวแบดเจอร์

หมาป่าไคโยตี

หมาป่าไคโยตี เป็นสัตว์กินเนื้อที่ล่าเก่งเป็นอย่างมากเพราะพวกเขามีความรวดเร็วว่องไว แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากพวกเขาออกล่าตามลำพังเปอร์เซ็นต์ประสบความสำเร็จก็ค่อนข้างต่ำไม่น้อยเช่นเดียวกัน และมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาจึงมีชีวิตอยู่ในธรรมชาติได้เพียงแค่ 6 ปี 

เพราะเราต้องไม่ลืมว่า นอกจากพวกเขาจะต้องออกล่าหาอาหารแล้ว พวกเขายังเป็นเหยื่อสำหรับสัตว์ตัวใหญ่บางตัวอีกด้วย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงมักรวมกลุ่มกับตัวแบดเจอร์ นั่นก็เป็นเพราะว่า ทักษะการออกล่าของพวกเขาทั้งสองสายพันธุ์สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี เมื่อออกล่าร่วมกันเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว 

เริ่มต้นจากการที่ให้ตัวแบดเจอร์จะขุดหลุมเพื่อดักซุ่มเหยื่อ หลังจากที่เหยื่อเห็นหลุมของแบดเจอร์ก็จะตกใจกลัวและวิ่งเตลิดหนีไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าหมาป่าไคโยตีกำลังดักซุ่มรออยู่อีกทางหนึ่ง พวกเขาจะวิ่งไล่ตามและสังหารเหยื่ออย่างรวดเร็ว ก่อนจะแบ่งปันอาหารอันโอชะร่วมกัน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment