เสือดำ สัตว์สีแปลกหายากที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมไทย

ความจริงแล้วคนไทยนั้นเป็นคนที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมไม่น้อยเลยทีเดียว ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้วได้เกิดเหตุการณ์ล่าสัตว์ผิดกฎหมายที่ถือได้ว่าโด่งดังเป็นอย่างมาก และหนึ่งในเหยื่อก็คือ เสือดำ มันกลายเป็นประเด็นที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในสังคม ที่ทำให้ผู้คนในสังคมหันมาใส่ใจและตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สัตว์โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งความจริงแล้วมันเกิดมาจากการที่พวกเขาหาได้ยากและมีความเสี่ยงที่อาจจะสูญพันธุ์ แถมตัวที่เป็นเหยื่อนั้นก็ยังเป็นเด็กอยู่ด้วยซ้ำไป ทำให้ผู้คนรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเสือดำให้มากขึ้น พวกเขาเป็นใคร มาจากไหน และมีลักษณะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่ 

ทำความรู้จักกับเสือดำ สัตว์สีหายากที่แปลกจนเป็นที่รู้จัก

เสือดำ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์แบบเดียวกับเสือดาวนั่นก็เป็นเพราะว่า ในหลักสัตวศาสตร์แล้วพวกเขาเป็นสัตว์ชนิดเดียวกันที่มีสีสันแตกต่างกันเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะว่าในบางครั้ง เสือดาวธรรมดาทั่วไปที่มีสีบนลำตัวเป็นสีเหลืองอมส้ม ก็สามารถออกลูกเป็นสีดำได้เช่นเดียวกัน 

ในขณะที่หากแม่เป็นตัวสีดำอยู่แล้ว ลูกที่ออกมาก็สามารถมีได้ทั้งสีดำและสีธรรมดาทั่วไป หากเรามองแบบผิวเผินแล้วเสือดำดูเหมือนจะมีสีดำไปตลอดทั้งตัว แต่หากสังเกตให้ดีหรืออยู่ในจุดที่มีแสงสว่างเราจะพบว่า พวกเขานั้นยังคงมีลายจุดเหมือนกับเสือดาวทั่วไปให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน 

บรรดานักสัตวศาสตร์เชื่อว่าในตัวพวกเขานั้นมีเมลานินหรือต่อมมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามมีสวนสัตว์แห่งหนึ่งในต่างประเทศได้ทดลองให้เสือสีดำผสมพันธุ์กันทั้งตัวผู้และตัวเมีย พวกเขาสามารถออกลูกเป็นสีดำล้วนได้ทุกครอกเลยทีเดียว 

ด้วยเหตุนี้นักวิจัยบางส่วนจึงมีข้อคิดเห็นว่า บางทีพวกเขาอาจจะเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่แยกจากกันอย่างชัดเจนก็ได้เช่นเดียวกัน 

ถิ่นที่อยู่อาศัยของเสือดำและข้อสันนิษฐานถึงที่มาของสีดำบนตัว

เสือดำอาศัยอยู่ในบริเวณป่าทึบ ป่าโปร่ง หรือแม้แต่ในป่าที่มีโขดหิน สามารถพบได้ทั้งไปในทวีปแอฟริการวมไปถึงเอเชีย ตั้งแต่บริเวณแมนจูเรียมาจรดชวา รวมทั้งคาบสมุทรอินโดจีน ประเทศไทย และมาเลเซีย ยิ่งทางตอนใต้ยิ่งมีจำนวนมากโดยเฉพาะในบริเวณปลายแหลมมลายู ในขณะที่เสือดาวสีธรรมดากลับมีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

เคยมีการรายงานในวารสาร Royal Asiatic Society ว่า เสือดาวที่อาศัยอยู่บริเวณทางตอนใต้จากมะละกาลงไปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสีดำทั้งสิ้น ไม่พบตัวที่เป็นสีธรรมดาเลยแม้แต่น้อย จึงมีข้อสันนิษฐานว่าอากาศที่ร้อนและฝนที่ตกชุก ทำให้สัตว์เปลี่ยนสีขนให้กลายเป็นสีดำ และยิ่งอยู่ทางทิศใต้ลงไปสีก็จะยิ่งเข้มมากขึ้นด้วยเช่นกัน 

พวกเขาเป็นสัตว์กินเนื้อ ดังนั้นจึงมักจะล่าสัตว์เพื่อกินเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้นักล่าสัตว์บางคนจึงมีข้อสังเกตว่า บรรดาเสือดาวที่อาศัยอยู่ทางภาคใต้มักจะจับลิงหรือข้างกินอยู่เสมอ ธรรมชาติจึงได้มีการเปลี่ยนสีขนของพวกเขาให้เป็นสีดำซึ่งเข้ากับป่ามืดทึบที่ลิง ค่าง บ่าง ชะนีอาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดี 

อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้น เพราะความจริงแล้วเสือดำนั้นสามารถกินทุกอย่างที่จับได้ไม่ว่าจะเป็นกวาง หมู นกยูง แมลง สุนัข ปลา หรือปูที่อยู่ใต้น้ำ ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะมีพฤติกรรมล่าเหยื่อบนพื้นดิน จากนั้นก็ลากขึ้นไปกินบนต้นไม้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอื่นมาแย่ง 

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจะมีความสำคัญในระบบนิเวศเป็นอย่างมาก เพราะสามารถควบคุมประชากรสัตว์ได้เป็นอย่างดี ทำให้ระบบนิเวศนั้นมีความสมดุล พวกเขาเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองเนื่องจากเป็นสัตว์หายาก 

ส่วนใหญ่มักพบพวกเขาอาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติหรือไม่ก็ในเขตป่าสงวน ที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถบุกรุกเข้าไปล่าสัตว์ได้แต่อย่างใด นอกจากนี้บางตัวก็ยังมีเจ้าหน้าที่ติดตั้งกล้องเพื่อดูว่า พวกเขานั้นมีความเป็นอยู่ดีหรือไม่อีกด้วย 

มันจึงเป็นเรื่องน่าเศร้าเป็นอย่างมาก ที่เมื่อหลายปีที่แล้วได้เกิดข่าวสะเทือนขวัญ เมื่อมีการพบซากสัตว์มากมายไม่ว่าจะเป็น เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทาและเก้ง จากการลักลอบล่าสัตว์ในเขตป่าสงวน ทั้งที่ในบริเวณนั้นเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ที่ไม่ได้มีการอนุญาตให้ตั้งแคมป์ออกจากเส้นทางท่องเที่ยวแต่อย่างใด 

และยังเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ เพื่อให้สัตว์ได้มีที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์โดยไม่ได้รับการรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์อีกด้วย 

เสือดำ สัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ที่ต้องช่วยกันอนุรักษ์

เสือดำ ถือได้ว่าเป็นสัตว์แปลก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากจะมีใครสักคนที่มีความคิดอยากจะครอบครองพวกเขาเอาไว้ ไม่ว่าจะทั้งแบบที่มีชีวิตหรือเป็นเพียงแต่เศษชิ้นส่วนก็ตาม บางคนก็ถึงขั้นลักลอบเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อล่าสัตว์แบบผิดกฎหมายก็มีเช่นเดียวกัน 

อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า ความจริงแล้วพวกเขาจัดเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญกับระบบนิเวศเป็นอย่างมาก ประกอบกับการที่พวกเขาหาได้ยากอยู่แล้ว ดังนั้นมันยิ่งมีเหตุผลที่เราควรร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์พวกเขาให้ยังคงอยู่กับธรรมชาติต่อไป 

แต่สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าสัตว์ที่แข็งแกร่งก็ยังคงไม่สามารถเอาชนะมนุษย์อย่างเราได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการต่อสู้หรือความโลภก็ตามที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกจัดให้อยู่ในบัญชีที่ 1 ของไซเตสตั้งแต่ 43 ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังคงไม่รอดพ้นการล่าโดยมนุษย์อยู่ดี 

ปัจจุบันเสือดำนั้นกลายเป็นสัตว์ที่มีสถานะใกล้สูญพันธุ์ ดังนั้นจึงห้ามมีการค้าในเชิงพาณิชย์โดยเด็ดขาด ห้ามมีการนำเข้าหรือส่งออกเว้นแต่จะได้รับการอนุญาตผ่านสำนักอนุรักษ์สัตว์ของกรมอุทยานแห่งชาติเท่านั้น เพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้พวกเขานั้นยังคงมีชีวิตอยู่ตามธรรมชาติและขยายพันธุ์ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่เช่นนั้นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์สายพันธุ์นี้ก็คงจะสูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้อย่างแน่นอน 

นั่นก็เป็นเพราะว่ายังคงมีมนุษย์บางส่วนที่มีความต้องการหนังของพวกเขาในการทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่น มีการนำเอาเครื่องในไปทำเป็นยาจีน และด้วยความเชื่อผิด ๆ อีกมากมาย ทำให้สถานะของพวกเขาถือว่าน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าทางการในหลายประเทศจะพยายามอนุรักษ์พวกเขาเอาไว้ก็ตาม 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me