สุนัขมีหลากหลายสัญชาติ แต่ถ้าหากพูดถึงสุนัขสัญชาติญี่ปุ่นคงต้องนึกถึง ชิบะ อินุ หมาพันธุ์เล็กที่เป็นขวัญใจของใครหลายคน พวกเขามีความสง่างามและน่ารักอยู่ในตัวเดียวกัน นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมเลี้ยงในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย พวกเขาจะมีลักษณะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับชิบะ อินุ สุดยอดสุนัขเฝ้าบ้าน ฉลาดอย่าบอกใคร
หนึ่งในสุนัขเฝ้าบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากต้องยกให้ ชิบะ อินุ หมาพันธุ์เล็กสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนเลี้ยงหมาเป็นอย่างมาก ชื่อของพวกเขาเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลได้ว่า สุนัขพุ่มไม้ คาดว่าน่าจะหมายถึง สีของพุ่มไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้มอมแดง
ในอดีตที่พวกเขาเคยถูกใช้ในการล่าสัตว์และมักจะซ่อนตัวอยู่ตามพุ่มไม้ ซึ่งจากสีของพวกมันจึงทำให้เนียนไปกับพุ่มไม้ แต่หากเป็นภาษาท้องถิ่นแถบนากาโนะคำว่า ชิบะ จะหมายถึง เล็ก ซึ่งอาจจะหมายถึงขนาดตัวของพวกเขาที่เล็กกว่าสุนัขญี่ปุ่นสายพันธุ์ดั้งเดิมสายพันธุ์อื่น
หากคุณกำลังมองหาสุนัขที่มีขนาดตัวไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ชิบะ อินุ ก็ถือว่าตอบโจทย์ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะพวกเขาจะมีน้ำหนักประมาณ 8 ถึง 10 กิโลกรัมเท่านั้น ขึ้นอยู่กับเพศ หากเป็นตัวเมียก็จะน้ำหนักน้อยหน่อย ส่วนสูงเริ่มต้นที่ประมาณ 13 นิ้วครึ่ง ไปจนถึง 16 นิ้วครึ่ง
ลักษณะภายนอกของพวกเขามีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก จมูกยื่นยาวออกมารับกับขนาดกะโหลกพอดี มีดวงตาทรงเสน่ห์เป็นรูปอัลมอนด์ นอกจากนี้ ชิบะ อินุ มักมีขนสีขาวขึ้นบริเวณคิ้วที่ทำให้ดูสวยขึ้นกว่าเดิม มีใบหูทรงสามเหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ตั้งขึ้นคอยฟังเสียงอยู่ตลอดเวลา กล้ามเนื้อผ่านการพัฒนามาเป็นอย่างดีจนแข็งแรงสุด ๆ
ขนของพวกเขามี 2 ชั้น ถึงแม้ว่ามันจะสั้นก็ตาม เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่นนั้น เรียกได้ว่ามีอากาศหนาวเป็นอย่างมาก ขนชั้นนอกจะเป็นเส้นตรงและมีความแข็งกระด้าง ส่วนขนชั้นในจะทั้งนุ่มและหนา ส่วนหางจะมีขนยาวเป็นพิเศษลักษณะเป็นพวงคล้ายกับกระรอก
หางของ ชิบะ อินุ มักจะม้วนขึ้นมาบนหลังอยู่เสมอ คล้ายกับสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน สีขนส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยสีน้ำตาลแดง สีแทน สีดำ และสีงาแดง บางตัวอาจมีขนสีครีม แต่ถือเป็นยีนส์ด้อยที่ไม่ควรเอาไปขยายพันธุ์ต่อ ส่วนอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 ปีถึง 15 ปี แล้วแต่สุขภาพและการเลี้ยงดู
เปิดประวัติความเป็นมาของชิบะ อินุ สายพันธุ์ดั้งเดิมในญี่ปุ่น
ชิบะ อินุ สุนัขพันธุ์เล็กที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ถึงพวกเขาจะไม่ได้ตัวเล็กมากมายนัก แต่ก็เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดจากสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ความโดดเด่นของพวกเขาคือมีความคล่องตัวและว่องไว เหมาะกับประเทศญี่ปุ่นที่มีแต่ภูเขา
ในอดีตพวกเขาได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการล่าสัตว์ ลักษณะจึงมีความคล้ายคลึงกับสุนัขสายพันธุ์อาคิตะ แต่ขนาดตัวเล็กกว่า เพราะฉะนั้น หากต้องการเลี้ยงก็ต้องทำความเข้าใจนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่อดีตของพวกเขาด้วย แต่บอกเลยว่าใครอยากเลี้ยงก็เลี้ยงเลย เพราะพวกเขาเป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่เพียงแค่ไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับชิบะ อินุ ก่อนตัดสินใจเลี้ยง
สิ่งแรกที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยง ชิบะ อินุ ก็คือ วิธีเลี้ยง ซึ่งคุณจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อทำความรู้จักกับนิสัยของพวกเขา พวกเขาเป็นสุนัขที่อัธยาศัยดีแต่ก็มีความกล้าหาญ เหมือนจะเข้ากับคนง่าย แต่ก็เป็นตัวของตัวเองสูง มีความมั่นใจในตัวเอง ถ้าผู้เลี้ยงไม่ฝึกสอนให้ดี พวกเขาอาจจะสอนพวกคุณแทน
นอกจากนี้ยังมีความรักอิสระและชอบการวิ่งเล่น แต่ในขณะเดียวกันก็มักระแวงคนแปลกหน้าอยู่เสมอ ทำให้พวกเขามักที่จะขู่สุนัขตัวอื่นเวลาที่เราพาไปวิ่งเล่น
เห็นขนสั้นแบบนี้แต่ความจริงแล้ว ชิบะ อินุ รักความสะอาดมาก มักจะเลียทำความสะอาดลำตัวอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเรื่องการดูแลความสะอาดจึงไม่น่ากังวลสักเท่าไหร่ ช่วงผลัดขนก็แค่คอยหวีขนของพวกเขาเป็นประจำก็พอ และอาบน้ำประมาณสัปดาห์ละครั้งเพื่อชำระสิ่งสกปรก
สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขารู้สึกไม่พอใจหรือถูกกระตุ้นแบบผิด ๆ พวกเขาจะไม่เห่า แต่จะส่งเสียงเหมือนการกรีดร้องที่ทั้งเสียงแหลมและดังเป็นพิเศษ เป็นเสียงที่ใกล้เคียงกันกับเวลาที่พวกเขาดีใจเวลาเรากลับมาถึงบ้าน หากเลี้ยงในห้องพักหรือคอนโดมิเนียมอาจสร้างความเดือดร้อนรำคาญได้
การดูแลชิบะ อินุ สิ่งที่จะช่วยยืดอายุของพวกเขาได้
ในอดีตพวกเขาเคยถูกใช้งานล่าสัตว์มาก่อน ต้องเดินแล้ววิ่งเป็นทางไกลติดต่อกันนาน ๆ เพราะฉะนั้น ชิบะ อินุ จึงต้องการการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเป็นประจำทุกวัน ถ้าเราไม่มีเวลาพาพวกเขาไปเดินเล่นติดต่อกัน 2 ชั่วโมงต่อวัน ก็ต้องพาพวกเขาไปออกกำลังกายวันละหลายครั้งหน่อย
ในฝั่งของอาหาร เราขอแนะนำให้ใช้อาหารคุณภาพดีที่มีโภชนาการครบถ้วนและเหมาะสมกับช่วงวัย โดยให้ประมาณครึ่งถ้วยถึง 1 ถ้วยครึ่งต่อวัน แบ่งเป็นวันละ 2 มื้อ ที่สำคัญคือ ควรมีโปรตีนหลักเป็นเนื้อสัตว์ด้วย เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่างข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลี ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ตามมาได้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me
