วิธีจัดการแมวจรจัด ก่อนนำมาเลี้ยง

by animalkingdom
401 views
แมวจรจัด

สำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยงแต่ยังไม่รู้วิธีฝึกและวิธีดูแลน้อง วันนี้ Animal kingdom มีวิธีดูแลมาแนะนำกับเหล่าทาสทั้งหลาย เพื่อให้สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณได้อย่างถูกวิธีและให้มีสุขภาพที่แข็งแรง วิธีการเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

แนะนำวิธีจัดการแมวจรจัด ก่อนนำมาเลี้ยง

การพาไปหาหมอ

ก่อนที่จะนำแมวจรจัดมาเป็นสัตว์เลี้ยง เราจะต้องพาไปตรวจเช็คสุขภาพก่อนว่า น้องไม่มีโรคและมีร่างกายที่แข็งแรงปกติดีหรือไม่ เพื่อที่จะไม่นำโรคต่าง ๆ เข้ามาติดสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ที่คุณเลี้ยงไว้ และหากมีโรคอยู่ก็จะได้รักษาให้หายก่อนนำเข้าบ้านค่ะ 

การให้อาหาร

ก่อนนำแมวจรเข้ามาเลี้ยงในบ้าน เราจะต้องฝึกแมวให้เชื่องเสียก่อน ซึ่งการฝึกให้คุ้นชินกับเรานั้น คงหนีไม่พ้นการให้อาหาร ซึ่งเป็นการสร้างความคุ้นเคย ความไว้ใจให้กับแมว เมื่อเขาเห็นเราในครั้งต่อ ๆ ไป เขาจะรู้ว่าคุณมาให้อาหารและสามารถเข้าใกล้ได้ ข้อสำคัญคือ การให้อาหารจะต้องให้ในเวลาเดิมทุกวัน เพื่อให้เกิดความเคยชิน

แมวจรจัด

การพาเข้าบ้าน

แน่นอนอยู่แล้วว่า การพาแมวจรจัดเข้าบ้านมาเป็นสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเมื่อเราเข้าไปใกล้น้องก็จะหนีทันที ดังนั้นเราต้องวางกับดักจับน้อง ซึ่งจะต้องเป็นกับดักที่ปลอดภัย อย่างกรงที่เมื่อน้องแมวเข้าเหยียบแผ่นเหล็กประตูกรงก็จะปิดเอง และถ้าหากรองกรงด้วยผ้านิ่ม ๆ ก็จะดีมาก เมื่อเราจับน้องได้แล้วก็พาน้องเข้าไปเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านได้เลยค่ะ โดยเริ่มแรกเราจะจัดห้องที่มีพื้นที่จำกัดให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างแมวจรก่อน จนกว่าน้องจะเกิดความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ซึ่งต้องเป็นห้องที่เงียบและห่างไกลผู้คนหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ส่วนอุปกรณ์ที่วางไว้ให้น้องจะมี ชามข้าว กระบะทราย ชามน้ำ และของเล่นสัก 2-3 ชิ้น เอาไว้ให้เล่นแก้เหงา หรือทำกล่องทำมุมไว้ให้น้องหลบซ่อนตัว ที่สำคัญจะต้องเช็คให้ดีว่าน้องจะไม่สามารถหนีไปไหนได้ เมื่อตกกลางคืนให้เปิดไฟดวงเล็ก ๆ ไว้พอให้สลัว ๆ เพื่อให้แมวได้รู้สึกปลอดภัยในสถานที่ใหม่ 

แมวจรจัด

 วิธีการดูแล

เมื่อแมวจรเริ่มเชื่องและเชื่อใจคุณแล้ว คุณจะต้องหมั่นดูแล และใส่ใจน้องเป็นอย่างดี ที่สำคัญห้ามขู่หรือตีน้องเด็ดขาดไม่ว่าจะดื้อขนาดไหน เพื่อไม่ให้น้องต้องกลัวคุณ เวลาเราฝึกน้องแล้วเขาทำตามต้องให้รางวัลทุกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเชื่อฟังคำสั่ง เราจะต้องคอยเล่นด้วยบ่อย ๆ ไม่ให้เขาต้องเหงา ซึ่งไม่ใช่แค่การดูแลสภาพจิตใจเท่านั้น เราจะต้องดูแลสุขภาพของน้องด้วย อย่างเช่น ขน เราต้องคอยหมั่นทำความสะอาดขนให้กับน้องบ่อย ๆ เพื่อให้มีสุขภาพขนที่ดี และให้อาหารในเวลาเดิมทุกครั้ง โดยการฝึกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เราจะต้องมีความอดทนและใจเย็นในการฝึกให้เขาเชื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment