สุนัขนั้นมีหลากหลายพันธุ์ให้เราได้เลือกเลี้ยงตามความชื่นชอบของแต่ละคน อย่างเช่นสุนัขพันธุ์ดัชชุนที่มาพร้อมกับความยาวเป็นพิเศษของสันหลัง ทำให้พวกเขานั้นมีชื่อเล่นว่า หมาไส้กรอก ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจึงได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังมีนิสัยที่น่ารักและเป็นมิตรอีกด้วย Animalkingdom จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสุนัขพันธุ์นี้กันว่า พวกเขามาจากไหนและมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร
ทำความรู้จักกับดัชชุน สุนัขไส้กรอกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์
ดัชชุนเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนามาจากสุนัขแบดเจอร์อีกทีหนึ่ง ต้นกำเนิดของพวกเขานั้นอยู่ในประเทศเยอรมันตั้งแต่สมัยก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 15 แล้ว แรกเริ่มเดิมทีนั้นพวกเขาถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการล่าสัตว์เป็นพิเศษ ดังนั้นในอดีตพวกเขาจึงเป็นสุนัขขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 20 ปอนด์
พวกเขาสามารถล่าสัตว์ทุกอย่างที่อยู่ภายในป่าได้ ตั้งแต่กระต่ายไปจนถึงหมูป่าขนาดใหญ่เลยทีเดียว พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องความคล่องแคล่วว่องไวเป็นอย่างมาก แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้พวกเขาตัวเล็กลง เพื่อเหมาะสำหรับการเลี้ยงในบ้านมากขึ้นกว่าเดิม
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของพวกเขาก็คือ มีลำตัวที่ยาวเป็นพิเศษและกล้ามเนื้อเยอะ อุ้งเท้าขนาดเล็กมีลักษณะคล้ายกับใบพัด ใบหน้าจะยื่นยาวออกมา จมูกกว้างเป็นพิเศษ หูขนาดใหญ่ยาวลงมาถึงลำคอ มีทั้งหมด 3 รูปแบบประกอบไปด้วย แบบขนสั้น ขนยาว และขนตั้ง มีทั้งหมด 3 ขนาดตั้งแต่ขนาดมาตรฐาน ขนาดเล็ก และขนาดที่เทียบเท่ากับกระต่าย อายุขัยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 14 ถึง 17 ปี
ในยุคหนึ่งเหล่าบรรดาราชวงศ์นิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสุนัขที่พระราชินีวิคตอเรียโปรดปรานเป็นพิเศษ ปัจจุบันพวกเขาจึงมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10 ปอนด์เท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้มีการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ก่อนจะแพร่หลายและได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก
พวกเขานั้นเป็นสุนัขที่เคยล่าสัตว์มาก่อนดังนั้นจึงมีสัญชาตญาณอยู่ในตัว บางครั้งจึงแสดงออกมาด้วยพฤติกรรมความดื้อ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ทำงานเก่งและจงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก มีความขี้เล่นแต่ในขณะเดียวกันก็มีความสุขุมเช่นเดียวกัน
อยากเลี้ยงสุนัขดัชชุนต้องใส่ใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ
ดัชชุนเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีร่างกายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิ่งสำคัญในการดูแลพวกเขาก็คือ การออกกำลังกาย เจ้าของควรมีเวลาว่างพาพวกเขาเดินอย่างน้อย 2.5 ไมล์ต่อวันหรือจะปล่อยพวกเขาวิ่งเล่นในสนามหญ้าก็ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากพวกเขาค่อนข้างเตี้ยจึงมีโอกาสสูงที่จะน้ำหนักเกิน ปริมาณอาหารที่เหมาะสมคือ อาหารเม็ดไม่เกิน 1.5 ถ้วย และต้องเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพ
พวกเขามีโรคประจำตัวมากมายที่ต้องระวังตั้งแต่โรคผิวหนัง โรคระบบประสาท โรคกระเพาะอาหาร โรคเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อ โรคข้ออักเสบ เนื้องอก โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือภาวะสูญเสียการได้ยิน
ติดตามเรื่องราวต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกันสัตว์โลกแสนรู้เพิ่มเติมได้ที่ Animalkingdom.me
