ความเชื่อเกี่ยวกับ อาย-อาย

บางครั้งหลาย ๆ คนมีความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์บางชนิดว่าเป็นพวกปีศาจเพียงเพราะลักษณะรูปร่างหน้าตาของมัน ซึ่งวันนี้ Animal kingdom จะมาพูดถึง “อาย-อาย” ที่ใครหลาย ๆ คนเชื่อว่าเป็นปีศาจ เนื่องจากรูปลักษณ์ของมันที่มีตาโตสีเหลือง นิ้วและเล็บแหลมคม และด้วยพฤติกรรมที่ชอบออกหากินตอนกลางคืน ซึ่งทำให้หลายคนเชื่อไปต่าง ๆ นานาว่าพวกมันเกี่ยวข้องกับความตายและความโชคร้าย Animal kingdom จะพามารู้จักกับพวกมันและความเชื่อต่าง ๆ ของผู้คนที่มีต่อมัน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

ลักษณะทั่วไปของอาย-อาย

การศึกษาข้อมูลดีเอ็นเอของอาย-อายพบว่า มันเป็นลีเมอร์ที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งถือเป็นต้นสายพันธุ์ของลีเมอร์หลาย ๆ ชนิดในปัจจุบัน แต่มีลักษณะแตกต่างจากลีเมอร์ทั่วไป คือ รูปร่างหน้าตาอันน่ากลัวราวกับปีศาจ ซึ่งจะมีฟันที่แหลมคม ส่วนใบหูจะกางโตคล้ายค้างคาว และจะมีนิ้วเท้าที่ลีบเล็กแถมยังยาวและมีรูปร่างที่ผอมหนังติดกระดูก พวกมันมีจุดเด่นที่นิ้วชี้กับนิ้วกลางจะแหลมยาวมากกว่านิ้วอื่น ๆ มีลำตัวเท่ากับแมว ตามตัวจะมีขนสีดำปลายสีเงิน ส่วนหางจะยาวและฟูคล้ายกับหางกระรอก มีน้ำหนักราว 15 กิโลกรัม ด้วยลักษณะที่พูดมานี้ทำให้คนมีความเชื่อว่า อาย-อาย คือปีศาจ

ความเชื่อเรื่อง อาย-อาย นำความตาย

อาย-อาย เป็นลีเมอร์เพียงไม่กี่ชนิดที่ออกหากินตอนกลางคืน ส่วนมากแล้วลีเมอร์จะออกหากินช่วงเช้า โดยชาวมาลากาซี หนึ่งใน 3 กลุ่มชนในมาดากัสการ์ มีความเชื่อว่า สัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์ที่นำความตายมาให้แก่คนที่พบเห็นพวกมัน และยังมีข้อห้ามและความเชื่อของอาย-อายอีกเป็นจำนวนมากเช่น หากพบพวกมันอยู่ใกล้กับหมู่บ้านจะทำให้ใครสักคนในหมู่บ้านตายในไม่ช้า และยังมีความเชื่ออีกว่าผู้ที่ตายนั้น จะต้องกลับมาเกิดใหม่เป็น อาย-อาย  หรือถ้าหากผู้ใดได้สัมผัสของลีเมอร์ชนิดนี้จะต้องตายภายใน 1 ปี และหากนิ้วที่ยาวที่สุดของมันชี้ไปหาผู้ใด คนคนนั้นก็จะต้องตาย

ความเชื่อเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างไร

ความเชื่อเหล่านี้ส่วนมากส่งผลกระทบต่อตัว อาย-อายโดยตรง เนื่องจากผู้คนยังมีความเชื่ออีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าหากมีรอยขีดข่วนบนพืชผักที่เกิดจากสัตว์ชนิดนี้จะทำให้ชาวสวนเกิดความโชคร้าย และถ้าหากฆ่าพวกมันก็จะทำให้ความโชคร้ายนั้นหายไป จึงทำให้ชาวไร่ชาวนาไล่ล่าฆ่าสัตว์ชนิดนี้ จนทำให้ในปัจจุบันพวกมันมีสถานะใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว วิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก่อนที่พวกมันจะโดนคุกคามจนสูญพันธุ์วิธีหนึ่งคือ การให้ความรู้แก่ชาวบ้านและสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้คน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศของสัตว์พวกนี้ หรืออาจจะต้องเปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับพวกมันว่าเป็นสัตว์ที่นำพาโชคลาภมาให้ แต่การเปลี่ยนความเชื่อที่มีการฝังรากลึกมาเนิ่นนานคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็ยังไม่สายที่จะช่วยเหลือพวกมันที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ