รู้จักกับ อิงลิช บลูด็อก เพื่อนรักสี่ขาผู้ซื่อสัตย์

by animalkingdom
98 views
อิงลิช บลูด็อก

สุนัขที่น่ารักไม่ได้มีแค่สุนัขที่ขนฟูตัวเท่านั้น อย่างเจ้าอิงลิช บลูด็อก หมาขนสั้นที่สามารถทำให้หัวใจของใครหลาย ๆ คนละลายได้เช่นกัน รูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาอาจดูแตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่นสักหน่อย แถมยังมีภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแรงและดุร้าย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เพราะมีอีกหลายอย่างเลยทีเดียวที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับพวกเขา

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอิงลิช บลูด็อก ต้นกำเนิด นิสัย และมาตรฐานสายพันธุ์ 

อิงลิช บลูด็อก

อิงลิช บลูด็อกเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนเลี้ยงหมา บางคนก็เรียกชื่อพวกเขาว่าบริติช บูลล์ด็อก นอกจากนี้ยังมีบลูด็อกสายพันธุ์อื่นอีกทั้ง อเมริกา บลูด็อกและเฟรนช์ บลูด็อก ลักษณะของพวกเขาจึงมีความใกล้เคียงกันจนหลายคนแยกไม่ออก

สำหรับต้นกำเนิดของพวกเขายังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด แต่ว่ากันว่าพวกเขามีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ โดยคำว่า บลู อาจมาจากการที่พวกเขามักตกเป็นเหยื่อในกีฬาสุดโหดอย่างการต่อสู้กับวัว

กีฬาประเภทนี้ได้รับการยกเลิกและถูกสั่งห้ามจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1835 พวกมันจึงเริ่มได้รับความนิยมในฐานะสุนัขที่เลี้ยงในบ้านมากขึ้น หลังจากนั้น 10 ปี พวกมันก็ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก จนสุดท้ายก็ได้รับการจดทะเบียนสายพันธุ์กับหลายสมาคมสายพันธุ์สุนัขชื่อดัง

ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอาจทำให้หลายคนคิดว่า อิงลิช บลูด็อก ดุร้าย แต่ความจริงแล้วพวกมันเป็นสุนัขที่ทั้งสงบและซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก

รูปลักษณ์ตามมาตรฐานของสายพันธุ์อิงลิช บลูด็อก

อิงลิช บลูด็อก

อิงลิช บลูด็อก เป็นสุนัขที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถมีน้ำหนักตัวได้สูงถึง 55 ปอนด์หรือประมาณ 20 กิโลกรัมขึ้นไป ลักษณะของพวกเขาจะดูบึกบึน ไหล่หนา กะโหลกใหญ่ ผิวหนังหนาตลอดทั้งลำตัว ดวงตากลมโตสีดำ จมูกและปากสั้น มีผิวหนังห้อยตกลงมาบริเวณปากและจมูกจนดูเหมือนหน้าบึ้งตลอดเวลา 

หูเป็นทรงสามเหลี่ยมที่ปลายจะพับตกลงมาเล็กน้อยเท่านั้น พวกมันเป็นสุนัขขนสั้นที่ทั้งเงาและเรียบสนิทไปทั่วทั้งตัว มีหลากหลายสีสันทั้งสีขาว สีแดง สีน้ำตาลแกมเหลือง ไปจนถึงแบบมีลวดลาย 

ในอดีตพวกเขามักถูกตัดหางหลังจากคลอดในทันที แต่ยุคนี้คนส่วนใหญ่ไม่ทำแบบนั้นแล้ว เนื่องจากมองว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ เราจึงมีโอกาสได้เห็นหางเป็นเกลียวตามธรรมชาติของพวกเขานั่นเอง

ลักษณะนิสัยของอิงลิช บลูด็อก

  พวกเขาค่อนข้างนิสัยดี โดยปกติแล้วจะเชื่อง ไม่ค่อยดุร้าย และถึงแม้ว่าจะตัวดูอ้วนตัน แต่ก็สามารถเคลื่อนไหวในระยะสั้นได้อย่างรวดเร็ว ชื่นชอบการเข้าสังคมและเป็นมิตร สามารถเข้ากับคนใหม่ ๆ สุนัขตัวใหม่ได้เป็นอย่างดี พวกมันเป็นมิตรถึงขั้นที่สามารถเลี้ยงกับเด็กหรือสุนัขตัวอื่นได้เลยทีเดียว

สาเหตุที่ทำให้ อิงลิช บลูด็อก มีนิสัยที่อ่อนโยนผิดจากรูปลักษณ์ภายนอกนั้น ส่วนหนึ่งเกิดมาจากเหล่านักผสมพันธุ์สัตว์ที่มีการกำจัดความดุร้ายตามสายพันธุ์ดั้งเดิมออกไปจนหมด ทำให้เราได้รู้จักพวกมันในฐานะของสุนัขอารมณ์ดี สามารถเลี้ยงติดบ้านได้ ไม่ค่อยออกไปไหนถ้าไม่มีคนพาไป แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความดื้อรั้นเช่นกัน การฝึกฝนจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากสักหน่อย

คู่มือการเลี้ยงดูอิงลิช บลูด็อก เคล็ดลับการดูแล ฝึกฝน และสุขภาพ

อิงลิช บลูด็อก

พวกมันขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขที่มีร่างกายใหญ่โต การดูแลจึงต้องอาศัยการออกกำลังกาย เราควรให้พวกเขาออกกำลังกายในระดับปานกลางเป็นประจำทุกวัน เพราะมันจะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพ และยังเป็นการเพิ่มความผ่อนคลายสบายใจให้กับพวกเขาอีกด้วย 

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างสงบนิ่งและร่าเริงแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราไม่พาพวกเขาออกกำลังกาย มันก็มีโอกาสที่จะทำให้พวกเขารู้สึกเครียดและมีพฤติกรรมก้าวร้าวตามมาได้

สิ่งสำคัญที่ต้องระวังในการพาอิงลิช บลูด็อกไปออกกำลังกายก็คือ พวกมันไวต่ออากาศร้อนเป็นอย่างมาก ในช่วงฤดูร้อนยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะพวกมันมีจมูกที่สั้น การหายใจจึงเป็นไปอย่างลำบาก โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนหรือความชื้นสูง ให้พาพวกเขาวิ่งในบริเวณที่มีร่มหรือหลีกเลี่ยงไปก่อนก็ได้

อิงลิช บลูด็อก

ถึงแม้ว่าเราจะดูแลเรื่องอาหารการกินของ อิงลิช บลูด็อก ดีแค่ไหน สุดท้ายแล้วพวกมันก็จะตัวอ้วนตันอยู่ดี แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถให้พวกเขากินตามใจปากได้ พวกเขาควรได้รับอาหารวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ส่วนปริมาณจะขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักตัว และกิจกรรมในแต่ละวัน เพราะพวกเขาค่อนข้างทำกิจกรรมน้อย โอกาสจะเกิดปัญหาโรคอ้วนจึงมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น 

อาหารที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวประมาณ 50 ปอนด์จะอยู่ที่ เกือบ 3 ถ้วยตวงไปจนถึง 3 ถ้วยตวงนิด ๆ อาหารที่ดีจะต้องอุดมไปด้วยโปรตีน แต่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายทั้งแร่ธาตุและวิตามิน สามารถตรวจสอบสารอาหารได้บนฉลาก

พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ปีกป่น ธัญพืช แป้ง ข้าวโพด ข้าวเจ้า ข้าวสาลี เพราะในสุนัขบางตัวอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ตามมาได้ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเหล่าสัตว์โลกแสนรู้ได้ที่ Animalkingdom.me

บทความที่เกี่ยวข้อง

Leave a Comment